ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้การฯ ภูเก็ต เน้นนโยบายเชิงรุกในการทำงาน สั่งเจ้าหน้าที่ในสังกัด ติดตามหาข่าวความเคลื่อนไหวในพื้นที่ เตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัย รับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน +3 +6
พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูเก็ตจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน +3 +6 หรือการประชุมอาเซียนซัมมิต ที่จะมีขึ้นในเดือนมิถุนายน นี้ ว่า เรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัย เป็นเรื่องของทหารที่รับผิดชอบดูแลความปลอดภัย แต่ในส่วนของตำรวจจะดูแลด้านการข่าวต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงมีการประชุม ซึ่งตนได้มีการประชุมชี้แจงให้ตำรวจทุกฝ่าย ต้องตื่นตัว มีความตั้งใจที่จะทำงานติดตามหาข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ในเรื่องนี้ตน และรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้รับนโยบายจากผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือจากประชาชน องค์กรต่างๆ ผู้นำท้องถิ่นให้ช่วยกันตื่นตัวตระหนัก ถึงภารกิจที่ประชาชนชาวภูเก็ตได้รับในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ถ้าหากว่าทุกคนมีความตื่นตัว แล้วก็ให้ความร่วมมือ มีความตั้งใจจริงที่จะช่วยรัฐบาลให้การประชุมนี้ ประสบความสำเร็จ ก็มั่นใจว่าการประชุมจะเรียบร้อย ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
นอกจากนี้ พล.ต.ต.พิกัด ได้กล่าวถึงในโยบายการทำงานด้วยว่า ตอนนี้ตนได้วางนโยบาย และได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไปแล้วหลายด้าน อาทิ ด้านบริการประชาชน ทั้งใน และนอกสถานี ซึ่งต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ด้านการสอบสวน ต้องมีการปรับปรุง พัฒนาให้ดีขึ้น ด้านการสืบสวน จะต้องทำเป็นระบบ เป็นทีม ซึ่งได้มีการประชุมชี้แจง ให้นโยบายไปแล้ว
ขณะที่แนวทางแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ พล.ต.ต.พิกัด กล่าวว่า ปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เกิดขึ้นโดยสภาพ ตนก็ได้จัดให้มีการทำงานเชิงรุก โดยใช้กำลังตำรวจนอกเครื่องแบบส่วนหนึ่งออกทำการลาดตระเวร เกาะติดในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อเจาะในรายละเอียด ทางนักท่องเที่ยวก็เช่นเดียวกัน ในการทำงานขณะนี้ตำรวจก็เน้นเรื่องนี้อยู่แล้ว นอกจากนี้ ได้มีการประสานกับทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว และโรงแรมต่างๆ เพื่อหารือเรื่องการบันทึกข้อมูลผู้เข้าพัก
ส่วนปัญหายาเสพติด ก็ดำเนินการอยู่ เพราะเป็นนโยบายหลักของรองนายกรัฐมนตรี ชุดปราบปรามยาเสพติด มีทั้งของภูธรจังหวัด แล้วก็ของจังหวัด ซึ่งดำเนินการอยู่ ก็มาดูในรายละเอียดว่ามีตรงไหนที่ยังบกพร่อง ไม่ครบถ้วน ตนเพิ่งมาอยู่ก็ต้องศึกษาเรียนรู้ไป ก็ต้องดูตามสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลา
พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูเก็ตจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน +3 +6 หรือการประชุมอาเซียนซัมมิต ที่จะมีขึ้นในเดือนมิถุนายน นี้ ว่า เรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัย เป็นเรื่องของทหารที่รับผิดชอบดูแลความปลอดภัย แต่ในส่วนของตำรวจจะดูแลด้านการข่าวต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงมีการประชุม ซึ่งตนได้มีการประชุมชี้แจงให้ตำรวจทุกฝ่าย ต้องตื่นตัว มีความตั้งใจที่จะทำงานติดตามหาข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ในเรื่องนี้ตน และรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้รับนโยบายจากผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือจากประชาชน องค์กรต่างๆ ผู้นำท้องถิ่นให้ช่วยกันตื่นตัวตระหนัก ถึงภารกิจที่ประชาชนชาวภูเก็ตได้รับในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ถ้าหากว่าทุกคนมีความตื่นตัว แล้วก็ให้ความร่วมมือ มีความตั้งใจจริงที่จะช่วยรัฐบาลให้การประชุมนี้ ประสบความสำเร็จ ก็มั่นใจว่าการประชุมจะเรียบร้อย ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
นอกจากนี้ พล.ต.ต.พิกัด ได้กล่าวถึงในโยบายการทำงานด้วยว่า ตอนนี้ตนได้วางนโยบาย และได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไปแล้วหลายด้าน อาทิ ด้านบริการประชาชน ทั้งใน และนอกสถานี ซึ่งต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ด้านการสอบสวน ต้องมีการปรับปรุง พัฒนาให้ดีขึ้น ด้านการสืบสวน จะต้องทำเป็นระบบ เป็นทีม ซึ่งได้มีการประชุมชี้แจง ให้นโยบายไปแล้ว
ขณะที่แนวทางแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ พล.ต.ต.พิกัด กล่าวว่า ปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เกิดขึ้นโดยสภาพ ตนก็ได้จัดให้มีการทำงานเชิงรุก โดยใช้กำลังตำรวจนอกเครื่องแบบส่วนหนึ่งออกทำการลาดตระเวร เกาะติดในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อเจาะในรายละเอียด ทางนักท่องเที่ยวก็เช่นเดียวกัน ในการทำงานขณะนี้ตำรวจก็เน้นเรื่องนี้อยู่แล้ว นอกจากนี้ ได้มีการประสานกับทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว และโรงแรมต่างๆ เพื่อหารือเรื่องการบันทึกข้อมูลผู้เข้าพัก
ส่วนปัญหายาเสพติด ก็ดำเนินการอยู่ เพราะเป็นนโยบายหลักของรองนายกรัฐมนตรี ชุดปราบปรามยาเสพติด มีทั้งของภูธรจังหวัด แล้วก็ของจังหวัด ซึ่งดำเนินการอยู่ ก็มาดูในรายละเอียดว่ามีตรงไหนที่ยังบกพร่อง ไม่ครบถ้วน ตนเพิ่งมาอยู่ก็ต้องศึกษาเรียนรู้ไป ก็ต้องดูตามสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลา