ชุมพร - พบโครงกระดูกมนุษย์ พร้อมลูกปัดโบราณจำนวนมากที่ชุมพร นักโบราณคดี คาด น่าจะมีอายุมากกว่า 5 พันปี ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ลักษณะคล้ายถูกฝังผ่านพิธีกรรม
วันนี้ (11 มี.ค.) ผศ.ชวลิต ขาวเขียว รองหัวหน้าภาควิชาโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร นำคณะนักโบราณคดี เดินทางไปที่บริเวณปากถ้ำเชิงเขาจุฬา หมู่ 1 บ้านกลาง ต.เขาทะลุ อ.สวี จ.ชุมพร หลังได้รับแจ้งว่า พบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ และลูกปัดจำนวนมาก จากการขุดสำรวจจุดแรกที่บริเวณปากถ้ำดังกล่าว เป็นหลุมกว้าง 3 เมตร ลึก 1 เมตร
พบโครงกระดูกมนุษย์ ซึ่งโครงกระดูกที่พบอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ลักษณะนอนหงาย หันหน้าไปทาง ทิศตะวันออก ส่วนแขนทั้ง 2 ข้างขนาบอยู่ข้างลำตัว ขาเหยียดตรง คล้ายกับถูกฝังโดยผ่านพิธีกรรมตามความเชื่อในยุคสมัยโบราณ จากการวัดโครงกระดูกตั้งแต่ศีรษะไปจนถึงปลายเท้า มีความยาวถึง 198 ซม.นอกจากนั้น ในบริเวณปากถ้ำ และในถ้ำเขาจุฬายังพบลูกปัด กำไล เครื่องประดับต่างๆ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ อีกจำนวนมาก มีสภาพสวยงาม สมบูรณ์
ผศ.ชวลิต ขาวเขียว รองหัวหน้าภาควิชาโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า โครงกระดูกที่ขุดพบถ้าสังเกตในหลุมที่พบโครงการดูก จะไม่มีทรัพย์สินของมีค่าใดๆ นอกจากลูกปัด และสิ่งของเครื่องใช้ในการดำรงชีพ แสดงว่า น่าจะเป็นมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ จากลักษณะที่พบคาดว่า น่าจะมีอายุมากกว่า 5 พันปี
เนื่องจากโครงกระดูกมนุษย์ดังกล่าวเป็นเพศชายมีรูปร่างสูงใหญ่ ซึ่งสันนิษฐานได้ว่า ถ้ำดังกล่าวคงเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวมนุษย์ในยุคสมัยนั้น เมื่อเสียชีวิตลงญาติๆ จึงได้ประกอบพิธีฝังศพที่บริเวณหน้าถ้ำเชิงเขา เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของสถานที่ อีกทั้งสภาพโครงกระดูกถูกจัดนอนอย่างเป็นระเบียบ แสดงถึงผ่านพิธีกรรมในการฝังศพด้วย
ขณะนี้ นักโบราณคดี กำลังทำการสำรวจ วิจัยพื้นที่ต่าง ๆ ใน จ.ชุมพรอยู่ เนื่องจากพบหลักฐาน หลายอย่างที่มีความหมายถึงการตั้งรกรากถิ่นฐานของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์บริเวณพื้นที่ จ.ชุมพร โดยเฉพาะที่เขาสามแก้ว อ.เมือง จ.ชุมพร
นักโบราณคดีชุดสำรวจจึงตั้งชื่อโครงการว่า “โครงการหม้อสามขา” เนื่องจากมีการขุดพบหม้อสามขาในพื้นที่บริเวณดังกล่าว และจนกระทั่งมาพบโครงกระดูกมนุษย์ ลูกปัด ขึ้นอีกในพื้นที่นี้
ด้าน นายจรวย ขลิบเคลื่อน นายก อบต.เขาทะลุ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องตั้งเวรยามรักษาการณ์ ในบริเวณดังกล่าว เพราะก่อนหน้านี้ มีชาวบ้านเข้าไปขุดพบลูกปัด และวัตถุโบราณ ในถ้ำเขาจุฬา โดยเฉพาะลูกปัดมีสีสันสวยงามเหมือนลูกปัดสุริยเทพ จึงทำให้ชาวบ้านมีความต้องการ และเข้าไปขุดหา เพื่อนำไปเป็นของส่วนตัวกันจำนวนมาก
ตนในฐานะนายก อบต.จะทำสถานที่ดังกล่าว ให้เป็นสถานที่อนุรักษ์ และให้กรมศิลปากรมาขึ้นทะเบียนโบราณสถาน เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาหาความรู้ต่อไป รวมถึงจะได้พัฒนา ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของ จ.ชุมพร ด้วย