เชียงราย – ประธานหอฯ-สื่อเมืองพ่อขุนฯ จี้รัฐบาลเร่งขันน็อตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องความมั่นคง ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หวังให้ยุติความรุนแรงโดยเร็วที่สุด เชื่อเหตุยิงถล่ม “สนธิ” กลางเมืองหลวง จนท.หย่อนยาน
นายโชติศิริ ดารายน นายกสมาคมสื่อมวลชนและนักประชาสัมพันธ์เชียงราย เปิดเผยว่า กรณีเหตุการณ์ยิงถล่มรถของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่กลางกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมาว่าแม้จะมีการประกาศใช้พระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นได้ที่ทางตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ที่ดูแลด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนมีความหย่อนยาน ประมาทหรือไม่คาดคิด
สถานการณ์เช่นนี้เห็นว่าทางที่ดีที่สุดรัฐบาลจะต้องหนักแน่น และหันกลับมาเข้มงวดกวดขันให้หนักเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยเดิม ขณะเดียวกันทุกฝ่ายควรคำนึงว่าพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ได้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับแก้ไขปัญหาความรุนแรง รัฐบาลจึงควรหาวิธีการอื่นเข้ามาร่วมด้วยโดยเฉพาะ ในด้านการบริหารจัดการและการประสานกับหลายฝ่ายเพื่อช่วยกันยุติปัญหาโดยเร็ว
ด้าน นายวิรุณ คำภิโล ประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวว่า เหตุการณ์ยิงถล่มกันกลางเมืองหลวงเป็นเรื่องปลายเหตุซึ่งเกิดจากปัญหาความรุนแรงในการต่อสู้กันทางการเมืองอย่างหนัก ดังนั้นการจะมีพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่มีคงจะไม่มีผลใดๆ มากนักหากว่ายังมีคนที่จ้องจะใช้ความรุนแรงอยู่
ดังนั้น แก้ไขของรัฐบาล คือ ต้องเน้นไปที่การบริหารจัดการในโครงสร้างที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่คงจะไปบอกไม่ได้ว่าจะให้โยกย้ายใครหรือไม่อย่างไร เพราะการโยกย้ายเป็นเรื่องปลายเหตุเช่นกัน แต่เรื่องที่ใหญ่กว่านั้นคือความขัดแย้งกันทางการเมืองอย่างหนัก รัฐบาลต้องทำให้สำเร็จในบั้นปลายว่า ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่พวกเราทุกฝ่ายคือคนไทยด้วยกัน
“รัฐบาลต้องเร่งให้ปัญหาความรุนแรงต่างๆ ลดลงโดยเร็วที่สุด เพราะประเทศไทยบอบช้ำมามากแล้ว ทุกวันนี้ประเทศที่อยู่รายรอบเราหลายประเทศได้เจริญขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ขณะที่ประเทศไทยจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจก็มาติดตรงปัญหาความขัดแย้งและก่อให้เกิดความรุนแรงดังกล่าว” นายวิรุณ กล่าว
นายโชติศิริ ดารายน นายกสมาคมสื่อมวลชนและนักประชาสัมพันธ์เชียงราย เปิดเผยว่า กรณีเหตุการณ์ยิงถล่มรถของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่กลางกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมาว่าแม้จะมีการประกาศใช้พระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นได้ที่ทางตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ที่ดูแลด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนมีความหย่อนยาน ประมาทหรือไม่คาดคิด
สถานการณ์เช่นนี้เห็นว่าทางที่ดีที่สุดรัฐบาลจะต้องหนักแน่น และหันกลับมาเข้มงวดกวดขันให้หนักเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยเดิม ขณะเดียวกันทุกฝ่ายควรคำนึงว่าพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ได้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับแก้ไขปัญหาความรุนแรง รัฐบาลจึงควรหาวิธีการอื่นเข้ามาร่วมด้วยโดยเฉพาะ ในด้านการบริหารจัดการและการประสานกับหลายฝ่ายเพื่อช่วยกันยุติปัญหาโดยเร็ว
ด้าน นายวิรุณ คำภิโล ประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวว่า เหตุการณ์ยิงถล่มกันกลางเมืองหลวงเป็นเรื่องปลายเหตุซึ่งเกิดจากปัญหาความรุนแรงในการต่อสู้กันทางการเมืองอย่างหนัก ดังนั้นการจะมีพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่มีคงจะไม่มีผลใดๆ มากนักหากว่ายังมีคนที่จ้องจะใช้ความรุนแรงอยู่
ดังนั้น แก้ไขของรัฐบาล คือ ต้องเน้นไปที่การบริหารจัดการในโครงสร้างที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่คงจะไปบอกไม่ได้ว่าจะให้โยกย้ายใครหรือไม่อย่างไร เพราะการโยกย้ายเป็นเรื่องปลายเหตุเช่นกัน แต่เรื่องที่ใหญ่กว่านั้นคือความขัดแย้งกันทางการเมืองอย่างหนัก รัฐบาลต้องทำให้สำเร็จในบั้นปลายว่า ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่พวกเราทุกฝ่ายคือคนไทยด้วยกัน
“รัฐบาลต้องเร่งให้ปัญหาความรุนแรงต่างๆ ลดลงโดยเร็วที่สุด เพราะประเทศไทยบอบช้ำมามากแล้ว ทุกวันนี้ประเทศที่อยู่รายรอบเราหลายประเทศได้เจริญขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ขณะที่ประเทศไทยจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจก็มาติดตรงปัญหาความขัดแย้งและก่อให้เกิดความรุนแรงดังกล่าว” นายวิรุณ กล่าว