ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สสจ.ภูเก็ต แจงท้องถิ่นและโรงเรียน เน้นรักษาคุณภาพนม โดยควบคุมการเก็บและการขนส่ง พร้อมย้ำผู้บริโภคพิจารณาก่อนเลือกซื้อ
นายแพทย์พงษ์สวัสดิ์ รัตนแสง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงกการดูแลเก็บรักษานมไม่ให้เน่าเสีย ว่า การดูแลนมไม่ให้เสียก่อนกำหนดเวลานั้น ท้องถิ่นและผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับนมพร้อมดื่มของโรงเรียนทุกแห่ง ให้ระมัดระวังเรื่องการเก็บรักษานมในอุณหภูมิที่เหมาะสม และดูแลเรื่องการขนส่งอย่ากระแทรกหรือซ้อนหลายชั้นมากเกินไป เพราะอาจเป็นสาเหตุให้นมเสียก่อนวันหมดอายุจริงที่ระบุไว้บนฉลากได้
โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นฤดูร้อน ซึ่งอุณหภูมิห้องค่อนข้างสูง ปัญหาเรื่องนมเสียก่อนวันหมดอายุ สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งอาจมาจากการขนส่ง และการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มที่ไม่ถูกต้องของผู้เกี่ยวข้อง จึงขอแจ้งให้ท้องถิ่นและผู้รับผิดชอบเกี่ยวข้อง จึงขอแจ้งให้ท้องถิ่นและผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับนมพร้อมดื่มของโรงเรียนระมัดระวังการเก็บรักษาและการขนส่ง ผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มให้เหมาะสม โดยในส่วนการเก็บรักษานั้นผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิที่ไม่สูงเกินไป ซึ่งกรณีเป็นนมประเภท พาสเจอร์ไรส์ สามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิปกติ แต่ต้องไม่ถูกแสงแดดและความร้อน ตลอดระยะเวลาขนส่งและการเก็บรักษา
สำหรับในด้านของการขนส่งนั้น ลักษณะการขนส่งที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมก็อาจเป็นสาเหตุให้ภาชนะบรรจุนมมีการ รั่วหรือซึม ทำให้จุลินทรีย์จากภายนอกปนเปื้อนเข้าไปเป็นเหตุให้นมเสียได้เช่นกัน ดังนั้น ผู้เกี่ยวข้องจึงควรระมัดระวังในการเคลื่อนย้ายภาชนะบรรจุนม อย่าให้มีการกระแทรกกับของแข็งหรือของมีคม ไม่ควรโยนหรือเหยียบไปบนกล่องบรรจุขณะขนย้าย และไม่ควรวางซ้อนกล่องนมสูงเกินไป เพราะจะทำให้กล่องนมด้านล่างถูกกดทับจนหย่อน โดยนมยูเอชที ขนาด 200 ซีซี ไม่ควรซ้อนเกิน 10 ชั้น ขนาด 250 ซีซี ไม่ควรซ้อนเกิน 8 ชั้น และขนาด 1,000 ซีซี ไม่ควรซ้อนเกิน 5 ชั้น
นายแพทย์พงษ์สวัสดิ์ รัตนแสง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับนมพร้อมดื่มของโรงเรียนควรระมัดระวังในการเลือกซื้อว่า นมที่ซื้อมาได้เก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสมหรือไม่ กล่องบรรจุชำรุด จนทำให้หมดสภาพปลอดเชื้อ โดยปัญหาดังกล่าวจากข้อมูลทางวิชาการ พบว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้นมไม่ได้คุณภาพ เน่าเสีย มีลักษณะทางกายภาพและรสชาติเปลี่ยนไปเป็นส่วนใหญ่
อนึ่ง กรณีการแจกนมให้เด็กนักเรียนดื่มโครงการนมโรงเรียน ครูอาจารย์หรือผู้ดูแลการแจกนมไม่ควรนำนมชนิดพาสเจอร์ไรส์ตั้งทิ้งไว้ ในอุณหภูมิห้องเป็นเวลานาน เพราะนมชนิดนี้ต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิต่ำไม่เกิน 10 องศาเซลเซียส มิฉะนั้น จะทำให้นมเสียก่อนวันหมดอายุได้เช่นกัน
นายแพทย์พงษ์สวัสดิ์ยังได้กล่าวต่อไปถึงปัญหาที่อาจทำให้นมเสียก่อนหมดอายุอีกประการหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ สำหรับประชาชนทั่วไปนั้น การเลือกซื้อจากรถเร่ที่อาศัยความเย็นจากน้ำแข็งในการเก็บรักษาอุณหภูมิ บางครั้งอาจแช่ในน้ำแข็งที่ไม่มากพอ ทำให้อุณหภูมิสูงเกินกำหนดเป็นสาเหตุทำให้นมเน่าเสียได้เช่นกัน การบริโภคนมพร้อมดื่มเสียก่อนวันหมดอายุที่ระบุไว้บนฉลากจะเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินอาหารของผู้บริโภคได้ ผู้บริโภคจึงควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อ
อย่างไรก็ตาม หากผู้บริโภคหรือท้องถิ่นหรือโรงเรียนใด ไม่แน่ใจในคุณภาพของนมพร้อมดื่มหรือมีข้อสงสัยอื่นใด ต้องการความรู้ทางวิชาการเพิ่มเติม โปรดติดต่อกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต หมายเลขโทรศัพท์ 0-7621-1330 ต่อ 204-205
