กรมสนับสนุนบริการสุขภาพเผยภูเก็ตพร้อมรับมือไข้หวัดจังโก้

ศูนย์ข่าวภูเก็ต -อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เผยหลังตรวจความพร้อมการรับมือโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจังหวัดภูเก็ต ระบุจากการตรวจนักท่องเที่ยวผ่านด่านตั้งแต่วันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีผู้ที่ผ่านการตรวจจำนวนประมาณ 5,900 คน ซึ่งไม่พบผู้ที่เป็นไข้หวัดหรือต้องสงสัยแต่อย่างใด

ดร.นพ.สมยศ ดีรีศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เสรี หงษ์หยก ผู้ตรวจราชการเขต 7 กระทรวงสาธารณสุข และขณะ ได้เดินทางมาตรวจความพร้อมของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ บริเวณจุดติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายหรือเทอร์โมสแกน บริเวณเชิงบันไดเลื่อนผู้โดยสารขาเข้าท่าอากาศยานภูเก็ต โดยมี นพ.พงษ์สวัสดิ์ รัตนแสง สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นพ.เจษฎา จงไพบูลย์พัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ พร้อมนำชมขั้นตอนการดำเนินการตั้งแต่จุดติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายหรือเทอร์โทสแกน จุดคัดกรองโรค และจุดพักผู้ป่วยก่อนนำส่งโรงพยาบาลกรณีที่พบผู้ต้องสงสัยหรือผู้ป่วย

ทั้งนี้ ดร.นพ.สมยศ ดีรีศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการฟังบรรยายสรุปและตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ ว่า จากการตรวจสอบคิดว่าการดำเนินของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนับว่า ค่อนข้างมีความสมบูรณ์ ซึ่งหลังจากที่ได้มีการติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิที่ท่าอากาศยานภูเก็ต มาตั้งแต่วันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีผู้ที่ผ่านการตรวจจำนวนประมาณ 5,900 คน ซึ่งไม่พบผู้ที่เป็นไข้หวัดหรือต้องสงสัยแต่อย่างใด

“ขณะนี้มีประมาณ 14 ประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 สายพันธุ์ H1N1 และมีจำนวน 3 ประเทศ ที่บินตรงมายังภูเก็ต ได้แก่เกาหลีใต้ ฮองกงและออสเตรเลีย แต่ก็ยังไม่พบความผิดปกติใดๆ ส่วนมาตรการเตรียมความพร้อมของท่าอากาศยานภูเก็ตถือว่าค่อนข้างสมบูรณ์ นอกจากการติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิแล้ว ยังมีระบบการเฝ้าระวังเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไว้หวัดดังกล่าวไม่ว่าจะเป้นการมีหน้ากากปิดจมูก การทำลายเชื้อดดยใช้แอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นประมาณ 60% ขึ้นไป พร้อมทั้งระบบการส่งต่อและรายงานผล ซึ่งได้มีความร่วมมือกัน ระหว่างโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตและโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตในการตรวจสอบดูแล”

ดร.นพ.สมยศ กล่าวว่า ในส่วนของผู้ป่วยต้องสงสัยที่มาจาก 14 ประเทศ จะมีการดูแลเป็นกรณีเป็นพิเศษ โดยมีการส่งตัวไปยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ส่วนผู้ที่ไม่เข้าข่ายและยังไม่มีไข้ ก็จะมีระบบติดตามให้มีการกรอกรายละเอียดข้อมูล และมีการติดต่อประสานเพื่อขอข้อมูลว่าในระยะเวลา 24 ชั่วโมงนั้นมีไข้หรือไม่อย่างไร หากพบว่ามีอาคารป่วยเป็นไข้ก็จะส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล หากไม่มีไข้ก็ไม่ต้องติดตาม ซึ่งจากที่ได้ติดตามขั้นตอนต่างๆ นับว่าค่อนข้างสมบูรณ์

ส่วนจะมีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นหรือไม่ ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้มีการประชุมหารือและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเร่งรัดควบคุมในกลุ่มประเทศที่สงสัยมากขึ้น ซึ่งคิดว่าการดำเนินการขณะนี้นับว่าค่อนข้างเพียงพอ เพราะจากการดำเนินการในช่วงที่ผ่านมาก็ไม่พบผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด และคิดว่าเป็นมาตรการที่ได้มาตรฐานสากล และหากพบผู้ต้องสงสัยก็จะเพิ่มระดับความเข้มขึ้นได้ ดร.นพ.สมยศกล่าว

กรณีในส่วนของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าผ่านทางท่าเทียบเรือ ดร.นพ.สมยศ กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตและสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการวางมาตรการในการดำเนินการไว้แล้ว คิดว่าไม่ต่างกับมาตรการที่ท่าอากาศยานภูเก็ต