ศูนย์ข่าวภูเก็ต- ชาวภูเก็ตพร้อมกู้เกียรติภูมิให้ประเทศยืนยันหนักแน่นร่วมเป็นเจ้าภาพประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกลางมิ.ย นี้ “สุเทพ”มั่นใจไม่ซ้ำรอยพัทยาแน่นอน ย้ำกับผู้ว่าฯ -ท้องถิ่น –คนภูเก็ต อย่าให้มีม็อบจนถึงวันประชุม ช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลกลุ่มบุคคลที่มีความเห็นต่าง และไม่หวังดีกับประเทศชาติ ชี้แจงทูต 16 ประเทศรับทราบวันจันทร์นี้
วันนี้ (2 พ.ค) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ผู้นำเหล่าทัพ พร้อมคณะได้ร่วมประชุมกับหน่วยงานต่างๆในจ.ภูเก็ต ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด ส.ว. และ ส.ส. รวมทั้ง ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 19 แห่ง ประธานอิสลามจังหวัดภูเก็ต กำนันผู้ใหญ่บ้าน องค์กรภาคประชาชน เอกชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ณ โรงแรมฮิลตัน ภูเก็ต อาคเดีย รีสอร์ท แอนด์สปา เพื่อสอบถามถึงความพร้อมและความต้องการของทุกภาคส่วนในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน บวก ประเทศคู่เจรจา ซึ่งจะจัดขึ้นประมารกลางเดือนมิถุนายน นี้
จากการหารือในครั้งนี้ทุกภาคส่วนในจังหวัดภูเก็ตยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าภูเก็ตพร้อมที่จะร่วมเป็นเจ้าภาพกับรัฐบาลในการกู้เกียรติภูมิของประเทศกลับคืนมาหลังจากที่ประสบปัญหาการประชุมที่พัทยาจนสร้างความเสียหายให้กับประเทศเป็นอย่างมาก และทุกคนพร้อมที่จะเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม
โดยนายสุเทพ กล่าวในที่ประชุม ว่า ประเทศไทยได้รับคำชมจากผู้นำอาเซียนในการประชุมที่หัวหิน หลังจากนั้นไม่นานเมื่อไปประชุมสุดยอดอาเซียนที่พัทยาประเทศกลับได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก จำเป็นที่จะต้องกอบกู้ภาพพจน์ เพื่อแสดงให้ผู้นำของแต่ละประเทศเชื่อมั่นในประเทศไทยอีกครั้ง ด้วยการตัดสินใจเลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นสถานที่จัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน บวก 3 บวก 6 ซึ่งการประชุมดังกล่าวเป็นผลดีไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่จะเกิดประโยชน์ทั้งอาเซียน
“ไปประชุมที่พัทยาถูกผู้ชุมนุมบุกสถานที่ประชุม ผู้นำประเทศตกอกตกใจต้องขนย้ายผู้นำกันอย่างทุลักทุเลทั้งทางเรือและทางบก เสียชื่อเสียงมาก วันนี้รัฐบาลตั้งใจให้ชาวภูเก็ตลุกขึ้นมาทำหน้าที่เป็นประชาชนชั้นยอดของประเทศ ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพประชุมสุดยอดอาเซียนที่เรียกว่าเป็นการแก้มือ” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพกล่าวอีกว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับผิดชอบดูแลความปลอดภัยของผู้นำ โดยใช้กำลังของกองทัพทั้งหมด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและและกำลังที่สำคัญที่สุดคือประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต นักธุรกิจ ข้าราชการ จึงได้นำคณะมาซักซ้อมความพร้อมของจังหวัดภูเก็ตและประชาชนในการเป็นเจ้าภาพเพื่อให้มั่นใจว่าชาวภูเก็ตต้องการให้มาจัดประชุมที่นี่ หากสามารถจัดที่ภูเก็ตได้จะเป็นการกู้หน้าตาของประเทศ นอกจากมารับฟังจากหน่วยงานราชการแล้วเมื่อเช้าได้หารือกับหน่วยงานด้านความปลอดภัยพร้อมทั้งตรวจดูเส้นทางทำเลโรงแรม ที่พักของผู้นำประเทศ พร้อมทั้งได้พูดคุยกับสส.สว ผู้แทนภาคเอกชนซึ่งทุกฝ่ายก็พร้อมเต็มที่
จากการหารือร่วมกันเมื่อช่วงเช้า ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการด้านความปลอดภัยการประชุมอาเซียนได้ตั้งโจทก์ไว้ 2 ข้อ คือ ตั้งแต่วันนี้จนถึงการประชุมจะต้องไม่มีการชุมนุมเกิดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต และจะต้องช่วยกันควบคุมดูแลบุคคลที่คิดแตกต่างซึ่งในคนหมู่มากย่อมมีคนที่คิดไม่เหมือนกันก็ไม่เป็นไร แต่ต้องอยู่เฉยๆเพราะการประชุมดังกล่าวไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นผลประโยชน์ของประเทศชาติต้องมีคนไปพูดคุยให้บุคคล 8-9 คน หยุดการเคลื่อนไหว
