ระนอง - อธิบดีกรมทรัพยากรธรณีระบุประเทศไทยมีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดภัยดินถล่มใน 51 จังหวัดจึงจำเป็นต้องมีอาสาสมัครแจ้งเตือนภัยเพื่อลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
วันนี้ (9 เม.ย.) ที่โรงแรมทินิดีระนอง กรมทรัพยากรธรณีได้จัดสัมมนาเครือข่ายการเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่มจังหวัดระนอง เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการเกิดดินถล่ม พื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มรวมทั้งการเตรียมความพร้อมของชุมชน ในการป้องกันแจ้งเตือนภัยพร้อมการดำเนินการเมื่อพิบัติภัยได้ผ่านพ้นไปอันเป็นการบรรเทาความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนซึ่งมีอาสาสมัครเตือนภัยจากทุกหมู่บ้านของจังหวัดระนองเข้ารับการอบรมกว่า400 คน โดยมีนายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกต์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณีเป็นประธานเปิดการสัมมนา มีนายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ร่วมให้การต้อนรับ
อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยในประเทศไทย มักเกิดขึ้นเกือบทุกปี โดยเฉพาะกรณีพิบัติภัยดินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วม ซึ่งมักจะเกิดในช่วงที่มีพายุหรือลมมรสุมพาดผ่านทำให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงและฉับพลันก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนซึ่งประเทศไทยมีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดภัยดินถล่มจำนวน 51 จังหวัดแต่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ 21 จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่หุบเขาพื้นที่ลาดชัน และไม่มีต้นไม้เพียงพอในการยึดเกาะของดิน ซึ่งเมื่อฝนตกลงมาเกินกว่า 100มิลลิเมตรต่อวันทำให้เสี่ยงต่อการเกิดดินเลื่อนไหลลงมา
สำหรับจังหวัดระนองมีพื้นที่เสี่ยงภัยจำนวน 81 หมู่บ้าน ซึ่งการป้องกันภัยดินถล่มที่ดีที่สุดคืออย่าไปปลูกสร้างบ้านในพื้นที่เป็นหุบเขาไม่ขวางทางน้ำ และควรรักษาสภาพพื้นที่ป่าไว้ให้มากที่สุด
อธิบดีกรมทรัพยากรธรณีกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันกรมทรัพยากรธรณีได้มีการอบรมและซักซ้อมอาสาสมัครเพื่อเป็นเครือข่ายเฝ้าแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยซึ่งกระจายอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศทั้งใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และภูมิปัญญาท้องถิ่นมาบูรณาการกับความรู้ด้านธรณีพิบัติภัยในการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยเพื่อช่วยลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย
วันนี้ (9 เม.ย.) ที่โรงแรมทินิดีระนอง กรมทรัพยากรธรณีได้จัดสัมมนาเครือข่ายการเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่มจังหวัดระนอง เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการเกิดดินถล่ม พื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มรวมทั้งการเตรียมความพร้อมของชุมชน ในการป้องกันแจ้งเตือนภัยพร้อมการดำเนินการเมื่อพิบัติภัยได้ผ่านพ้นไปอันเป็นการบรรเทาความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนซึ่งมีอาสาสมัครเตือนภัยจากทุกหมู่บ้านของจังหวัดระนองเข้ารับการอบรมกว่า400 คน โดยมีนายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกต์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณีเป็นประธานเปิดการสัมมนา มีนายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ร่วมให้การต้อนรับ
อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยในประเทศไทย มักเกิดขึ้นเกือบทุกปี โดยเฉพาะกรณีพิบัติภัยดินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วม ซึ่งมักจะเกิดในช่วงที่มีพายุหรือลมมรสุมพาดผ่านทำให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงและฉับพลันก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนซึ่งประเทศไทยมีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดภัยดินถล่มจำนวน 51 จังหวัดแต่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ 21 จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่หุบเขาพื้นที่ลาดชัน และไม่มีต้นไม้เพียงพอในการยึดเกาะของดิน ซึ่งเมื่อฝนตกลงมาเกินกว่า 100มิลลิเมตรต่อวันทำให้เสี่ยงต่อการเกิดดินเลื่อนไหลลงมา
สำหรับจังหวัดระนองมีพื้นที่เสี่ยงภัยจำนวน 81 หมู่บ้าน ซึ่งการป้องกันภัยดินถล่มที่ดีที่สุดคืออย่าไปปลูกสร้างบ้านในพื้นที่เป็นหุบเขาไม่ขวางทางน้ำ และควรรักษาสภาพพื้นที่ป่าไว้ให้มากที่สุด
อธิบดีกรมทรัพยากรธรณีกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันกรมทรัพยากรธรณีได้มีการอบรมและซักซ้อมอาสาสมัครเพื่อเป็นเครือข่ายเฝ้าแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยซึ่งกระจายอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศทั้งใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และภูมิปัญญาท้องถิ่นมาบูรณาการกับความรู้ด้านธรณีพิบัติภัยในการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยเพื่อช่วยลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย