ศูนย์ข่าวภูเก็ต-“วิชัย ไพรสงบ” ผู้ว่าฯ ใหม่ภูเก็ต ขอเป็นสารถีนำผู้โดยสารให้ถึงฝั่งฝัน แต่สำคัญทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน เตรียมหารือผู้นำท้องถิ่นกำหนดทิศทางพัฒนาภูเก็ต พร้อมระบุจะต้องดูแลทุกเรื่อง ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาจราจร แนะภูเก็ตไม่ควรแตกแยกหากมีความแตกแยกส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวได้
วันนี้ (15 มี.ค.) นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตคนใหม่ กล่าวภายหลังเดินทางมาถึงจังหวัดภูเก็ต ซึ่ง ข้าราชการจังหวัดภูเก็ต นำโดยนายวรพจน์ รัฐสีมา, นายตรี อัครเดชา, นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายปิยะ ภะรตะศิลปิน ปลัดจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตัวแทนสมาคม มูลนิธิต่างๆ รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จ.พังงา ให้การต้อนรับที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ว่าเบื้องลึกยังไม่มีข้อมูลมากนัก แต่หากเป็นภาพกว้างมองว่าภูเก็ตเป็นเมืองพิเศษที่แตกต่างจากจังหวัดอื่นๆในประเทศไทย โดยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยความเป็นเกาะ มีวิถีชีวิตการประกอบอาชีพเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว จึงเป็นแหล่งรวมความหลากหลาย ทั้งประชาชนทั่วไป นักธุรกิจ ชาวต่างชาติเข้ามาอยู่อาศัยจากทั่วโลก
ดังนั้น ความนิ่งของสถานการณ์จึงเป็นเรื่องสำคัญ สังคมภูเก็ตไม่ควรจะมีความแตกแยก ซึ่งจะเป็นผลดีอย่างมากกับการท่องเที่ยว เพราะไม่เช่นนั้นแล้วก็จะส่งผลกระทบในภาพรวมของคนทุกกลุ่ม เปรียบนักท่องเที่ยวเหมือนกับปลา หากน้ำกระเพื่อมหรือไม่นิ่ง ปลาก็จะตื่นและหนีไป เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวเมื่อเกิดความไม่สงบเขาก็จะไม่เดินทางเข้ามา
อย่างไรก็ตาม ภูเก็ตเป็นเมืองที่ไม่ใหญ่มากนัก มีเพียง 3 อำเภอ มีประชาชนประมาณ 3 แสนคน แต่คิดว่าน่าจะมีผู้คนอาศัยอยู่มากกว่านั้น โดยเฉพาะประชากรแฝงซึ่งคาดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 3 แสนคน เบื้องต้น กรณีชุมชนมีความหนาแน่ ปัญหาที่ตามมากคือ เรื่องของขยะ นอกจากนี้ยังเห็นปัญหาความไม่สวยงามของเมือง ซึ่งในระหว่างที่เดินทางจากสนามบินมายังตัวเมืองพบว่าบริเวณเกาะกลางถนนมีตอไม้เต็มไปหมด ซึ่งทำให้เกิดความไม่สวยงาม จะทำอย่างไรที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ ดังกล่าว ซึ่งสามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่ต้องเป็นอินเตอร์ ทั้งนี้คงต้องมาคุยกันในรายละเอียดอีกครั้งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายวิชัยกล่าวด้วยว่า การทำงานของตนนั้นคงต้องดูในทุกเรื่อง ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ความปลอดภัย โดยเฉพาะการจราจรขนส่งซึ่งเป็นปัญหาใหญ่จะสามารถจะตัดถนนเพิ่มได้หรือไม่อย่างไร หรืออาจจะใช้วิธีการขุดอุโมงในเส้นทางที่เป็นควนเขาค่อนข้างลาดชัน โดยให้ท้องถิ่นบริหาร หรือเอกชนในลักษณะเทิร์นคีย์ ซึ่งทุกเรื่องคงต้องมีการพูดคุยกับคนในพื้นที่ก่อนม่าจะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน หรือภาคประชาชน และมาตัดสินใจร่วมกันว่าจะเดินไปทิศทางไหนอย่างไร
ขณะที่ในเรื่องของเศรษฐกิจนั้นคงหนีไม่พ้นเรื่องการท่องเที่ยว เพราะภูเก็ตมีชื่อเสียงที่ทุกคนรู้จัก แต่จะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะความสงบเรียบร้อยในพื้นที่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เขาเดินทางเข้ามา และสร้างความประทับใจให้เกิดขึ้น เพราะหากนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมากก็จะเกิดรายได้ ดังนั้น เราต้องนิ่ง ในขณะเดียวกันก็จะต้องมีการพัฒนาขีดความสามารถด้านการแข่งขัน เนื่องจากเรามีความได้เปรียบอยู่แล้ว
นายวิชัยยังได้กล่าวต่อไปว่า การมาทำงานที่ภูเก็ตนั้นยอมรับว่ามีความหนักใจแน่นอน แต่ไม่ท้อใจ เพราะเป็นนักสู้ สิ่งที่หนักใจคือตัวเองไม่เคยอยู่ภูเก็ตมาก่อน และท่านผู้ว่าฯ ที่ผ่านๆ มาล้วนแล้วแต่เป็นคนเก่ง ซึ่งนโยบายที่อดีตท่านผู้ว่าฯ ได้ดำเนินการไว้แล้วและเป็นโครงการที่ดีก็พร้อมที่จะสานต่อ และพร้อมที่จะริเริ่มโครงการใหม่ๆ ที่จะทำให้ภูเก็ตพัฒนาไปยิ่งๆ ขึ้น แต่ทั้งนี้ ต้องสอบถามคนภูเก็ตทุกภาคส่วนก่อนว่าจะเอาด้วยหรือไม่ ทั้งนี้หลักการทำงานของตนก็คือจริงจัง จริงใจ ทุ่มเทเสียสละ ซึ่งอาจจะเหนื่อย แต่หากทำแล้วประสบความสำเร็จก็จะเกิดความภาคภูมิใจ เพราะเงินทองมาแล้วก็ไป แต่เกียรติยศหาซื้อไม่ได้
ผู้ว่าฯ เปรียบเหมือนคนขับรถ จะขับดีหรือไม่ต้องขึ้นกับชิ้นส่วนของรถ เช่น แบตเตอรี่ ล้อ เป็นต้น คือข้าราชการในการให้ความร่วมมือ และที่สำคัญที่สุดคงเป็นผู้โดยสาร หากคนขับดีชิ้นส่วนดี แต่ผู้โดยสารทะเลากันตลอดเวลา ก็จำเป็นต้องมาจัดระเบียบกันใหม่ และสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ สื่อที่จะต้องเป็นกระจกส่องหลังสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้หาแนทางแก้ไขให้ถูกต้อง ซึ่งทุกอย่างอยู่กับความร่วมไม้ร่วมมือ เพื่อรถจะขับไปได้ด้วยดี
