“ชินวรณ์” แช่งคนคิดร้ายต่อประเทศเจอกรรมติดจรวด มั่นใจ พธม.ไม่หลงกล

นครศรีธรรมราช – “ชินวรณ์” เผยกรณีลอบสังหาร “สนธิ” ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวจะมีการมุ่งร้ายต่อบุคคลสำคัญ เมื่อเหตุเกิดขึ้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบดูแลเป็นพิเศษ เรียกร้องผู้คิดร้ายหยุดนำประเทศไปสู่กลียุค มั่นใจพันธมิตรฯ ไม่ตกหลุมพราง

ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่มีการลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าก่อนหน้านี้ก็มีข่าวออกมาตลอดเวลาว่าจะมีการมุ่งร้ายต่อบุคคลสำคัญของบ้านเมือง โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รมว.ต่างประเทศและแกนนำคนสำคัญของพันธมิตรฯ ทุกฝ่ายจะมีความระมัดระวังเป็นพิเศษอยู่แล้ว

เมื่อสถานการณ์เกิดขึ้นแบบนี้แล้ว รัฐบาลก็ต้องดูแลเป็นพิเศษและคุ้มครองความปลอดภัย ที่สำคัญไปกว่านั้นประชาชนได้เรียกร้องไปยังผู้ที่คิดร้ายต่อประเทศ ขอให้ตระหนักว่าการกระทำเช่นนี้จะนำพาประเทศไทยไปสู่กลียุค อาจจะทำให้เกิดปัญหาระยะยาว ท้ายที่สุดคนที่คิดร้ายต่อประเทศเองก็จะได้รับผลกรรมที่จะเกิดขึ้น

นายชินวรณ์ยังกล่าวถึงกรณีที่จะมีการเปิดประชุมสภาในวันที่ 22-23 เม.ย.นี้ว่า ตนจะประชุมวิปทั้ง 3 ฝ่ายในวันที่ 21 เมษายนนี้ การประชุมร่วมกันของรัฐสภาในคราวนี้ นอกจากรัฐบาลจะได้มีโอกาสที่จะรับฟังความคิดเห็นทั้งสองสภาอย่างกว้างขวาง เปิดโอกาสให้อภิปรายกันอย่างเต็มที่ รัฐบาลก็มีโอกาสที่จะได้ชี้แจงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และสิ่งที่สังคม ภาคเอกชน นักวิชาการ อยากเห็นว่ารัฐสภาได้หาทางออกให้กับประเทศในการคลี่คลายสถานการณ์ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปฏิรูปทางการเมือง หรือเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นการประชุมสภา หรือการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 22 และ 23 เมษายนนี้ จึงถือเป็นโอกาสสำคัญที่เพื่อสมาชิกรัฐสภาจะได้ตระหนักถึงปัญหาและเข้าใจว่าจะได้นำวิกฤติดังกล่าวนี้มาเป็นโอกาสให้กับบ้านเมืองต่อไป

นายชินวรณ์กล่าวอีกว่า ในการการลอบยิงนายสนธิก็เป็นประเด็นที่ชี้ให้เห็นชัดแล้วว่า ปัญหาเกิดจากสถานการณ์การเมือง การแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของพันธมิตรฯเมื่อคืนที่ผ่านมาที่ สะพานหิน จ.ภูเก็ต ชี้ให้เห็นว่าพันธมิตรฯ ไม่ตกหลุมพรางกระบวนการตอบโต้ ระหว่างกลุ่มที่เกิดปัญหาในทางการเมือง และเข้าใจว่าคนที่จะให้เกิดปัญหาความรุนแรงหรือเกิดการปะทะกันทั้งสองฝ่ายก็ดี เป็นบุคคลที่ต้องการให้พันธมิตรฯ เข้ามาสู่วงจรทางการเมือง เพื่อให้เกิดความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เมื่อพันธมิตรฯ เข้าใจดีแล้วที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการดำเนินกับผู้ที่ทำผิดกฎหมาย และติดตามดำเนินคดี เพื่อให้ระบบนิติรัฐของเราเข้มแข็ง และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศ

สำหรับในนามพรรคร่วมรัฐบาลขอแสดงความเสียใจ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าพันธมิตรฯ คงเข้าใจ ในสถานการณ์เช่นนี้บุคคลที่ดำเนินการเขาหวังผลทางการเมือง เป้าหมายชัดเจนต้องการทำให้เกิดความปั่นป่วนในบ้านเมือง หวังผลลอบสังหารแกนนำพันธมิตรฯ ในเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีก็ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ส่วนข้อเรียกร้องที่ให้มีการเปลี่ยนแปลงบุคคล ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ขอเรียนว่า ระยะเวลาที่ผ่านมาคนที่รับผิดชอบเกี่ยวกับความมั่นคงได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ หากแต่สถานการณ์การเมืองของประเทศในขณะนี้เกิดวิกฤตเป็นพิเศษ จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วน โดยจะต้องไม่มีการเปลี่ยนม้ากลางศึก เข้าใจว่าเวลานี้รัฐบาลจะต้องมีนโยบายที่ชัดเจน ในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลสำคัญและประชาชน

“ผมขอเรียกร้องว่าในสถานการณ์เช่นนี้ อยากเรียกร้องผู้ที่คิดร้ายต่อประเทศ ควรตระหนักถึงความสงบเรียบร้อยของประเทศและพี่น้องประชาชนด้วย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อความมั่นคงก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ ที่สำคัญรัฐบาลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะดำเนินการตามกระบวนการทางยุติธรรม เพื่อให้ระบบนิติรัฐมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เชื่อหลังประชุมสภาร่วมประเทศจะเห็นภาพที่ชัดเจน และรัฐบาลก็ต้องใจกว้างที่จะรับฟังในเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วย” นายชินวรณ์กล่าวในที่สุด