ชาวตรังแห่ซื้อทองเก๊หลังทองคำราคาพุ่ง

ตรัง – ประชาชนในจังหวัดตรังแห่ซื้อทองปลอม ใส่แทนเครื่องประดับที่เป็นทองคำแท้ หลังจากราคาทองคำปรับตัวพุ่งถึงบาทละ 16,000 บาท ด้านรองผู้กำกับการเตือนระวังมิจฉาชีพอาจทำอันตรายถึงชีวิต

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรังออกไปสำรวจการจำหน่ายเครื่องประดับทองคำปลอมยังร้านจำหน่ายเครื่องประดับในเขตเทศบาลนครตรัง พบว่ามีประชาชนแห่ซื้อเครื่องประดับทองคำปลอมอย่างคึกคัก หลังจากราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จนขณะนี้มีราคาถึงบาทละกว่า 16,000 บาท ทำให้ประชาชนหันไปหาซื้อเครื่องประดับที่เป็นทองคำปลอมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีราคาถูกและสามารถสวมใส่ แทนเครื่องประดับทองคำแท้ได้อย่างสวยงามไม่แพ้กัน

นายสรรกิจ แสงใบ อายุ 25 ปี ผู้ประกอบการจำหน่ายเครื่องประดับสตรี โดยเฉพาะเครื่องประดับทองคำปลอม ภายในห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า หลังจากราคาทองคำมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีประชาชนหันมานิยมหาซื้อ และสวมใส่เครื่องประดับที่เป็นทองปลอมเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้ยอดขายต่อวันเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยในแต่ละวันจะสามารถจำหน่ายได้สูงถึง 150 ชิ้น ซึ่งเครื่องประดับรูปแบบที่ขายดีที่สุด คือ สร้อยข้อมือและกำไรข้อมือที่มีน้ำหนัก 1 บาท เนื่องจากมีราคาจำหน่ายอยู่ในราคาเส้นละ 89 บาทเท่านั้น

สินค้ารองลงมาที่ลูกค้าให้ความนิยม คือ สร้อยคอ และต่างหู ซึ่งจะมีน้ำหนักตั้งแต่เส้นละ 1-10 บาท โดยราคาจำหน่ายตั้งแต่ 89-599 บาท ซึ่งลูกค้าแต่ละคนจะหาซื้อคนละไม่ต่ำกว่า 2 เส้น ตามลวดลายที่มีความชื่นชอบ เนื่องจากทองคำปลอมมีลวดลาย และลักษณะใกล้เคียงกับทองคำแท้เป็นอย่างมาก จึงทำให้ประชาชนหันมานิยมสวมใส่ทองคำปลอม เพื่อออกงามตามประเพณีต่างๆ แทนการสวมใส่ทองคำแท้ที่มีราคาสูงมากในขณะนี้

พ.ต.ท.เธียร บาลทิพย์ รองผู้กำกับการ สภ.เมืองตรัง กล่าวเตือนประชาชนที่นิยมสวมใส่ทองคำปลอม แทนการสวมใส่ทองคำแท้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ และราคาทองคำที่มีราคาแพงมากในขณะนี้ ว่า ทุกวันนี้จะมีพวกมิจฉาชีพก่อเหตุอาชญากรรมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการโจรกรรมทรัพย์สินและชิงทรัพย์ของประชาชนที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน และทรัพย์ส่วนใหญ่จะเป็นทองคำรูปพรรณที่ประชาชนสวมใส่ตามปกติ

อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนประชาชนที่ไม่ว่าจะสวมใส่ทองคำประเภทใดขอให้มีความระมัดระวังตัวเองมากขึ้น โดยไม่ควรสวมใส่ในช่วงเวลากลางคืน หรือไปเดินเที่ยวเตร่ในที่ที่เปลี่ยวผู้คน ซึ่งถือเป็นที่ล่อแหลม เพราะถือเป็นการเปิดโอกาสให้กับกลุ่มอาชญากรต่างๆ สามารถลงมือก่อเหตุได้ทันที ซึ่งจะเป็นอันตรายแก่ผู้สวมใส่ ทั้งการสูญเสียทรัพย์สินและอาจถูกทำร้ายร่างกาย หรืออาจกลายเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะทำให้ตัวเองเจ็บตัวมากขึ้น เนื่องจากทองคำปลอมจะมีความแข็งมากกว่าทองคำแท้หลายเท่าตัว

ดังนั้น เมื่อคนร้ายกระชากด้วยความแรง ซึ่งไม่อาจทำให้เครื่องประดับทองคำปลอมขาดไปตามมือของคนร้ายได้ ก็จะให้เกิดบาดแผลกับผู้สวมใส่ ที่อาจจะเป็นบาดแผลที่ฉกรรจ์กว่าเดิม หรืออาจถึงแก่ชีวิตได้ ฉะนั้น ทางที่ดีไม่ควรสวมใส่จะดีกว่า หรือไม่ก็ควรจะสวมใส่เพียงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เป็นแรงจูงใจกับกลุ่มโจรผู้ร้ายที่จะมาก่อเหตุได้