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า เมื่อชาวภูเก็ตเต็มใจและยินดีที่จะร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกับรัฐบาลในวันจันทร์ที่ 4 พ.ค นี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศจะเชิญทูตานุทูตทั้ง 16 ประเทศมาประชุมที่กระทรวงการต่างประเทศ ตนพร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้นำเหล่าทัพจะนำผลการหารือที่จังหวัดภูเก็ตไปชี้แจงให้กับทูตแต่ละประเทศได้รับทราบว่าชาวภูเก็ตยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าพร้อมที่จะร่วมเป็นเจ้าภาพกับรัฐบาลเพื่อที่ทูตของแต่ละประเทศจะได้นำข้อมูลไปเสนอกับผู้นำของประเทศนั้นๆ ในการเดินทางมาประชุมที่จังหวัดภูเก็ตในช่วงประมาณกลางเดือนมิถุนายนนี้
อย่างไรก็ตามก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ทางรัฐบาลจะจัดให้มีการประชุมที่ภูเก็ต 2-3 ครั้ง เช่น การประชุมปลัดกระทรวงต่างประเทศ 27 ประเทศ การประชุมคณะรัฐมนตรีสัยจรที่จังหวัดภูเก็ต และการประชุมผู้นำอาเซียนอีกรอบหนึ่งในเดือน ต.ค นี้ หากผู้นำติดใจอยากมาประชุมที่ภูเก็ตอีก
นายวีรศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนจะมีผู้นำประเทศ และรัฐมนตรีที่เป็นดับวีไอพีเดินทางมาร่วมทั้งหมด 50 คน ผู้แทนแต่ละประเทศ 1,000 คน และสื่อมวลชนของประเทศต่างอีกประมาณ 1,200 คน ถือว่าเป็นการประชุมที่สำคัญมากเป็นเกียรติภูมิของประเทศ การประชุมที่พัทยาเกิดความล้มเหลวประเทศไทยถูกตำหนิจากประเทศต่างๆว่าไม่สามารถทำหน้าที่ประธานอาเซียนได้อีก อาจจะต้องยกให้ประเทศอื่นที่มีความพร้อมกว่า หากจัดที่ภูเก็ตแล้วไม่ประสบความสำเร็จอีกเท่ากับเป็นการตอกย้ำภาพลบให้กับประเทศไทยที่ไม่สามารถเป็นประธานอาเซียนได้ ประเทศไทยจะกลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว คนต่างชาติก็จะไม่เข้ามาท่องเที่ยว ไม่เข้ามาลงทุนเป็นการสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล ถ้าหากจัดที่ภูเก็ตได้นอกจากจะเกิดประโยชน์กับประเทศแล้วยังเป็นการประชาสัมพันธ์ภูเก็ตไปทั่วโลก
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ในฐานะที่ตนได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลความปลอดภัยการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน จะทำให้ดีที่สุดไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนที่พัทยาอีก ซึ่ง การทำงานของรัฐจะประสบความสำเร็จได้ก็ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนชาวภูเก็ตทุกท่าน
ขณะที่นางธันยรัตน์ อัจฉริยะฉาย ส.ว.ภูเก็ต กล่าวว่า ชาวภูเก็ตเต็มใจเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลตัดสินใจเลือกภูเก็ตเป็นสถานที่จัดการประชุม ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนภูเก็ตทุกคนที่จะทำหน้าที่สร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับประเทศและจังหวัดภูเก็ต เป็นโอกาสที่ดีที่ชาวจังหวัดภูเก็ตจะได้ทำหน้าที่ต้อนรับผู้นำประเทศต่างๆ ซึ่งในส่วนของ ส.ว ส.ส.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้คนภูเก็ตได้รับทราบ
ด้านนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ที่ผ่านมาภาพพจน์ของประเทศถูกทำลายไปมากแล้ว ขอบคุณรัฐบาลที่ให้ภูเก็ตทำหน้าที่ในการแก้หน้าให้กับประเทศชาติมาประชุมที่จังหวัดภูเก็ตมีความปลอดภัย 100% เพราะที่นี่ไม่มีเสื้อสีอะไร เราเป็นคนคนภูเก็ตด้วยกันทั้งหมด ทุกคนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาเพื่อช่วยรัฐบาลแก้ตัว ทำให้ภาพพจน์ของประเทศดีขึ้น