สั่งเด้ง “หน.อุทยานฯ แก่งกรุง” พ้นพื้นที่หลังร่วมผู้นำชุมชนขายที่อุทยานฯให้นายทุน

สุราษฎร์ธานี- “อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช” สั่งเด้งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง เข้าประจำส่วนอุทยานแล้ว หลังผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี สนธิกำลังเข้าตรวจสอบพบพื้นที่อุทยานแห่งชาติแกร่งกรุงถูกทำลายไปแล้วกว่า 5,000 ไร่

จากกรณีนายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พล.ต.ต.เทศา ศิริวาโท ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี นำกำลังผสมกว่า 200 นาย เข้ากวาดล้างจับกุมกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐร่วมมือกับผู้นำชุมชนพื้นที่ อ.ไชยา และ อ.ท่าชนะ นำที่ดินของรัฐในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง มาทำการจัดสรรเป็นแปลงแบ่งขายให้กับนายทุน ไร่ละ 20,000 บาท และพบพื้นที่อุทยานฯ ถูกทำลายได้รับความเสียหายไปแล้วกว่า 5,000 ไร่ และยังพบว่า มีการออกหนังสือ ภบท.5 หรือหนังสือภาษีบำรุงท้องที่ ใช้ชื่อชาวบ้านถือครอง เพื่อรอขาย โดยผู้ซื้อจะได้รับหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายเป็นเอกสาร

ล่าสุด วันนี้ (25 มี.ค.) นายฉัตรชัย พราหมณ์แก้ว ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า นายเกษมสันต์ จินณวาโถ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีคำสั่งที่ 227/2552 ย้าย นายสุรวุฒิ มุทธมุสิก หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกรุงเข้าประจำที่ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมทั้งสั่งห้ามเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาดตามข้อเสนอของ นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื่องจากเห็นว่า มีการบกพร่องต่อหน้าที่ปล่อยปละละเลยให้มีการบุกรุกที่ของรัฐมาช้านาน พร้อมแต่งตั้งให้นายบัณฑิตย์ บุญสุข ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานปฎิบัติหน้าที่รักษาราชการแทน

ด้านการสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้หลักฐานเทปบันทึกเสียงระหว่างกลุ่มนายหน้าซื้อขายที่ดิน ที่มีการเจรจาจ่ายผลประโยชน์ให้กับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ จำนวน 200,000 บาท หลังจากซื้อขายที่ดินจำนวน 5 ล้านบาทสำเร็จ

ทั้งนี้ พบว่าก่อนหน้านี้กลุ่มดังกล่าวได้มีการแบ่งขายที่ดินไปแล้วถึง 28 แปลง แปลงละ 40-50 ไร่ เนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ ราคาไร่ละ 200,000 บาท ซึ่งทุกแปลงมีการปลูกยางพารา พร้อมตัดถนนเข้าสู่ที่ดินเรียบร้อย ทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการขอออกหมายจับกุมผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป