นครศรีธรรมราช – เหตุการณ์ลักทรัพย์แล้วเผาบ้าน คนร้ายยังคงก่อเหตุต่อเนื่อง ล่าสุด เป็นรายที่ 9 แล้ว ทำให้ชาวบ้านใน อ.ขนอม ผวาหนัก ด้าน ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช สั่งย้ายด่วน ผกก. ส่วนผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช ตั้งค่าหัวคนร้าย 100,000 บาท
เหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์แล้วเผาบ้านเจ้าทรัพย์ได้กลายเป็นเหตุการณ์ที่คนร้ายได้ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง สร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนชาว อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช โดยพบว่ามีการก่อเหตุไปแล้วถึง 8 ราย ซึ่งได้รับการยืนยันว่ามีการวางเพลิงแล้ว 5 ราย
โดยรายล่าสุดนั้นเกิดเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (5 มี.ค.) พ.ต.ท.วชิรพันธ์ เกื้อแก้ว สว.เวรสอบสวน สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านเลขที่ 2/9 ม.6 ต.ควนทอง อ.ขนอม จึงเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลควนทอง ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นบ้านชั้นเดียวเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์เครื่องมือเข้าทำการดับเพลิงจนสามารถคุมเพลิงไว้ได้
เบื้องต้นพบว่า เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว คือ นายณรงค์ เมฆสุข อายุ 40 ปี มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทไม้ยางพารา หลังจากที่ทราบข่าวได้กลับมาดูบ้านของตัวเองถึงกับลมจับ และเมื่อตรวจสอบพบว่าประตูบ้าน หน้าต่างยังถูกปิดไว้อย่างเรียบร้อยแต่ส่วนของกลังคาหลังบ้านมีร่องรอยของการเปิดหลังคาอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อเปิดประตูเข้าไปภายใน พบว่า เพลิงได้เผาไหม้ทรัพย์สินไปหลายรายการ โดยมีร่องรอยของการลากเอากองเสื้อผ้า ที่นอนผ้าม่าน มากองไว้ตรงกลางบ้านเป็นเชื้อเพลิง นอกจากนั้นยังพบร่องรอยของการรื้อค้นข้าวของกระจุยกระจายทรัพย์สินสูญหายไปหลายรายการ
ต่อมา พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที ผกก.สภ.ขนอม ได้รายงานด่วนถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ไปยัง พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ทราบ เนื่องจากพฤติการณ์แห่งคดีนั้นเป็นการก่อเหตุของคนร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยมีพฤติกรรมเข้าไปลักทรัพย์แล้วก่อเหตุเผาทรัพย์สินที่เหลือภายในบ้านรวมทั้งตัวบ้านของเจ้าทรัพย์จากนั้นจึงหลบหนีไป
พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นได้ตรวจสอบข้อมูลในทางลับและเชิงลึก ซึ่งมีหลายแนวคิดที่พบว่าอาจจะมีการก่อเหตุด้วยพฤติกรรมโรคจิต หรือเหตุอะไรบางอย่างที่ยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูลในขณะนี้ คนร้ายมีเป็นกลุ่มมากกว่า 1 คนอย่างแน่นอนเมื่อโจรกรรมเสร็จแล้วจะเผาซ้ำด้วย และทุกหลังที่ก่อเหตุจะเลือกเอาบริเวณที่ใกล้กับถนนเพื่อง่ายต่อการหลบหนี
“อย่างไรก็ตาม จากเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ผมได้ออกวิทยุด่วนสั่งย้าย พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที ผกก.สภ.ขนอม ออกจากพื้นที่ทันทีโดยให้ย้ายมาช่วยราชการที่ บก.ภ.นครศรีธรรมราช ไว้ก่อน เพื่อสะดวกในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ส่วนทางผมนั้นได้ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษนำโดย พ.ต.อ.สมชาย อ่วมถนอม รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช นำชุดปฏิบัติการพิเศษลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อเข้าทำการสืบสวนสอบสวนตามกรรมวิธี และจะต้องควบคุมเหตุการณ์ให้ได้เพื่อความสบายใจของประชาชนชาวอำเภอขนอม”
ผบก.นครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ เรื่องของประชาชนที่มีความไม่พอใจกับผู้บริหารสถานี ซึ่งสาเหตุนี้ที่เราต้องย้ายออกมาก่อนส่วนที่จะให้ใครเข้าไปแทนนั้นต้องรอหารือกับ ผบช.ภ.8 และ ผบช.ภ.8 จะมีคำสั่งในเรื่องนี้อีกครั้ง
นายหนูกิจ รูปสะอาด อายุ 73 ปี อดีตข้าราชการครู ในฐานะราษฎรอาวุโสที่ได้รับการนับถือจากประชาชนชาวอำเภอขนอม เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวอำเภอขนอม กำลังหวาดวิตกมาก เมืองขนอมกำลังจะกลายเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่กลับอยู่ในความหวาดกลัวจนชาวบ้านไม่กล้าออกไปไหนในตอนกลางวัน จะต้องมีคนเฝ้าตลอด เกรงว่าคนร้ายจะเข้าไปเผาบ้าน เมืองขนอมเป็นเมืองที่เงียบสงบ น่าอยู่แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้สร้างความเสียหายอย่างยิ่ง
“ผมสังเกตว่าคนร้ายเหมือนกับราวจะรู้ว่าความเคลื่อนไหวของชาวบ้านเป็นอย่างไร และรู้ว่าใครไม่อยู่บ้านตอนไหนจะเข้าไปก่อเหตุ หลายหลังที่เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์แล้วเผาไม่สำเร็จต้องหลบหนีไปก่อน หลายหลังที่เผาสำเร็จ บ้างก็เสียหายทั้งหลังบ้างก็เสียหายเล็กน้อย” ราษฎรอาวุโส กล่าว
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นของวันเดียวกัน นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประกาศตั้งค่าหัวคนร้ายเป็นจำนวนเงิน 1 แสนบาท ขณะเดียวกันชาวบ้านในอำเภอขนอมได้รวมตัวกันนัดหมายที่จะทอดผ้าป่าสามัคคีช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์แล้วเผาบ้าน ในวันที่ 14 มี.ค.2552 ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอ โดยเมื่อมีการรวมความเสียหายที่เกิดขึ้นในขณะนี้สูงนับล้านบาทแล้ว
เหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์แล้วเผาบ้านเจ้าทรัพย์ได้กลายเป็นเหตุการณ์ที่คนร้ายได้ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง สร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนชาว อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช โดยพบว่ามีการก่อเหตุไปแล้วถึง 8 ราย ซึ่งได้รับการยืนยันว่ามีการวางเพลิงแล้ว 5 ราย
โดยรายล่าสุดนั้นเกิดเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (5 มี.ค.) พ.ต.ท.วชิรพันธ์ เกื้อแก้ว สว.เวรสอบสวน สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านเลขที่ 2/9 ม.6 ต.ควนทอง อ.ขนอม จึงเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลควนทอง ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นบ้านชั้นเดียวเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์เครื่องมือเข้าทำการดับเพลิงจนสามารถคุมเพลิงไว้ได้
เบื้องต้นพบว่า เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว คือ นายณรงค์ เมฆสุข อายุ 40 ปี มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทไม้ยางพารา หลังจากที่ทราบข่าวได้กลับมาดูบ้านของตัวเองถึงกับลมจับ และเมื่อตรวจสอบพบว่าประตูบ้าน หน้าต่างยังถูกปิดไว้อย่างเรียบร้อยแต่ส่วนของกลังคาหลังบ้านมีร่องรอยของการเปิดหลังคาอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อเปิดประตูเข้าไปภายใน พบว่า เพลิงได้เผาไหม้ทรัพย์สินไปหลายรายการ โดยมีร่องรอยของการลากเอากองเสื้อผ้า ที่นอนผ้าม่าน มากองไว้ตรงกลางบ้านเป็นเชื้อเพลิง นอกจากนั้นยังพบร่องรอยของการรื้อค้นข้าวของกระจุยกระจายทรัพย์สินสูญหายไปหลายรายการ
ต่อมา พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที ผกก.สภ.ขนอม ได้รายงานด่วนถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ไปยัง พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ทราบ เนื่องจากพฤติการณ์แห่งคดีนั้นเป็นการก่อเหตุของคนร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยมีพฤติกรรมเข้าไปลักทรัพย์แล้วก่อเหตุเผาทรัพย์สินที่เหลือภายในบ้านรวมทั้งตัวบ้านของเจ้าทรัพย์จากนั้นจึงหลบหนีไป
พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นได้ตรวจสอบข้อมูลในทางลับและเชิงลึก ซึ่งมีหลายแนวคิดที่พบว่าอาจจะมีการก่อเหตุด้วยพฤติกรรมโรคจิต หรือเหตุอะไรบางอย่างที่ยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูลในขณะนี้ คนร้ายมีเป็นกลุ่มมากกว่า 1 คนอย่างแน่นอนเมื่อโจรกรรมเสร็จแล้วจะเผาซ้ำด้วย และทุกหลังที่ก่อเหตุจะเลือกเอาบริเวณที่ใกล้กับถนนเพื่อง่ายต่อการหลบหนี
“อย่างไรก็ตาม จากเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ผมได้ออกวิทยุด่วนสั่งย้าย พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที ผกก.สภ.ขนอม ออกจากพื้นที่ทันทีโดยให้ย้ายมาช่วยราชการที่ บก.ภ.นครศรีธรรมราช ไว้ก่อน เพื่อสะดวกในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ส่วนทางผมนั้นได้ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษนำโดย พ.ต.อ.สมชาย อ่วมถนอม รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช นำชุดปฏิบัติการพิเศษลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อเข้าทำการสืบสวนสอบสวนตามกรรมวิธี และจะต้องควบคุมเหตุการณ์ให้ได้เพื่อความสบายใจของประชาชนชาวอำเภอขนอม”
ผบก.นครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ เรื่องของประชาชนที่มีความไม่พอใจกับผู้บริหารสถานี ซึ่งสาเหตุนี้ที่เราต้องย้ายออกมาก่อนส่วนที่จะให้ใครเข้าไปแทนนั้นต้องรอหารือกับ ผบช.ภ.8 และ ผบช.ภ.8 จะมีคำสั่งในเรื่องนี้อีกครั้ง
นายหนูกิจ รูปสะอาด อายุ 73 ปี อดีตข้าราชการครู ในฐานะราษฎรอาวุโสที่ได้รับการนับถือจากประชาชนชาวอำเภอขนอม เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวอำเภอขนอม กำลังหวาดวิตกมาก เมืองขนอมกำลังจะกลายเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่กลับอยู่ในความหวาดกลัวจนชาวบ้านไม่กล้าออกไปไหนในตอนกลางวัน จะต้องมีคนเฝ้าตลอด เกรงว่าคนร้ายจะเข้าไปเผาบ้าน เมืองขนอมเป็นเมืองที่เงียบสงบ น่าอยู่แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้สร้างความเสียหายอย่างยิ่ง
“ผมสังเกตว่าคนร้ายเหมือนกับราวจะรู้ว่าความเคลื่อนไหวของชาวบ้านเป็นอย่างไร และรู้ว่าใครไม่อยู่บ้านตอนไหนจะเข้าไปก่อเหตุ หลายหลังที่เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์แล้วเผาไม่สำเร็จต้องหลบหนีไปก่อน หลายหลังที่เผาสำเร็จ บ้างก็เสียหายทั้งหลังบ้างก็เสียหายเล็กน้อย” ราษฎรอาวุโส กล่าว
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นของวันเดียวกัน นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประกาศตั้งค่าหัวคนร้ายเป็นจำนวนเงิน 1 แสนบาท ขณะเดียวกันชาวบ้านในอำเภอขนอมได้รวมตัวกันนัดหมายที่จะทอดผ้าป่าสามัคคีช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์แล้วเผาบ้าน ในวันที่ 14 มี.ค.2552 ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอ โดยเมื่อมีการรวมความเสียหายที่เกิดขึ้นในขณะนี้สูงนับล้านบาทแล้ว