นายแพทย์พงษ์สวัสดิ์ รัตนแสง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงกการดูแลเก็บรักษานมไม่ให้เน่าเสีย ว่า การดูแลนมไม่ให้เสียก่อนกำหนดเวลานั้น ท้องถิ่นและผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับนมพร้อมดื่มของโรงเรียนทุกแห่ง ให้ระมัดระวังเรื่องการเก็บรักษานมในอุณหภูมิที่เหมาะสม และดูแลเรื่องการขนส่งอย่ากระแทรกหรือซ้อนหลายชั้นมากเกินไป เพราะอาจเป็นสาเหตุให้นมเสียก่อนวันหมดอายุจริงที่ระบุไว้บนฉลากได้
โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นฤดูร้อน ซึ่งอุณหภูมิห้องค่อนข้างสูง ปัญหาเรื่องนมเสียก่อนวันหมดอายุ สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งอาจมาจากการขนส่ง และการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มที่ไม่ถูกต้องของผู้เกี่ยวข้อง จึงขอแจ้งให้ท้องถิ่นและผู้รับผิดชอบเกี่ยวข้อง จึงขอแจ้งให้ท้องถิ่นและผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับนมพร้อมดื่มของโรงเรียนระมัดระวังการเก็บรักษาและการขนส่ง ผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มให้เหมาะสม โดยในส่วนการเก็บรักษานั้นผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิที่ไม่สูงเกินไป ซึ่งกรณีเป็นนมประเภท พาสเจอร์ไรส์ สามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิปกติ แต่ต้องไม่ถูกแสงแดดและความร้อน ตลอดระยะเวลาขนส่งและการเก็บรักษา
สำหรับในด้านของการขนส่งนั้น ลักษณะการขนส่งที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมก็อาจเป็นสาเหตุให้ภาชนะบรรจุนมมีการ รั่วหรือซึม ทำให้จุลินทรีย์จากภายนอกปนเปื้อนเข้าไปเป็นเหตุให้นมเสียได้เช่นกัน ดังนั้น ผู้เกี่ยวข้องจึงควรระมัดระวังในการเคลื่อนย้ายภาชนะบรรจุนม อย่าให้มีการกระแทรกกับของแข็งหรือของมีคม ไม่ควรโยนหรือเหยียบไปบนกล่องบรรจุขณะขนย้าย และไม่ควรวางซ้อนกล่องนมสูงเกินไป เพราะจะทำให้กล่องนมด้านล่างถูกกดทับจนหย่อน โดยนมยูเอชที ขนาด 200 ซีซี ไม่ควรซ้อนเกิน 10 ชั้น ขนาด 250 ซีซี ไม่ควรซ้อนเกิน 8 ชั้น และขนาด 1,000 ซีซี ไม่ควรซ้อนเกิน 5 ชั้น
นายแพทย์พงษ์สวัสดิ์ รัตนแสง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับนมพร้อมดื่มของโรงเรียนควรระมัดระวังในการเลือกซื้อว่า นมที่ซื้อมาได้เก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสมหรือไม่ กล่องบรรจุชำรุด จนทำให้หมดสภาพปลอดเชื้อ โดยปัญหาดังกล่าวจากข้อมูลทางวิชาการ พบว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้นมไม่ได้คุณภาพ เน่าเสีย มีลักษณะทางกายภาพและรสชาติเปลี่ยนไปเป็นส่วนใหญ่
อนึ่ง กรณีการแจกนมให้เด็กนักเรียนดื่มโครงการนมโรงเรียน ครูอาจารย์หรือผู้ดูแลการแจกนมไม่ควรนำนมชนิดพาสเจอร์ไรส์ตั้งทิ้งไว้ ในอุณหภูมิห้องเป็นเวลานาน เพราะนมชนิดนี้ต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิต่ำไม่เกิน 10 องศาเซลเซียส มิฉะนั้น จะทำให้นมเสียก่อนวันหมดอายุได้เช่นกัน
นายแพทย์พงษ์สวัสดิ์ยังได้กล่าวต่อไปถึงปัญหาที่อาจทำให้นมเสียก่อนหมดอายุอีกประการหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ สำหรับประชาชนทั่วไปนั้น การเลือกซื้อจากรถเร่ที่อาศัยความเย็นจากน้ำแข็งในการเก็บรักษาอุณหภูมิ บางครั้งอาจแช่ในน้ำแข็งที่ไม่มากพอ ทำให้อุณหภูมิสูงเกินกำหนดเป็นสาเหตุทำให้นมเน่าเสียได้เช่นกัน การบริโภคนมพร้อมดื่มเสียก่อนวันหมดอายุที่ระบุไว้บนฉลากจะเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินอาหารของผู้บริโภคได้ ผู้บริโภคจึงควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อ
อย่างไรก็ตาม หากผู้บริโภคหรือท้องถิ่นหรือโรงเรียนใด ไม่แน่ใจในคุณภาพของนมพร้อมดื่มหรือมีข้อสงสัยอื่นใด ต้องการความรู้ทางวิชาการเพิ่มเติม โปรดติดต่อกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต หมายเลขโทรศัพท์ 0-7621-1330 ต่อ 204-205
