พัทลุง – 3 ส.ส.พัทลุงได้ทำหนังสื่อส่งถึงนายกรัฐมนตรีให้เร่งแก้ปัญหาเรื่องรังนกอีแอ่น เกาะ 4 เกาะ 5 จังหวัดพัทลุง หลังที่มีปัญหาเรื่องการประมูลการเก็บรังนก ที่ทางจังหวัดไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทำให้มี มิจฉาชีพเข้าไปขโมยรังนก จนทำให้ลูกนกตายเกลื่อนจำนวนมาก
วันนี้ (9 ก.พ.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพัทลุง เปิดบ้านแถลงข่าวต่อสื่อมวลชลจังหวัดพัทลุง ถึงการแก้ไขปัญหาการสัมปทานรังนก ที่ปัญหายังไม่สามารถเปิดสัมปทานได้ ทำให้จังหวัดพัทลุงต้องสูญเสียรายได้ไปหลายร้อยล้านบาท โดยมีผู้มีอิทธิพล และมิจฉาชีพ เข้าขโมยรังนกแบบเป็นขบวนการ ภายในถ้ำ เป็นเหตุให้ลูกนกตายเกลื่อนจำนวนมาก
นายนิพิฏฐิ์ อินทรสมบัติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ขณะนี้การสัมปทานรังนกอีแอ่นที่จังหวัดพัทลุงได้ สิ้นสุดสัมปทานลงเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551 และทางคณะกรรมการจัดเก็บรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้ออกประกาศเพื่อจัดให้มีการสัมปทานใหม่ แต่ปรากฏว่า มีผู้ทำคดีไปฟ้องต่อศาลปกครองสงขลา อ้างว่า ประกาศ ของจังหวัดพัทลุง ที่ออกเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มธุรกิจบางกลุ่ม เช่น กำหนดวงเงินประกันซอง 75% และกำหนดวงเงินประกันสัญญา 75% ทำให้ผู้เข้าประมูลต้องมีหลักประกันประมาณ 1,000 ล้าน
ในขณะที่กำหนดราคากลางไว้ต่ำกว่าปกติ จนศาลปกครองสงขลาต้องมีคำสั่งชั่วคราวให้ระงับการประมูลไว้ จึงเป็นช่องว่างให้มีผู้มีอิทธิพล และมิจฉาชีพ เข้าขโมยรังนกในขณะที่ยังไม่มีการประมูลจำนวนมากทำให้นกเสียชีวิตจำนวนมาก
นายนิพิฎฐ์ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีกลุ่มอิทธิพลประมาณ 60 คน เข้าไปในเกาะรังนก โดยอ้างได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ตนจึงโทรศัพท์แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และผู้บังคับการตำรวจพัทลุง จนสามารถผลักดันกลุ่มโจรนี้ออกไปได้ แต่กลุ่มอิทธิพลยังไม่ละความพยายาม เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2552 ได้มีการนำแพ 15 แพ มีคนประจำแพๆละ 2 คน เพื่อคอยดูเส้นทาง เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มโจร อีกประมาณ 100 คน เข้าไปขโมยรังนก
ตนจึงได้แจ้ง ให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ทราบ แต่ข่าวรั่วเสียก่อนไม่สามารถจับกลุ่มขโมยรังนกกลุ่มนี้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสังเกตุว่า ในการเข้าไปขโมยรังนก ในแต่ละครั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม้ทราบเรื่อง และพลเมืองดีได้ประสานผ่านทาง สส.เท่านั้น เนื่องจากไม่มั่นใจในระบบรักษาความปลอดภัยของกรรมการระดับจังหวัด แต่ข่าวก็ยังรั่วไหลทำให้กลุ่มมิจฉาชีพไหวตัวทัน
ทั้งนี้ คงถึงเวลาแล้วที่นายยกรัฐมนตรีต้องลงมาแก้ปัญหาในเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เนื่องจากรัฐได้รับความเสียหายมากพอแล้ว และในเดือนกุมภาพันธ์ นี้รังนกขาวเริ่มมีอยู่มากภายในถ้ำ และมีราคาที่สูงถึง กิโลละ 100,000 บาท จึงเป็นที่ต้องการของตลาดมืด ซึ่งตั้งแต่ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา รังนกขาวถูกขโมยได้รับความเสียหายไปแล้วกว่า 50 ล้านบาท และผู้มีผู้อิทธิพลพยายามเต็มที่ในการให้สินบนเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปขโมยรังนก
นายนิพิฎฐ์ ยังกล่าวเพิ่มอีกว่า สมาชิกผู้สภาผู้แทนราษฎร ทั้ง 3 คน ของจังหวัดพัทลุง จึงได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรี เพื่อกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และผู้บัญชาการตำรวจภาค 9 แก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง, 2 มีการปรับปรุงแก้ไขสัมปทาน และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 9 เข้ามาดูแล, 3 หาคนผิดมารับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งยกเลิกสัมปทานที่ไม่เป็นธรรมออกไป เพื่อจะได้มีการประมูลใหม่ขึ้นอีกรอบ
