พัทลุง - สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองพัทลุงกู้เงินจากธนาคารออมสิน 30 ล้านบาท รองรับเปิดเทอมใหม่ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคือง
นายโกสินทร์ ไพศาลศิลป์ เปิดเผยว่า เทศบาลเมืองพัทลุงและ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ภาค 14 ร่วมลงนามในสัญญาการกู้เงิน เพื่อช่วยกระตุ้นสภาพคล่องให้สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองพัทลุง (โรงรับจำนำ) โครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ภาวะค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้นตามไปด้วย จึงทำให้สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองพัทลุง มีประชาชนมาใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน เป็นช่วงเปิดเทอมใหม่ ผู้ปกครองมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินเพื่อการศึกษาของบุตรหลาน ประกอบกับขณะนี้ ราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ทำให้เกษตรกรมีหนี้สินมากขึ้น สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองพัทลุงจึงต้องมีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับกับความต้องการของประชาชน
จึงได้ขอกู้เงินจากธนาคารออมสิน สาขาพัทลุง ในวงเงิน 30,000,000 บาท (สามสิบล้านบาทถ้วน) เพื่อนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนรับจำนำในกิจการของสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองพัทลุง ซึ่งเงินกู้ดังกล่าวจะได้รับการอนุมัติในช่วงเดือนมีนาคมนี้ ทั้งนี้เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคือง
นายโกสินทร์ ไพศาลศิลป์ เปิดเผยว่า เทศบาลเมืองพัทลุงและ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ภาค 14 ร่วมลงนามในสัญญาการกู้เงิน เพื่อช่วยกระตุ้นสภาพคล่องให้สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองพัทลุง (โรงรับจำนำ) โครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ภาวะค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้นตามไปด้วย จึงทำให้สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองพัทลุง มีประชาชนมาใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน เป็นช่วงเปิดเทอมใหม่ ผู้ปกครองมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินเพื่อการศึกษาของบุตรหลาน ประกอบกับขณะนี้ ราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ทำให้เกษตรกรมีหนี้สินมากขึ้น สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองพัทลุงจึงต้องมีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับกับความต้องการของประชาชน
จึงได้ขอกู้เงินจากธนาคารออมสิน สาขาพัทลุง ในวงเงิน 30,000,000 บาท (สามสิบล้านบาทถ้วน) เพื่อนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนรับจำนำในกิจการของสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองพัทลุง ซึ่งเงินกู้ดังกล่าวจะได้รับการอนุมัติในช่วงเดือนมีนาคมนี้ ทั้งนี้เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคือง