สุราษฎร์ธานี - นักศึกษา อาจารย์ และบุคลากร มรส.ร่วมประกาศเจตนารมณ์ รณรงค์หยุดใช้ความรุนแรง แนะใช้ระบบรัฐสภาในการขับเคลื่อนประเทศ ทั้งนี้ขบวนการขับเคลื่อนทางปัญญาดีกว่าใช้กำลัง พร้อมสนับสนุนสันติวิธีเพื่อนำสันติสุขคืนสู่สังคมไทย
ผศ.ดร.ณรงค์ พุทธิชีวิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) เปิดเผยว่า นักศึกษา อาจารย์ และบุคลากร มรส.ได้ร่วมแสดงเจตนารมณ์เพื่อให้ทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบและสนับสนุนสันติวิธีเพื่อการดำรงอยู่ของสังคมและประเทศไทยอย่างสงบสุข โดยมีความเห็นร่วมกันว่า ความขัดแย้งในสังคมระหว่างกลุ่มการเมืองต่างๆ ได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทยอย่างใหญ่หลวงในทุกด้าน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ตลอดจนภาพพจน์ของประเทศในสายตาชาวโลก
ทั้งนี้ ในนามผู้บริหาร คณาจารย์ นักศึกษา และบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ขอส่งสัญญาณเตือนไปยังทุกฝ่ายที่คิดจะใช้ความรุนแรงในการต่อสู้ ให้ตระหนักว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ยอมรับความรุนแรง ไม่ว่าจะเกิดจากรัฐ พรรคการเมือง กลุ่มการเมือง หรือประชาชน และต้องการให้ใช้สันติวิธีในการดำเนินการเพื่อคืนความสงบและสันติสุขให้กับสังคมไทยให้เป็น “สังคมแห่งศานติ” เช่นที่เคยเป็นมาแต่โบราณกาล
ผศ.ดร.ณรงค์ กล่าวอีกว่า กระบวนการที่ถูกต้องในการเรียกร้องประชาธิปไตย ก็คือ ต้องให้ผู้ที่มีหน้าที่โดยตรงคือรัฐบาลได้ทำหน้าที่ในการบริหารประเทศไปก่อน ถูกหรือผิดประชาชนก็สามารถตรวจสอบได้ด้วยกระบวนการทางประชาธิปไตยโดยใช้ระบบรัฐสภา เป็นแกนนำในการขับเคลื่อนประเทศ ไม่ใช่ใช้การเมืองบนท้องถนนมาเป็นกลไกในการขับเคลื่อนประเทศ เพราะไม่มีการปกครองในประเทศใดที่ขับเคลื่อนและประสบความสำเร็จด้วยการเดินขบวนบนท้องถนน เพราะแท้ที่จริงแล้ว กระบวนการขับเคลื่อนทางปัญญามีความหมายมากกว่า
ทั้งนี้ หากเห็นว่าตนไม่ได้รับความยุติธรรมจากอำนาจรัฐ ก็ต้องต่อสู้ด้วยกระบวนการยุติธรรม หากคิดว่าตนได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ถูกต้อง ก็ต้องแก้ปัญหาด้วยความถูกต้อง เพราะการแก้สิ่งที่ไม่ถูกต้องด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง รังแต่จะทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลง การลบล้างสิ่งชั่วด้วยสิ่งชั่วนั้นเป็นไปไม่ได้ ต้องลบล้างสิ่งที่ผิดด้วยสิ่งที่ถูกและลบล้างสิ่งที่ถูกด้วยสิ่งที่ถูกกว่าเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คนไทยต้องทำในตอนนี้คือการเปลี่ยนวิธีคิด จากการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งข้าง แบ่งสี มาเป็นอยู่ฝ่ายเดียวกัน เป็นคนไทยด้วยกันและมีสีเดียวกัน
“ณ วันนี้ ผมอยากให้ทุกฝ่ายหาคำตอบว่า ที่กำลังทำอยู่นี้ทำเพื่ออะไร วิธีการที่ใช้นั้นจะทำให้ได้มาซึ่งวัตถุประสงค์ที่ต้องการจริงหรือ หากไม่ใช่ก็ต้องเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีการเสียใหม่ วิธีคิดที่สำคัญมากๆ สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน ก็คือ เราต้องไม่แบ่งสีเหลืองสีแดง คนไทยทุกคนต้องเป็นสีเดียวกัน คือสีธงชาติไทยเท่านั้น” ผศ.ดร.ณรงค์ กล่าวและว่า
เปลี่ยนวิธีคิดที่จำกัดกรอบเพียงว่าเราต้านทักษิณ หรืออยู่ข้างทักษิณ คนไทยต้องเป็นนักรบของประเทศไทย ไม่ใช่นักรบเสื้อเหลืองหรือนักรบเสื้อแดง ร่วมกันเร่งหาวิธีการที่จะทำให้ประเทศไทยเกิดความสงบสุขในเร็ววัน ผู้บริหารประเทศจะได้มีเวลาใช้ปัญญาขบคิดหาทางแก้ไขเยียวยาวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังคุกคามประชาชนได้โดยเร็ว
