กระบี่ - ปลากระป๋องเน่าโผล่กระบี่ ชาวบ้านระบุปลากระป๋องหมดอายุ ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านรีบเก็บปลากระป๋องก่อนปิดปากเงียบ
ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากนายจ้อย ศรีเมือง สมาชิก อบต.โคกยาง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.โคกยาง อ.เหนือคลอง ว่าพบปลากระป๋องเน่าจำนวนหลายกระป๋อง โดยเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ของจังหวัดกระบี่ ออกหน่วยเคลื่อนที่ นำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้กับคนชราในหมู่บ้าน ตามโครงการบำบัดทุกข์บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนของจังหวัดกระบี่ ขณะนี้ได้เก็บตัวอย่างปลากระป๋องเน่าไว้ประมาณ 5-6 กระป๋อง จึงเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อเดินทางไปถึงหมู่บ้านดังกล่าว ไม่พบตัวนายจ้อย พบแต่ชาวบ้านซึ่งจับกลุ่มกันประมาณ 4-5 คน จึงได้เข้าไปสอบถาม ปรากฎว่า เป็นหมู่บ้านเดียวกับที่รับแจ้ง แต่ไม่มีใครเก็บปลากระป๋องที่เน่าเสียเอาไว้ โดยชาวบ้านคนหนึ่งบอกว่า เมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนผู้สื่อข่าวจะเดินทางไปถึงได้มีนายสมหมาย บุตรมิตร ผู้ใหญ่บ้านหมูที่ 7 นำปลากระป๋องที่เน่าเสียทั้งหมดรวมประมาณ 10 กระป๋อง ไปเก็บไว้ โดยบอกว่าจะส่งคืนให้ทางอำเภอ โดยปลากระป๋องดังกล่าวมีหลายยี่ห้อปะปนกัน เท่าที่ชาวบ้านจำได้คือ 2 ยี่ห้อ ซึ่งที่ฉลากข้างกระป๋องระบุปีที่ผลิต พ.ศ.2546 เมื่อเปิดฝาออกมาก็พบว่าเนื้อปลาและน้ำเป็นสีดำ และส่งกลิ่นเหม็น จึงไม่มีใครกล้าทาน
ต่อมานายสมหมาย ได้เข้ามาพบกลุ่มชาวบ้าน พร้อมบอกว่าไม่มีอะไรเป็นแค่ปลากระป๋องที่เสียเพียงไม่กี่กระป๋อง และตนก็ได้เก็บส่งให้ทางอำเภอแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้เป็นวันหยุด (วันมาฆบูชา) ทางอำเภอไม่ปิดทำการหรือ แต่ผู้ใหญ่ก็บอกว่าอย่าให้เป็นข่าวเลย เพราะชาวบ้านที่นี่ไม่มีใครติดใจเอาความ เพราะไม่คุ้มกับปลากระป๋อง และเชื่อว่าไม่มีใครเจตนาที่จะนำปลากระป๋องเน่ามาแจกชาวให้บ้านด้วย จากนั้นผู้ใหญ่บ้าน นำผู้สื่อข่าวไปที่บ้านเพื่อไปดูปลากระป๋องขับรถจักรยายนยนต์นำหน้า แต่เมื่อไปถึงหน้าบ้านผู้ใหญ่ก็ขับรถเลยบ้านตัวเองไป ทิ้งให้ผู้สื่อข่าวที่เดินทางไปนั่งรออยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง
ขณะเดียวกัน นายจ้อยได้ติดต่อกลับมาพร้อมแจ้งว่า ขณะนี้ตนได้ออกไปทำธุระที่ อ.เขาพนม แล้ว ตอนแรกตนเก็บตัวอย่างไว้ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่และผู้ใหญ่บ้านขอคืน ตนก็ต้องให้ไป เพราะชาวบ้านที่มาร้องเรียนเป็นคนพื้นที่หมู่ 7 แต่ตนเป็น ส.อบต.รับผิดอยู่ในพื้นที่หมู่ 5 จึงไม่กล้าเก็บปลากระป๋องไว้ เพราะเกรงเป็นการก้าวก่ายหน้าที่ผู้ใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามถ้าเป็นเขตรับผิดชอบของตน ก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด หากชาวบ้านร้องเรียน
ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากนายจ้อย ศรีเมือง สมาชิก อบต.โคกยาง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.โคกยาง อ.เหนือคลอง ว่าพบปลากระป๋องเน่าจำนวนหลายกระป๋อง โดยเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ของจังหวัดกระบี่ ออกหน่วยเคลื่อนที่ นำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้กับคนชราในหมู่บ้าน ตามโครงการบำบัดทุกข์บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนของจังหวัดกระบี่ ขณะนี้ได้เก็บตัวอย่างปลากระป๋องเน่าไว้ประมาณ 5-6 กระป๋อง จึงเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อเดินทางไปถึงหมู่บ้านดังกล่าว ไม่พบตัวนายจ้อย พบแต่ชาวบ้านซึ่งจับกลุ่มกันประมาณ 4-5 คน จึงได้เข้าไปสอบถาม ปรากฎว่า เป็นหมู่บ้านเดียวกับที่รับแจ้ง แต่ไม่มีใครเก็บปลากระป๋องที่เน่าเสียเอาไว้ โดยชาวบ้านคนหนึ่งบอกว่า เมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนผู้สื่อข่าวจะเดินทางไปถึงได้มีนายสมหมาย บุตรมิตร ผู้ใหญ่บ้านหมูที่ 7 นำปลากระป๋องที่เน่าเสียทั้งหมดรวมประมาณ 10 กระป๋อง ไปเก็บไว้ โดยบอกว่าจะส่งคืนให้ทางอำเภอ โดยปลากระป๋องดังกล่าวมีหลายยี่ห้อปะปนกัน เท่าที่ชาวบ้านจำได้คือ 2 ยี่ห้อ ซึ่งที่ฉลากข้างกระป๋องระบุปีที่ผลิต พ.ศ.2546 เมื่อเปิดฝาออกมาก็พบว่าเนื้อปลาและน้ำเป็นสีดำ และส่งกลิ่นเหม็น จึงไม่มีใครกล้าทาน
ต่อมานายสมหมาย ได้เข้ามาพบกลุ่มชาวบ้าน พร้อมบอกว่าไม่มีอะไรเป็นแค่ปลากระป๋องที่เสียเพียงไม่กี่กระป๋อง และตนก็ได้เก็บส่งให้ทางอำเภอแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้เป็นวันหยุด (วันมาฆบูชา) ทางอำเภอไม่ปิดทำการหรือ แต่ผู้ใหญ่ก็บอกว่าอย่าให้เป็นข่าวเลย เพราะชาวบ้านที่นี่ไม่มีใครติดใจเอาความ เพราะไม่คุ้มกับปลากระป๋อง และเชื่อว่าไม่มีใครเจตนาที่จะนำปลากระป๋องเน่ามาแจกชาวให้บ้านด้วย จากนั้นผู้ใหญ่บ้าน นำผู้สื่อข่าวไปที่บ้านเพื่อไปดูปลากระป๋องขับรถจักรยายนยนต์นำหน้า แต่เมื่อไปถึงหน้าบ้านผู้ใหญ่ก็ขับรถเลยบ้านตัวเองไป ทิ้งให้ผู้สื่อข่าวที่เดินทางไปนั่งรออยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง
ขณะเดียวกัน นายจ้อยได้ติดต่อกลับมาพร้อมแจ้งว่า ขณะนี้ตนได้ออกไปทำธุระที่ อ.เขาพนม แล้ว ตอนแรกตนเก็บตัวอย่างไว้ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่และผู้ใหญ่บ้านขอคืน ตนก็ต้องให้ไป เพราะชาวบ้านที่มาร้องเรียนเป็นคนพื้นที่หมู่ 7 แต่ตนเป็น ส.อบต.รับผิดอยู่ในพื้นที่หมู่ 5 จึงไม่กล้าเก็บปลากระป๋องไว้ เพราะเกรงเป็นการก้าวก่ายหน้าที่ผู้ใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามถ้าเป็นเขตรับผิดชอบของตน ก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด หากชาวบ้านร้องเรียน
