รอง กมธ.ธรรมชาติฯ ชี้ขับไล่ซาไกละเมิดสิทธิฯ รุนแรง

พัทลุง - รองกรรมาธิการธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสภาผู้แทนราษฎร ระบุข้าราชการชาวบ้านละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง ใช้อาวุธปืนยิงขู่ขับไล่ชาวซาไกถึง 2 ครั้ง ต้องอพยพหนีตายเข้าป่าเขตสตูล

วันนี้ (24 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า หลังจากที่กลุ่มซาไก หรือเงาะป่า ของผู้เฒ่าควน ที่มีสมาชิกอยู่จำนวน 30 คน เคลื่อนไหวหากินและสร้างที่พักอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด อ.ป่าบอน อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ได้ถูกกลุ่มข้าราชการ พรานป่า และขบวนการลักลอบตัดไม่เถื่อน ยิงข่มขู่มาแล้วถึง 2 ครั้ง

ครั้งแรกเมื่อประมาณกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ในเขตพื้นที่ อ.ป่าบอน แล้วได้อพยพลงมาขออาศัยอยู่กับชาวบ้าน และได้มีการยืนยันให้ซาไกกลับไปอยู่ที่เดิม แล้วจะช่วยดูแลไม่ให้ใครไปรบกวน ซาไกจึงกลับไปอยู่ที่เดิม แต่ต่อมาได้ถูกยิงข่มขู่เป็นครั้งที่ 2 จนต้องอพยพหลบหนีไปอยู่ที่น้ำตกใต้หนาน เขต อ.มะนัง จ.สตูล ในขณะนี้ ซึ่งสาเหตุน่าจะมีกลุ่มบุคคลต้องการให้ซาไกที่อยู่ในพื้นที่ อ.ป่าบอน ออกจากพื้นที่ไปอยู่ที่เขตจังหวัดสตูล เพราะในพื้นที่บางแห่งของจังหวัดได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เมื่อซาไกเข้าไปอยู่ด้วยก็จะได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวชมซาไก ขณะนี้ซาไกสามารถพัฒนาให้เป็นธุรกิจการท่องเที่ยว และอีกสาเหตุเป็นอุปสรรคสำหรับกลุ่มตัดไม้ ล่าสัตว์ เมื่อซาไก่อยู่ทำให้ยากต่อการเข้าไปตัดไม้ทำลายป่า และล่าสัตว์

ทางด้านนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง และรองประธานกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิงแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การกระทำของกลุ่มข้าราชการ พรานป่า และขบวนการลักลอบตัดไม้เถื่อน ยิงข่มขู่มาแล้วถึง 2 ครั้ง เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง เพราะชาวป่าซาไกเป็นชนเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิมของภาคใต้ที่เหลืออยู่กลุ่มเดียวที่อาศัยอยู่บนเทือกเขาบรรทัดพัทลุง สงขลา ตรัง และสตูล ดำรงชีพด้วยการหาของป่ากินเผือกมันเป็นอาหาร ซึ่งหลังจากนี้การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว ที่กระทบและละเมิดสิทธิมนุษย์ชนนั้น ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งผู้ที่ดูแลเจ้าของพื้นที่อย่างเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า น่าจะเข้มงวดให้มากขึ้นกว่านี้

นายนริศ ยังกล่าวอีกว่า ชนกลุ่มน้อยไม่ว่าจะอยู่ทางภาคเหนือหรือภาคใต้นั้น ขณะนี้ตนเตรียมที่จะทำเรื่องเสนอต่อรับบาล เพื่อให้การช่วยเหลือ อย่างชาวซาไกที่อยู่บนป่าผืนนี้มานาน แต่ยังไม่ได้รับการเหลียวแลอย่างที่น่าจะเป็น ไม่ว่าความเป็นพลเมือง การสาธารณสุข

ปัจจุบันซาไก เหลือประมาณ 150 คน ในเขตรักษ์พันธุ์สัตว์เทือเขาบรรทัด ระหว่าง สตูล สงขลา พัทลุง และตรัง โดยกระจัดกระจายเป็นกลุ่ม มีกลุ่มเฒ่าควน กลุ่มเฒ่าชา กลุ่มสาวขุ่ม กลุ่มกำนันลอย แต่ละกลุ่มมีสมาชิกประมาณ 10-15 คน และมีร่างกายที่ผอมโซ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ชาวซาไกพยามยามที่จะหลบหน้าผู้คนเนื่องจากยังอยู่ในอาการหวาดกลัว และบางทับไม่มีซาไกอยู่ให้เห็นเมื่อทราบว่ามีผู้มาเยือนเดินทางเข้ามา