ผศ.ดร.ณรงค์ พุทธิชีวิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) เปิดเผยว่า นักศึกษา อาจารย์ และบุคลากร มรส.ได้ร่วมแสดงเจตนารมณ์เพื่อให้ทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบและสนับสนุนสันติวิธีเพื่อการดำรงอยู่ของสังคมและประเทศไทยอย่างสงบสุข โดยมีความเห็นร่วมกันว่า ความขัดแย้งในสังคมระหว่างกลุ่มการเมืองต่างๆ ได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทยอย่างใหญ่หลวงในทุกด้าน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ตลอดจนภาพพจน์ของประเทศในสายตาชาวโลก
ทั้งนี้ ในนามผู้บริหาร คณาจารย์ นักศึกษา และบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ขอส่งสัญญาณเตือนไปยังทุกฝ่ายที่คิดจะใช้ความรุนแรงในการต่อสู้ ให้ตระหนักว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ยอมรับความรุนแรง ไม่ว่าจะเกิดจากรัฐ พรรคการเมือง กลุ่มการเมือง หรือประชาชน และต้องการให้ใช้สันติวิธีในการดำเนินการเพื่อคืนความสงบและสันติสุขให้กับสังคมไทยให้เป็น “สังคมแห่งศานติ” เช่นที่เคยเป็นมาแต่โบราณกาล
ผศ.ดร.ณรงค์ กล่าวอีกว่า กระบวนการที่ถูกต้องในการเรียกร้องประชาธิปไตย ก็คือ ต้องให้ผู้ที่มีหน้าที่โดยตรงคือรัฐบาลได้ทำหน้าที่ในการบริหารประเทศไปก่อน ถูกหรือผิดประชาชนก็สามารถตรวจสอบได้ด้วยกระบวนการทางประชาธิปไตยโดยใช้ระบบรัฐสภา เป็นแกนนำในการขับเคลื่อนประเทศ ไม่ใช่ใช้การเมืองบนท้องถนนมาเป็นกลไกในการขับเคลื่อนประเทศ เพราะไม่มีการปกครองในประเทศใดที่ขับเคลื่อนและประสบความสำเร็จด้วยการเดินขบวนบนท้องถนน เพราะแท้ที่จริงแล้ว กระบวนการขับเคลื่อนทางปัญญามีความหมายมากกว่า
ทั้งนี้ หากเห็นว่าตนไม่ได้รับความยุติธรรมจากอำนาจรัฐ ก็ต้องต่อสู้ด้วยกระบวนการยุติธรรม หากคิดว่าตนได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ถูกต้อง ก็ต้องแก้ปัญหาด้วยความถูกต้อง เพราะการแก้สิ่งที่ไม่ถูกต้องด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง รังแต่จะทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลง การลบล้างสิ่งชั่วด้วยสิ่งชั่วนั้นเป็นไปไม่ได้ ต้องลบล้างสิ่งที่ผิดด้วยสิ่งที่ถูกและลบล้างสิ่งที่ถูกด้วยสิ่งที่ถูกกว่าเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คนไทยต้องทำในตอนนี้คือการเปลี่ยนวิธีคิด จากการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งข้าง แบ่งสี มาเป็นอยู่ฝ่ายเดียวกัน เป็นคนไทยด้วยกันและมีสีเดียวกัน
“ณ วันนี้ ผมอยากให้ทุกฝ่ายหาคำตอบว่า ที่กำลังทำอยู่นี้ทำเพื่ออะไร วิธีการที่ใช้นั้นจะทำให้ได้มาซึ่งวัตถุประสงค์ที่ต้องการจริงหรือ หากไม่ใช่ก็ต้องเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีการเสียใหม่ วิธีคิดที่สำคัญมากๆ สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน ก็คือ เราต้องไม่แบ่งสีเหลืองสีแดง คนไทยทุกคนต้องเป็นสีเดียวกัน คือสีธงชาติไทยเท่านั้น” ผศ.ดร.ณรงค์ กล่าวและว่า
เปลี่ยนวิธีคิดที่จำกัดกรอบเพียงว่าเราต้านทักษิณ หรืออยู่ข้างทักษิณ คนไทยต้องเป็นนักรบของประเทศไทย ไม่ใช่นักรบเสื้อเหลืองหรือนักรบเสื้อแดง ร่วมกันเร่งหาวิธีการที่จะทำให้ประเทศไทยเกิดความสงบสุขในเร็ววัน ผู้บริหารประเทศจะได้มีเวลาใช้ปัญญาขบคิดหาทางแก้ไขเยียวยาวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังคุกคามประชาชนได้โดยเร็ว
