กระบี่ -บริษัท พีพีแฟมิลี่ จำกัด เจ้าของเรือโดยสารเส้นทางกระบี่-เกาะพีพี ถูกเพลิงเผาวอดสูญกว่า 30 ล้านบาท อัดยับเจ้าหน้าที่รัฐไม่แยแส ปล่อยให้กู้เรือตามลำพัง เผยว่าจ้างบริษัทเอกชนดำเนินการกู้ร่วม 3 หมื่นบาท
จากกรณีเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2552 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือโดยสารท่องเที่ยว 2 ลำ ชื่อเรือ โกลเด้น บรรทุกผู้โดยสารได้ 150 ที่นั่ง และเรือ พาราไดส์ครุยซ์ 2001 บรรทุกผู้โดยสารได้ 299 ที่นั่ง วิ่งโดยสารระหว่างท่าเทียบท่องเที่ยวปากคลองจิหลาด ต.ไสไทย กับเกาะพีพี ขณะจอดเทียบท่าบริเวณท่าเรือคงคา เขตเทศบาลเมืองกระบี่ ซึ่งเรือทั้ง 2 ลำ ทำจากไม้ ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ววอดทั้ง 2 ลำ ก่อนจมลงในทะเล
ทั้งนี้ นายนพดล ทองเกิด อายุ 52 ปี เจ้าของบริษัท พีพีแฟมิลี่ จำกัด เป็นเจ้าของ เบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต คาดว่า สาเหตุเกิดจากไฟฟ้าภายในเรือลัดวงจรที่ห้องเครื่องยนต์ของเรือลำแรกก่อนจะลุกลามไปยังลำที่ 2 ซึ่งจอดเคียงกัน ความเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (23 เม.ย.) ทางเจ้าของบริษัท พีพีแฟมิลี่ จำกัด ได้ว่าจ้างรถเครน ซึ่งต้องใช้แพบรรทุกมาทำการกู้ซากเรือทั้ง 2 ลำ ขึ้นมาจากก้นทะเล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจพิสูจน์หลักฐาน และหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ โดยการกู้ซากเรือเป็นด้วยความยากลำบาก เนื่องจากตัวเรือมีขนาดใหญ่กว้างประมาณ 3 เมตร ยาวประมาณ 30 เมตร
หลังจากใช้เวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมง ก็ไม่สามารถกู้ซากเรือขึ้นมาจากน้ำได้ ยกขึ้นโผล่เหนือน้ำได้เพียงบางส่วนเท่านั้น โดยพบว่า ตัวเรือเหลือเพียงบางส่วน ส่วนห้องโดยสารถูกไฟไหม้จนหมด และยังพบว่าเครื่องยนต์ มีสภาพถูกไฟไหม้ดำเกรียม ไม่สามารถที่จะใช้งานได้ ท่ามกลางไทยมุงแห่มาดูจำนวนมาก
นายนภดล ทองเกิด เจ้าของเรือ กล่าวว่า บริษัทได้ว่าจ้างเครนของเอกชนมาทำการกู้ซากเรือราคา 3 หมื่นบาท โดยไม่มีหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวเข้ามาดูแลช่วยเหลือแต่อย่างใด ทุกอย่างทางบริษัทต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด
ทั้งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะมาดูแลบ้างไม่ใช่เกิดเหตุแล้วปล่อยให้ทำเพียงลำพัง ควรจะนำเครื่องไม้เครื่องมือเข้ามาช่วยเหลือด้วย ไม่ใช่เพิกเฉยเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนที่เก็บภาษีเก็บได้ทุกปี แต่เมื่อเกิดเหตุไม่เข้ามาดูแลช่วยเหลือ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่าอนาจใจอย่างยิ่ง ซึ่งหากว่าปล่อยซากเรือไว้ใต้น้ำก็คงจะเป็นปัญหากับการสัญจรทางน้ำ เนื่องจากบริเวณที่เรือจมยังมีเรืออื่นๆ ใช้เส้นทางโดยสารตลอดเวลา แต่การกู้เรือก็ไม่ทราบว่าจะสำเร็จหรือไม่ เนื่องจากเรือมีขนาดใหญ่ แต่ก็จะพยายามกู้ขึ้นมาให้ได้