ยะลา - โครงการเรียนฟรี 15 ปี ช่วยให้เด็กในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่หยุดเรียนมา 3-4 ปี กลับมาเรียนใหม่ แต่เยาวชนส่วนใหญ่ยังคงเข้าเรียนในโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม ไม่ได้สนใจที่จะเข้าเรียนโรงเรียนรัฐบาล
หลังจากที่คณะรัฐมนตรีรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีมติไฟเขียวนโยบาย “เรียนฟรี 15 ปี” อย่างมีคุณภาพ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนในประเทศอย่างหนัก พร้อมกับตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อกำหนดต่างๆ รวมถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับสิทธิ์เรียนฟรี ซึ่งคำว่า ฟรี 15 ปี คือ ฟรีตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงขั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย รวมทั้งประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และ การศึกษานอกโรงเรียนและ การศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ให้กับทั้งโรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนเอกชน และโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ้าเป็นโรงเรียนรัฐบาลค่าเล่าเรียนฟรี 100 เปอร์เซ็นต์
ส่วนโรงเรียนเอกชนรัฐจะจ่ายเงินช่วยเหลือมากขึ้นโดยผู้ปกครองจ่ายลดลงจากร้อยละ 40 เหลือเพียงร้อยละ 30 ถ้าเด็กคนไหนสละสิทธิ์จะมีใบประกาศเกียรติคุณให้ โดยเงินจำนวนนี้จะนำไปพัฒนาโรงเรียนที่ด้อยโอกาสพัฒนาถึง 600 โรงเรียนทั่วประเทศ โดยในส่วนของงบประมาณที่รัฐช่วยเหลือนั้นมี 5 ส่วนด้วยกัน คือ ค่าเล่าเรียน แบบเรียน เสื้อผ้า ค่าอุปกรณ์การเรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ในส่วนของจังหวัดยะลา นายอรรถสิทธิ์ รัตนแคล้ว ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 1 กล่าวว่า ในส่วนของเงินงบประมาณที่ได้รับการโอนเงินจาก สพฐ.ซึ่งทาง สพฐ.จะโอนเงินตรงไปที่โรงเรียนในแต่ละโรง ตามรายหัว ตามกฎเกณฑ์ อาทิเช่น ค่าแบบเรียนราคาเท่าไหร่ ค่าเสื้อผ้า ค่าอุปกรณ์ ขณะนี้ทุกโรงเรียน ตามที่ได้มอบหมายให้กับ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 1 ที่รับผิดชอบกลุ่มโรงเรียน ได้ลงไปติดตามเรื่องนี้แล้ว ทุกโรงเรียนได้จ่ายเงินให้กับผู้ปกครองไปทั้งหมดแล้ว มีเพียงบางส่วน ที่ผู้ปกครองไม่ได้มารับ ทางโรงเรียนก็มีแผนที่ 2 คือ รอจ่ายก่อนที่เปิดภาคเรียนใหม่ต่อไป
ในพื้นที่จังหวัดยะลาเท่าที่ทำการตรวจสอบก็มีบ้างบางส่วน ในเรื่องของการจัดซื้อ หนังสือแบบเรียน เพราะว่าการจัดซื้อหนังสือแบบเรียน ซึ่งมีหลักเกณฑ์ หลายอย่างที่ทางโรงเรียนจะต้องดำเนินการตามระเบียบ ต้องผ่านความเห็นชอบ จากคณะกรรมการสถานศึกษา และ ภาคี 4 ฝ่าย ขณะนี้หลายโรงเรียนอยู่ในระหว่าง การคัดเลือกหนังสือ และ แบบเรียน เพื่อนำเสนอคณะกรรมการสถานศึกษา และภาคี 4 ฝ่าย เพื่อขอความเห็น ในขณะเดียวกันก็ ให้ทางผู้จำหน่าย มาเสนอราคา อย่างน้อย 3 ราย เพื่อทำให้เป็นระเบียบ บางโรงเรียนก็ได้ทำสัญญาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงอีกไม่กี่โรงเท่านั้นที่ยังไม่เสร็จสิ้น อยู่ในระหว่างการคัดเลือกผู้จำหน่าย คิดว่าก่อนเปิดภาคเรียนใหม่ หนังสือ และ แบบเรียน ทุกโรงเรียนก็จะได้รับหมด
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 1 ยังกล่าวอีกว่า สำหรับนโยบาย “เรียนฟรี 15 ปี” อย่างมีคุณภาพ เป็นนโยบายที่ใช้ทั่วประเทศ ไม่ได้มุ่งหมายที่จะแย่งเด็กนักเรียน มาจากโรงเรียนเอกชน โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือในเขต 1 ของยะลา เท่าที่มีการสำรวจ ก็ยังอยู่ในสภาพปกติ เช่น ในชั้นประถมศึกษา ปรากฏว่าเด็กนักเรียนที่เคยขาดเรียน 3-4 ปี ผู้ปกครอง ของเด็กมาแจ้งความประสงค์ ว่า จะส่งลูกเข้าเรียนต่อ และรับเงินค่าเครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์การเรียน มีจำนวนมากพอสมควร คาดว่าเมื่อเปิดภาคเรียนใหม่จะมีเด็กเข้ามาเรียนหนังสือมากกว่าเดิม ก็ถือว่าโครงการนี้ประสบผลสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง
หลังจากที่คณะรัฐมนตรีรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีมติไฟเขียวนโยบาย “เรียนฟรี 15 ปี” อย่างมีคุณภาพ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนในประเทศอย่างหนัก พร้อมกับตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อกำหนดต่างๆ รวมถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับสิทธิ์เรียนฟรี ซึ่งคำว่า ฟรี 15 ปี คือ ฟรีตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงขั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย รวมทั้งประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และ การศึกษานอกโรงเรียนและ การศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ให้กับทั้งโรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนเอกชน และโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ้าเป็นโรงเรียนรัฐบาลค่าเล่าเรียนฟรี 100 เปอร์เซ็นต์
ส่วนโรงเรียนเอกชนรัฐจะจ่ายเงินช่วยเหลือมากขึ้นโดยผู้ปกครองจ่ายลดลงจากร้อยละ 40 เหลือเพียงร้อยละ 30 ถ้าเด็กคนไหนสละสิทธิ์จะมีใบประกาศเกียรติคุณให้ โดยเงินจำนวนนี้จะนำไปพัฒนาโรงเรียนที่ด้อยโอกาสพัฒนาถึง 600 โรงเรียนทั่วประเทศ โดยในส่วนของงบประมาณที่รัฐช่วยเหลือนั้นมี 5 ส่วนด้วยกัน คือ ค่าเล่าเรียน แบบเรียน เสื้อผ้า ค่าอุปกรณ์การเรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ในส่วนของจังหวัดยะลา นายอรรถสิทธิ์ รัตนแคล้ว ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 1 กล่าวว่า ในส่วนของเงินงบประมาณที่ได้รับการโอนเงินจาก สพฐ.ซึ่งทาง สพฐ.จะโอนเงินตรงไปที่โรงเรียนในแต่ละโรง ตามรายหัว ตามกฎเกณฑ์ อาทิเช่น ค่าแบบเรียนราคาเท่าไหร่ ค่าเสื้อผ้า ค่าอุปกรณ์ ขณะนี้ทุกโรงเรียน ตามที่ได้มอบหมายให้กับ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 1 ที่รับผิดชอบกลุ่มโรงเรียน ได้ลงไปติดตามเรื่องนี้แล้ว ทุกโรงเรียนได้จ่ายเงินให้กับผู้ปกครองไปทั้งหมดแล้ว มีเพียงบางส่วน ที่ผู้ปกครองไม่ได้มารับ ทางโรงเรียนก็มีแผนที่ 2 คือ รอจ่ายก่อนที่เปิดภาคเรียนใหม่ต่อไป
ในพื้นที่จังหวัดยะลาเท่าที่ทำการตรวจสอบก็มีบ้างบางส่วน ในเรื่องของการจัดซื้อ หนังสือแบบเรียน เพราะว่าการจัดซื้อหนังสือแบบเรียน ซึ่งมีหลักเกณฑ์ หลายอย่างที่ทางโรงเรียนจะต้องดำเนินการตามระเบียบ ต้องผ่านความเห็นชอบ จากคณะกรรมการสถานศึกษา และ ภาคี 4 ฝ่าย ขณะนี้หลายโรงเรียนอยู่ในระหว่าง การคัดเลือกหนังสือ และ แบบเรียน เพื่อนำเสนอคณะกรรมการสถานศึกษา และภาคี 4 ฝ่าย เพื่อขอความเห็น ในขณะเดียวกันก็ ให้ทางผู้จำหน่าย มาเสนอราคา อย่างน้อย 3 ราย เพื่อทำให้เป็นระเบียบ บางโรงเรียนก็ได้ทำสัญญาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงอีกไม่กี่โรงเท่านั้นที่ยังไม่เสร็จสิ้น อยู่ในระหว่างการคัดเลือกผู้จำหน่าย คิดว่าก่อนเปิดภาคเรียนใหม่ หนังสือ และ แบบเรียน ทุกโรงเรียนก็จะได้รับหมด
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 1 ยังกล่าวอีกว่า สำหรับนโยบาย “เรียนฟรี 15 ปี” อย่างมีคุณภาพ เป็นนโยบายที่ใช้ทั่วประเทศ ไม่ได้มุ่งหมายที่จะแย่งเด็กนักเรียน มาจากโรงเรียนเอกชน โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือในเขต 1 ของยะลา เท่าที่มีการสำรวจ ก็ยังอยู่ในสภาพปกติ เช่น ในชั้นประถมศึกษา ปรากฏว่าเด็กนักเรียนที่เคยขาดเรียน 3-4 ปี ผู้ปกครอง ของเด็กมาแจ้งความประสงค์ ว่า จะส่งลูกเข้าเรียนต่อ และรับเงินค่าเครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์การเรียน มีจำนวนมากพอสมควร คาดว่าเมื่อเปิดภาคเรียนใหม่จะมีเด็กเข้ามาเรียนหนังสือมากกว่าเดิม ก็ถือว่าโครงการนี้ประสบผลสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง
