ผอ.กอ.รมน.ชี้แจงนโยบายกำนัน-ผญบ.ร่วมดับไฟใต้

ปัตตานี – ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 พบปะกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำศาสนา เพื่อชี้แจงนโยบายการดำเนินการในปี 52 แก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ จังหวัดชายแดนใต้ ด้านผู้ใหญ่บ้าน ระบุ ที่ผ่านมา กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านถูกลดลงบทบาทโดยสิ้นเชิง

ที่ห้องประชุมน้ำพราว โรงแรม ซีเอสปัตตานี พลโท พิเชษญ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 พลโทกสิกร คีรีศรี ผบ.กองกำลังผสมพลเรือนตำรวจทหาร รอง ผอ.ศอ.บต.และ นายธีรเทพ ศรียพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ร่วมเวทีประชุมเสวนา เพื่อชี้แจงนโยบายการดำเนินการในปี 2552 ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ จังหวัดชายแดนใต้ ให้กับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนาและผู้นำชุมชน นายอำเภอ ปลัดอำเภอและตำรวจ ทหาร ในระดับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ 12 อำเภอของจังหวัดปัตตานี

โดยเน้นการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายในการเข้ามาแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะองค์กรกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งผู้นำศาสนาและผู้นำชุมชนที่ต้องมีบทบาทในการเข้ามาแก้ไขปัญหาความไม่สงบ เพื่อลดความระแวงซึ่งกันและกัน นอกจากนั้น ยังได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมเสวนาแสดงความคิดเห็นและสะท้อนปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เพื่อนำไปปรับแก้ไขต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่สายบุรีได้ขึ้นอภิปรายว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านถูกลดบทบาทโดยสิ้นเชิง บางคนถูกดำเนินการควบคุมตัวตาม พ.ร.บ.ฉุกเฉินและกฎอัยการศึก ทำให้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านต้องเกิดความวิตกมากขึ้น เพราะต้องตกเป็นที่หมายของฝ่ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพราะมองว่าเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุในพื้นที่และเป็นที่หมายของฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ที่กล่าวหาว่าเป็นคนของรัฐที่ต้องกำจัด

นอกจากนั้น ยังมีผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่อำเภอปะนาเระอภิปรายความไม่ยุติธรรมกับผู้ใหญ่บ้านที่ต้องถูกกล่าวหาว่ามีเกี่ยวกับเหตุยิงทหารในพื้นที่ จึงต้องมีการตรวจค้นรถยนต์ต่อหน้าประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบแล้วกล่าวว่ามีสารระเบิดภายในรถ ถึงกับต้องนำรถยนต์ไปตรวจสอบแต่ก็ไม่พบสารระเบิดดังได้กล่าวมาขั้นต้น แต่ความน่าเชื่อถือของผู้ใหญ่บ้านมันได้หมดไปแล้ว จึงอยากให้มีการกำหนดบทบาทและหน้าที่ของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านเสียใหม่ เพราะถ้าปล่อยเป็นเช่นนี้ จะทำให้โครงสร้างกำนันผู้ใหญ่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ ก็ไม่ต้องมีเสียเลย

ด้าน พลโท พิเชษญ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่4 กล่าวว่า ต่อไปนี้การปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องระมัดระวังให้มาก โดยเฉพาะการเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ทุกครั้งต้องมีรวมทั้ง 3 ฝ่าย เน้นนี้เป็นนโยบาย ให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ต้องมีการประสานงานกันทุกฝ่ายโดยเฉพาะกำนันผู้ใหญ่บ้านผู้นำศาสนาและผู้นำชุมชน ถ้ายังมีเรื่องในลักษณะเช่นนี้ต้องถือว่าเป็นการบทพร่องในหน้าที่

ด้าน พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า ในการปฏิบัติงานในพื้นที่ต้องยอมรับว่ามีบ้างบางกรณีที่ต้องอาศัยความรวดเร็วและบางครั้งเป็นความลับ จึงไม่ทันที่จะแจ้งให้ทราบ แต่ทุกครั้งเราได้มีการสนธิกำลังทั้ง 3 มาตลอด