xs
xsm
sm
md
lg

องคมนตรีหนุนการศึกษามุสลิมใต้รองรับอาเซียน-เซาเทิร์นซีบอร์ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปัตตานี - องคมนตรีหนุนการศึกษามุสลิมภาคใต้ นักศึกษาทั่วไปของ มอ.ปัตตานี เพื่อพัฒนาการศึกษาไว้รองรับการพัฒนาในภูมิภาคอาเซียน ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ของรัฐบาล เซาเทิร์นซีบอร์ด


ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (มอ.ปัตตานี) วันนี้(6 มี.ค.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ได้เดินทางร่วมประชุมพบปะเยี่ยมเยียนอาจารย์ นักศึกษา ของวิทยาลัยอิสลามศึกษา (วอศ.) ซึ่งเป็นคณะหนึ่งของ ม.อ.ปัตตานี โดยมี ผศ.สมปอง ทองผ่อง รองอธิการบดี มอ.ปัตตานี, รศ.ดร.อิสมาแอ อาลี ผู้อำนวยการ วอศ., นายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าฯปัตตานี คณะอาจารย์ นักศึกษา ร่วมการประชุม

พล.อ.สุรยุทธ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ เพื่อให้อาจารย์ นักศึกษา ให้ความสนใจในเรื่องความร่วมมือข้อตกลงประเทศอาเซียน ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในอีก 6 ปีข้างหน้าในการเปิดประเทศกลุ่มอาเซียน ตามกรอบข้อตกลงความร่วมมือต่างๆ ซึ่งจำเป็นที่ทุกฝ่ายจะต้องเตรียมพร้อมทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจและความมั่นคง ซึ่งนักศึกษามุสลิมจะได้รับโอกาสสำคัญจากความร่วมมืออาเซียน เนื่องจากมีภาษาและวัฒนธรรมใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนภาคใต้ ทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไน

ตนพร้อมประสานขอความช่วยเหลือจากภาครัฐในการสนับสนุนการศึกษามุสลิม และนักศึกษาทั่วไปของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อพัฒนาการศึกษาไว้รองรับการพัฒนาในภูมิภาคอาเซียน ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ของรัฐบาล ที่จะดำเนินการโครงการพัฒนาเศรษฐกิจชายฝั่งทะเลภาคใต้หรือเซาร์เทิอร์นซีบอร์ด

“มาในวันนี้ก็ได้พูดถึงเรื่อง ที่อยากจะให้ทั้งอาจารย์ นักศึกษา ให้ความสนใจในเรื่องของประชาคมอาเซียน ซึ่งเราจะต้องดำเนินการให้ลุล่วงไป ภายในระยะเวลาประมาณ 6 ปี ก่อนที่จะได้เกิดความสมบูรณ์ในประชาคมอาเซียน”

องคมนตรีกล่าวอีกว่า สำหรับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจภาคใต้ ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินโครงการพัฒนาเศรษฐกิจชายฝั่งทะเลภาคใต้ หรือเซาเทิร์นซีบอร์ด ก็จะเป็นส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนภาคใต้ และทุกฝ่ายก็จะต้องเตรียมความพร้อมและเข้าไปมีส่วนร่วมว่าจะพัฒนาอย่างไรไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันการพัฒนาทางเศรษฐกิจถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่การระมัดระวังป้องกันผลกระทบต่อประชาชน สังคมและสิ่งแวดล้อมก็เป็นเรื่องที่สำคัญที่จะต้องดำเนินการไปควบคู่กัน ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ฟ้องร้อง ดังเช่นกรณีโรงไฟฟ้าแม่เมาะ และโครงการพัฒนาเศรษฐกิจชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ที่มาบตาพุด จ.ระยอง

พล.อ.สุรยุทธ์ ยังได้กล่าวฝากถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ว่า ในการแก้ปัญหานั้นตนคิดว่า อยู่ที่ความร่วมมือของประชาชน ที่จะต้องช่วยกันดูแลในเรื่องต่างๆ ให้ครบถ้วนภายในระยะเวลา 6 ปี เพราะไม่เช่นนั้นแล้วเราก็จะเป็นปัญหาต่อความร่วมมือประชาคมอาเซียนได้


กำลังโหลดความคิดเห็น