เอเอฟพี - สำนักข่าวไชน่ายูธเดลี่รายงาน เซี่ยงไฮ้เริ่มรณรงค์ให้ชาวเมืองหยุดพฤติกรรมชอบสวมชุดนอนออกมาเดินว่อนถนน ซึ่งเป็นความเคยชินที่มีมานานและถูกมองว่าเป็น “มลภาวะทางสายตา”
กัว ซี่หลิน คณะกรรมการชุมชนเมืองเซี่ยงไฮ้ให้สัมภาษณ์ว่า “เรากำลังพยายามรณรงค์ให้ชาวเมืองเลิกใส่ชุดนอนออกมาเดินบนถนน เพราะว่ามันเป็นภาพที่ดูแล้วไม่ศิวิไลซ์เอาเสียเลย”
ทั้งนี้ นิสัยชอบใส่ชุดนอนออกมาอวดบนท้องถนนของชาวเซี่ยงไฮ้นั้น ถูกปลูกฝังยาวนานตั้งแต่จีนเริ่มปฏิรูปเศรษฐกิจและเปิดประเทศเมื่อ 30 ปีก่อน การอวดชุดนอนก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ใส่ชุดนอนขาดรุ่งริ่งนอนอีกต่อไปแล้ว และกลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่บ่งบอกถึงความมีอันจะกินด้วย
ปัจจุบันแม้ว่าเศรษฐกิจของเซี่ยงไฮ้จะขยายตัวไปอย่างรวดเร็วเพียงใด แต่เราก็ยังคงเห็นชาวเซี่ยงไฮ้จำนวนมากสวมชุดนอนออกมาเดินนอกบ้านในเวลากลางวันซึ่งดูเหมือนจะเป็นวิถีการดำเนินชีวิตมากกว่าจะเป็นเรื่องของแฟชั่น
ในขณะที่กัวมองว่าภาพเหล่านี้เป็น “มลภาวะทางสายตา” และทำให้เซี่ยงไฮ้เสียชื่อเสียง แต่ชาวเมืองบางส่วนกลับมองว่ามันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเมือง “ชุดนอนมันก็เป็นเสื้อผ้าประเภทหนึ่งที่ใส่สบาย แล้วก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเพราะทุกคนเขาก็ใส่ออกข้างนอกกัน” คุณเกอ ผู้เกษียณอายุกล่าว
ทั้งนี้ การรณรงค์ให้เลิกใส่ชุดนอนครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก โดยในช่วงทศวรรษที่ 90 ทางการเมืองเซี่ยงไฮ้เคยรณรงค์ให้ชาวบ้านเลิกใส่ชุดนอนออกมาเดินข้างนอกแล้ว แต่สุดท้ายโครงการนี้ก็ต้องล้มพับไป
นอกจากนี้เมื่อปีที่แล้วศูนย์วิจัยทรัพยากรหญิงแห่งเซี่ยงไฮ้ได้ทำการสำรวจหัวข้อ “พฤติกรรมที่แลดูมีวัฒนธรรมและได้รับการอบรมของสาวเซี่ยงไฮ้” ในจำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม 2011 ราย มีสาวเซี่ยงไฮ้ 85.7% ที่ลงคะแนนให้ “การสวมชุดนอนออกมาเดินนอกบ้าน” เป็นพฤติกรรมที่แลดูไม่มีวัฒนธรรมที่สุด