บุรีรัมย์ - กรมศิลปากร บุกพิสูจน์โครงกระดูกมนุษย์โบราณ บุรีรัมย์ คาดอยู่ในยุคเหล็กก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย อายุราว 1,500-2,500 ปี พร้อมแนะนำกลบดินฝังในสภาพเดิม ไม่ให้มีการเคลื่อนย้าย หรือขุดเพิ่มอีก ด้านเจ้าของที่ดินเกรงไม่เหมาะสม รบกวนบรรพบุรุษเตรียมทำกระจกล้อมรอบไว้ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ นายกอบต.พร้อมหารือทุกฝ่ายผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเมืองโบราณ จัดเวรยามดูแลตลอด 24 ชม.คอหวยแห่ดูตีเลขเด็ด
วันนี้ (14 พ.ค.) เวลา 15.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.กรรณิการ์ เปรมใจ นักโบราณคดี สังกัดสำนักศิลปากรที่ 12 นครราชสีมา ได้เข้าตรวจพิสูจน์ โครงกระดูกมนุษย์โบราณ จำนวน 3 โครง ในหลุมลึก 20 เซนติเมตร กว้าง 60 เซนติเมตร ยาว 1.20 เมตร พร้อมกับเศษซากโครงกระดูก และภาชนะดินเผาแตกหักอีกจำนวนมาก
หลังชาวบ้านขุดพบเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา บนที่ดินของ นายแปลก แก้วประสงค์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ที่ 15 บ.สะแกโพรง ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งได้ว่าจ้างให้รถแบ็คโฮ และคนงานมาขุดปรับหน้าดิน เพื่อเตรียมปลูกต้นมะนาว
น.ส.กรรณิการ์ เปรมใจ นักโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 12 นครราชสีมา กล่าวว่า จากการตรวจพิสูจน์โครงกระดูกมนุษย์ และภาชนะดินเผา รวมทั้งวัตถุโบราณอื่นๆ เครื่องมือเหล็กที่พบ สันนิษฐาน ว่า อาจอยู่ในยุคเหล็กก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย มีอายุราว 1,500-2,500 ปี ซึ่งกรมศิลปากร ได้ปรึกษาเจ้าของเจ้าที่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และ ผู้ใหญ่บ้าน มีความเห็นว่า หากตรวจพิสูจน์เรียบร้อยให้ดำเนินการกลบดินฝังโครงกระดูกในสภาพเดิม ไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายแต่อย่างใด เพราะโครงกระดูกอยู่ในสภาพที่ถูกรบกวน ยุ่ย และอยู่ในหลุมแคบๆ ประมาณกว่า 1 เมตร มีโครงกระดูกอยู่ 3 โครง ไม่มีการวางตัวตามแนว “อนาโตมี่” หรือ การฝังตัวตามแนวปกติ
น.ส.กรรณิการ์ กล่าวต่อว่า ในหลุมฝังศพที่พบ มีหัวกะโหลกอยู่ 3 หัว และมีโครงรวมกันอยู่ 3 โครง แต่ชาวบ้านบอกว่าได้ขุดเจอก่อนนี้ จำนวน 3 โครง รวมทั้งหมด 6 โครง ส่วนของมีค่า ที่พบมีภาชนะดินเผา และ เบี้ยดินเผาชิ้นเล็กๆ กลมๆ และชิ้นส่วนเครื่องมือเหล็ก ที่ผุกร่อนมาก จนไม่สามารถบอกได้ว่าคืออะไร
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจบริเวณเนินดินโดยรอบก็พบเศษภาชนะดินเผา และร่องรอยของเตาโบราณ ในบริเวณใกล้เคียงที่ขุดพบโครงกระดูก เชื่อว่า บริเวณนี้เป็นชุมชนโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ จากคำบอกเล่าของชาวบ้านในบริเวณนี้ได้ขุดเจอสมบัติเก่า ของมีค่าจำนวนมาก แต่ตรงที่ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ของมีค่าไม่ค่อยมีหรือมีน้อย ซึ่งอาจจะเป็นแหล่งฝังศพก็ได้ และในบริเวณหมู่บ้านก็จะเป็นที่อยู่อาศัย
ส่วนการที่จะส่งเสริมเป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือไม่นั้น นางสาวกรรณิการ์ กล่าวว่า คงต้องมีการปรึกษาหารือจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากกรมศิลปากร จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) และเจ้าของที่ดิน แต่ตอนนี้หลังตรวจพิสูจน์ขอให้เจ้าของที่กลบดินฝังโครงกระดูกไว้ตามเดิมเสียก่อน เพื่อป้องกันว่าไม่ให้คนมาขุดต่อ และทำลายสภาพชุมชนโบราณให้เสียไป
นายแปลก แก้วประสงค์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ที่ 15 บ.สะแกโพรง ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ กล่าวว่า ทางกรมศิลปากร แนะนำให้กลบดินฝังโครงกระดูกไว้ตามเดิม แต่ดูแล้วเกรงว่าจะไม่เหมาะสมและลบหลู่สิ่งที่ขุดพบ จึงคิดหาวิธีจะนำกระจกมาล้อมรอบไว้ ให้ชาวบ้านกราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคล แต่คงต้องหารือกับทางกรมศิลปากร และ นายก อบต.อีกครั้งว่าจะทำอย่างไร
ขณะที่ นายตุ๋ย ปุลันรัมย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)สะแกโพรง กล่าวว่า ทาง อบต.พร้อมให้ความร่วมมือกับกรมศิลปากร เจ้าของที่ดิน และชาวบ้าน ว่าจะดำเนินการอย่างไร อบต.ก็พร้อมให้การสนับสนุน ส่วนจะพัฒนาบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือไม่ คงต้องหารือกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องก่อน ทั้งกรมศิลปากร เจ้าของที่ และทางจังหวัดด้วย อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการหมู่บ้าน ได้จัดเวรยามคอยดูแล เกรงว่าจะมีคนเข้ามาขโมย และทำลายโครงการกระดูก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่มีการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ ชาวบ้านได้ร่วมกันนิมนต์พระสงฆ์มาสวด และทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษที่พบ เป็นเวลา 7 วัน และพบว่ายังคงมีชาวบ้านจากทั่วสารทิศเดินทางมาจุดธูป เทียนกราบไว้ กันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักเล่นพนันหวยต่างพากันเหมารถมาเป็นคณะพร้อมกับตีเลขไปต่างๆ นานา ตามความเชื่อของแต่ละคน รวมทั้งแม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ต่างฉวยโอกาสมาวางขาย ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เพราะใกล้วันหวยออกด้วย