ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สถานธนานุบาลเทศบาลนครภูเก็ต สำรองเงิน 45 ล้านบาท รองรับช่วงเปิดเทอม พร้อมเผยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ม.ค-มี.ค 52 มีผู้ใช้บริการสถานธนานุบาลภูเก็ตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมากว่า 1 พันราย วงเงินรับจำนำเพิ่มขึ้นกว่า 27 ล้านบาท
นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปีเป็นช่วงเปิดภาคเรียนของนักเรียน ซึ่งในสภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจทำให้ผู้ปกครองบางครอบครัวต้องประสบกับปัญหารายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย สถานธนานุบาลเทศบาลนครภูเก็ตจึงได้จัดเตรียมวงเงินสำรองเพื่อให้บริการประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และจำเป็นต้องใช้เงินในช่วงเปิดเทอม จำนวน 45 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินกู้เบิกเกินบัญชี จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 15 ล้านบาท และจากธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 30 ล้านบาท
สำหรับการรับจำนำทรัพย์สินจากประชาชนนั้นยังคงอัตราดอกเบี้ยรับจำนำเท่าเดิม กรณีเงินต้นไม่เกิน 4,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 บาทต่อเดือน เงินต้นเกิน 4,000 บาทแต่ไม่เกิน 30,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อเดือน เงินต้นเกินกว่า 30,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.25 บาทต่อเดือน พร้อมกันนี้ได้มีการปรับเพิ่มวงเงิน รับจำนำทองคำรูปพรรณ จากบาทละ 9,000 บาท เป็นบาทละ 11,000 บาท
นายกเทศมนตรีนครภูเก็ตยังกล่าวอีกว่า ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม 2552 ที่ผ่านมามีจำนวนผู้ใช้บริการจำนวน 14,911 ราย เพิ่มจากระยะเดียวกันของปี 2551 ที่ผ่านมามีผู้ใช้บริการ 13,276 ราย จำนวน 1,635 ราย มีวงเงินรับจำนำทั้งสิ้น 185,047,400 บาท (185 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนที่มีวงเงินรับจำนำ 158,047,600 บาท หรือเพิ่มขึ้น 27,884,400 บาท (27 ล้านบาท) ทั้งนี้ทางเทศบาลนครภูเก็ตเชื่อว่า วงเงินสดหมุนเวียนจำนวน 45 ล้านบาท ที่สถานธนานุบาลฯ ได้จัดเตรียมไว้จะเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนเนื่องจากในปีนี้รัฐบาลได้มีนโยบายให้การช่วยเหลือประชาชนออกมาหลายมาตรการ
ส่วนสาเหตุที่มีประชาชนนำทรัพย์สินมาจำนำจำนวนมากขึ้นก็เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำ
นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปีเป็นช่วงเปิดภาคเรียนของนักเรียน ซึ่งในสภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจทำให้ผู้ปกครองบางครอบครัวต้องประสบกับปัญหารายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย สถานธนานุบาลเทศบาลนครภูเก็ตจึงได้จัดเตรียมวงเงินสำรองเพื่อให้บริการประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และจำเป็นต้องใช้เงินในช่วงเปิดเทอม จำนวน 45 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินกู้เบิกเกินบัญชี จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 15 ล้านบาท และจากธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 30 ล้านบาท
สำหรับการรับจำนำทรัพย์สินจากประชาชนนั้นยังคงอัตราดอกเบี้ยรับจำนำเท่าเดิม กรณีเงินต้นไม่เกิน 4,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 บาทต่อเดือน เงินต้นเกิน 4,000 บาทแต่ไม่เกิน 30,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อเดือน เงินต้นเกินกว่า 30,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.25 บาทต่อเดือน พร้อมกันนี้ได้มีการปรับเพิ่มวงเงิน รับจำนำทองคำรูปพรรณ จากบาทละ 9,000 บาท เป็นบาทละ 11,000 บาท
นายกเทศมนตรีนครภูเก็ตยังกล่าวอีกว่า ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม 2552 ที่ผ่านมามีจำนวนผู้ใช้บริการจำนวน 14,911 ราย เพิ่มจากระยะเดียวกันของปี 2551 ที่ผ่านมามีผู้ใช้บริการ 13,276 ราย จำนวน 1,635 ราย มีวงเงินรับจำนำทั้งสิ้น 185,047,400 บาท (185 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนที่มีวงเงินรับจำนำ 158,047,600 บาท หรือเพิ่มขึ้น 27,884,400 บาท (27 ล้านบาท) ทั้งนี้ทางเทศบาลนครภูเก็ตเชื่อว่า วงเงินสดหมุนเวียนจำนวน 45 ล้านบาท ที่สถานธนานุบาลฯ ได้จัดเตรียมไว้จะเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนเนื่องจากในปีนี้รัฐบาลได้มีนโยบายให้การช่วยเหลือประชาชนออกมาหลายมาตรการ
ส่วนสาเหตุที่มีประชาชนนำทรัพย์สินมาจำนำจำนวนมากขึ้นก็เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำ