ยะลา - แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้บัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร มอบนโยบายการปฏิบัติงานให้กับผู้บังคับหน่วยพัฒนาสันติ เพื่อขับเคลื่อนงานตามโครงการหมู่บ้านสันติสุข ให้มีความคืบหน้าและเกิดผลสัมฤทธิ์
วันนี้ (28 ม.ค.) ที่ห้องประชุมยะลารวมใจ ชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ยะลา อ.เมืองยะลา พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า (ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 สน.) พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (ผบ.พตท.) พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้ายะลา และผู้บังคับบัญชาตำรวจ ทหาร ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เรียกประชุมผู้บังคับหน่วยพัฒนาสันติ (ทหาร ทหารพราน ตำรวจตระเวนชายแดน) ที่จะลงปฏิบัติหน้าที่ในหมู่บ้านและชุมชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 25 นาย เพื่อขับเคลื่อนงานตามโครงการหมู่บ้านสันติสุขปี 2552 ให้มีความคืบหน้าและเกิดผลสัมฤทธิ์
โดยมีหัวข้อในการประชุม คือ 1.ทางด้านวิธีการเสริมสร้างความเข้มแข็ง และถอดถอนผู้นำหมู่บ้าน 2.วิธีการสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการหมู่บ้าน 3.วิธีการประสานงานกับฝ่ายพลเรือนในการพัฒนาหมู่บ้าน และ ชุมชน 4.โครงการ และงบประมาณที่แต่ละหน่วยงานลงไปดำเนินการในหมู่บ้าน และชุมชน 5.ลำดับการเร่งด่วนของงานที่จะต้องดำเนินการ 6.เทคนิคและวิธีการในการปฏิบัติงานในแต่ละเรื่อง
พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า การมอบนโยบายแก่ผู้ปฏิบัติในพื้นที่ในครั้งนี้ จุดมุ่งหมาย ทำอย่างไรให้ประชาชนรัก เข้ากับประชาชนได้ ในขณะเดียวกัน หน่วยกำลังที่เข้าไปไม่ไปสร้างเงื่อนไข ในเรื่องที่ไม่ดี ไม่ถูกต้องกับประชาชน ส่วนการขับเคลื่อนหน่วยกำลังชุดพัฒนาสันติในพื้นที่ ขณะนี้ได้ให้ผบ.หน่วยลงไปศึกษาสภาพของพื้นที่
โดยเฉพาะการรองรับวิกฤตเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ ดังการแก้ไขปัญหาวิกฤตด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในเบื้องต้นถ้าประชาชนมีกิน อย่างน้อยในพื้นที่จะไม่ได้รับความเดือดร้อน ผู้มีหนี้สินไม่ต้องไปลักขโมยของคนอื่น ซึ่งทาง ผบ.ศปก.ตร.และ ผบ.พทต.ขานรับนโยบายดังกล่าว และได้ส่งหน่วยลงไปพื้นที่ ผลการปฏิบัติในห้วงเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ประชาชนในพื้นที่ ชอบมาก
สำหรับสถานการณ์ต่างๆ ในพื้นที่ที่เกิดขึ้นนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้ทำงานในเชิงรุกมากขึ้น มีการปิดล้อม จับกุมกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบหลายราย ซึ่งที่จับตายนั้นจะเป็นของจริงทั้งนั้น เพราะมีหลักฐานที่ชัดเจน ฝ่ายคนร้ายยิงเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้ง ในขณะที่การปฏิบัติการจะมีทั้งฝ่ายกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง ร่วมกันทำงาน ตนมั่นใจว่าขณะนี้อำนาจรัฐเข้มแข็งมาก และจะไม่ยอมให้อำนาจที่ไม่ถูกต้องมาเหนืออำนาจรัฐเด็ดขาด
โดยจะยึดหลักกฎหมาย ความยุติธรรมเป็นที่ตั้ง ส่วนเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ที่ไม่ดี ในฐานะผู้บังคับบัญชาจะลงโทษอย่างเฉียบขาด ส่วนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่มีอยู่เพียงไม่กี่คน ทางเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด เพื่อปกป้องคนบริสุทธิ์ที่มีอยู่ในพื้นที่เกือบ 2 ล้านคนให้ได้