สุราษฎร์ธานี - “รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี” เร่งสางคดีบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง เนื้อที่ 7,450 ไร่ พร้อมสั่งรื้อ 340 คดีสอบใหม่ และดำเนินคดีอาญา 2 ป่าไม้ ข้อหาฉ้อโกง และปลอมแปลงเอกสาร พร้อมจัดกำลังไล่ล่าอาวุธสงคราม ที่กลุ่มผู้มีอิทธิพลนำเข้าพื้นที่เตรียมถล่มเจ้าหน้าที่
วันนี้ (7 พ.ค.) นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดีการบุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง ได้เรียกประชุม นายสมชัย มาเสถียร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายฉัตรชัย พราหมณ์แก้ว ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รอง ผบก.หน.ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8
พ.ต.อ.สมยส แก้วบังเกิด ผกก.กลุ่มงานสอบสวน ศสส.ภ.8 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสางคดีการบุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติป่าแก่งกรุง ตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน จำนวน 340 คดี พื้นที่ถูกบุกรุกจำนวน 7,450 ไร่ และพบว่าคดีส่วนใหญ่กว่า 90% ยังไม่มีความคืบหน้า พร้อมทั้งมีการปลูกพืชผลอาสินไปแล้วกว่า 40% จึงมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง ทั้งนายอำเภอแต่ละพื้นที่ พล.ต.ต.เทศา ศริวาโท ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี นายบัณฑิตย์ บุญสุข หัวหน้าอุทยานแก่งกรุง และนายสมชัย มาเสถียร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 เร่งรื้อคดีสอบใหม่ หากพบมีผู้เข้าอยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวควบคุมตัวดำเนินคดีทันที
พร้อมกันนี้ได้จัดชุดไล่ล่าติดตามอาวุธปืนสงครามจำนวนหนึ่งที่มีรายงานว่ากลุ่มผู้มีอิทธิพลได้นำเข้ามาในพื้นที่ เพื่อเตรียมเปิดศึกถล่มเจ้าหน้าที่ หากมีการทำรายรื้อถอนผลอาสินที่ปลูกไว้ในพื้นที่ป่าอุทยานฯ
ด้าน นายสมชัย มาเสถียร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า นายเกษมสันต์ จินณวาโถ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีคำสั่งย้าย นายสุรวุฒิ มุทธมุสิก หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง
เข้าประจำที่ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี และย้าย นายเจเร เนียมสุวรรณ ช่างรังวัด 6 สำนักงานส่วนฟื้นฟูพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 4 สุราษฎร์ธานี ไปประจำที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 จังหวัดนครศรีธรรมราช
พร้อมตั้งกรรมสอบสวนข้อเท็จจริง โดยผลการสอบสวนพบว่า ทั้ง 2 คนมีความผิดจริง จึงได้ขออนุมัติอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา ฉ้อโกง และปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายสมชัยยังระบุด้วยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมการบุกรุกพื้นที่ป่าในเขตอุทยานแก่งกรุงได้แล้ว พร้อมนำ พรบ.มาตรา 22 เข้าทำการรื้อถอนพืชผลอาสิน และสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ และเตรียมแผนโครงการพลิกฟื้นป่าด้วยพระบารมี เพื่อทำการปลูกป่า
ยึดพื้นที่คืนเนื้อที่ 7,450 ไร่ ที่จะสามารถเริ่มได้ในวันที่ 16 มิถุนายน 2552 นี้ แต่ยังมีพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติคลองพนม ที่ยังน่าห่วงมีการบุกรุกจำนวนมาก เตรียมแผนป้องกัน และปราบปรามอย่างจริงจัง นำพื้นที่กลับคืนมาเป็นของรัฐต่อไป