ศูนย์ข่าวภูเก็ต- สลด! หนุ่มวัย 33 ปี ถูกกระหน่ำตีตายคาวงเหล้า หลังโรงแรมร้างกลางเมืองภูเก็ต ตำรวจพบเพื่อนเดินโซซัดโซเซ เสื้อผ้าเปื้อนคราบเลือด สอบสวนเบื้องต้นยังไม่ยอมพูดจา ส่วนเพื่อนร่วมวงคาดเป็นมือสังหารแน่นอน
เมื่อเวลา 23.20 น.คืนวันที่ 25 มกราคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพคนถูกฆ่าเสียชีวิต บริเวณป่าละเมาะด้านหลังโรงแรมร้าง ริมถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ห่างจากแยกสามกอง-สะปำ ประมาณ 300 เมตร ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงรายงานให้ พ.ต.ท.นนน พิทักษ์กุลธร สารวัตรเวร สภ.เมืองภูเก็ต ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง และ พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผกก.พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ รอง ผกก.ปป.กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต
ที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะโล่งกว้าง ห่างจากโรงแรมร้างดังกล่าวราว 700 เมตร พบกระท่อมสังกะสีเล็กๆ ทำเป็นที่เก็บเศษพลาสติก และขวดรอบ ๆ บริเวณมีเศษขยะ และปฏิกูลอยู่เต็มตามพื้นดิน พบศพชายสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเหลืองอ่อน สวมกางเกงขาสั้นสีครีม นอนหงายจมกองเลือดอยู่ ทราบชื่อ นายสมชาย สุเหร็น อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 4 ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต สภาพศพถูกของแข็งกระหน่ำตีเข้าบริเวณศีรษะจนแตกเลือดอาบ เสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 3 ชั่วโมง
จากการตรวจสอบบริเวณพื้นที่โดยรอบพบขวดเหล้าและแก้วตกอยู่ที่พื้น แต่ไม่พบอาวุธที่คนร้ายใช้สังหารนายสมชาย แต่กลับพบ นายวินัย กุลตา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/7 หมู่ 3 ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต เดินเวียนอยู่บริเวณป่าละเมาะใกล้จุดเกิดเหตุ โดยมีคราบเลือดเปื้อนอยู่ตามเสื้อผ้าจึงนำตัวไปสอบปากคำ แต่นายวินัยอยู่ในสภาพเมาสุราพูดจาสับสน
สอบถามสาเหตุการตายนายสมชายว่าทราบเรื่องหรือไม่ แต่นายวินัยกลับนิ่งเฉย ไม่ยอมพูดจา จึงควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ที่ สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมกับมอบศพนายสมชายให้มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต นำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ให้แพทย์หาสาเหตุการตายที่แน่ชัด
ทั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่าหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสถานที่โดยรอบ เบื้องต้นคาดว่า เป็นการทะเลาะวิวาทกันเองภายในวงเหล้า เนื่องจากพบพยานบุคคล ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้ร่วมวงกินเหล้ากับนายสมชาย นายวินัย และเพื่อนอีก 2 คน แต่พยานได้ขอตัวไปส่งเพื่อนในตัวเมืองภูเก็ต โดยก่อนไปได้พูดตักเตือนนายสมชายว่าอย่าก่อเหตุ หรือพูดจาหาเรื่องกับเพื่อนในวงเหล้าเป็นอันขาด เนื่องจากนายสมชาย มีนิสัยเมื่อกินเหล้าแล้ว มักจะหาเรื่อง หรือพูดจาไม่ค่อยเข้าหูใคร โดยนายสมชายมีนิสัยชอบไม้ปากเดียวกัน จากนั้นไม่ถึง 1 ชั่วโมง พยานได้กลับมายังวงเหล้าพบนายสมชายนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นแล้ว
ส่วนนายวินัย และเพื่อนอีก 2 คน ได้หายตัวไป จึงคาดว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุตีนายสมชายจนเสียชีวิต น่าจะเป็นนายวินัย และเพื่อน หรือไม่นายวินัยต้องรู้ว่าใครเป็นคนลงมือฆ่านายสมชาย จนกระทั่งพบนายวินัย เดินโซซัดโซเซอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งจากพยานหลักฐานพบคราบเลือดเปื้อนอยู่ตามเสื้อผ้าของนายวินัยจึงได้ควบคุมตัวไปสอบปากคำ เบื้องต้นนายวินัยยังไม่ได้รับสารภาพ หรือปฏิเสธเกี่ยวกับการฆ่านายสมชายแต่อย่างใด
ขณะนี้ได้รวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายจับเพื่อนนายวินัยอีก 2 คน ที่หลบหนีแล้ว ส่วนสาเหตุคาดว่า อาจเกิดจากนายสมชายที่เวลาเมามักจะพูดจาไม่ค่อยเข้าหูใคร ทำให้นายวินัยหรือเพื่อนอีก 2 คน ทนพฤติกรรมไม่ไหว จึงใช้ไม้ที่หาได้ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุกระหน่ำตีนายสมชายจนตาย ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมคนร้ายที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป
เมื่อเวลา 23.20 น.คืนวันที่ 25 มกราคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพคนถูกฆ่าเสียชีวิต บริเวณป่าละเมาะด้านหลังโรงแรมร้าง ริมถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ห่างจากแยกสามกอง-สะปำ ประมาณ 300 เมตร ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงรายงานให้ พ.ต.ท.นนน พิทักษ์กุลธร สารวัตรเวร สภ.เมืองภูเก็ต ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง และ พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผกก.พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ รอง ผกก.ปป.กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต
ที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะโล่งกว้าง ห่างจากโรงแรมร้างดังกล่าวราว 700 เมตร พบกระท่อมสังกะสีเล็กๆ ทำเป็นที่เก็บเศษพลาสติก และขวดรอบ ๆ บริเวณมีเศษขยะ และปฏิกูลอยู่เต็มตามพื้นดิน พบศพชายสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเหลืองอ่อน สวมกางเกงขาสั้นสีครีม นอนหงายจมกองเลือดอยู่ ทราบชื่อ นายสมชาย สุเหร็น อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 4 ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต สภาพศพถูกของแข็งกระหน่ำตีเข้าบริเวณศีรษะจนแตกเลือดอาบ เสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 3 ชั่วโมง
จากการตรวจสอบบริเวณพื้นที่โดยรอบพบขวดเหล้าและแก้วตกอยู่ที่พื้น แต่ไม่พบอาวุธที่คนร้ายใช้สังหารนายสมชาย แต่กลับพบ นายวินัย กุลตา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/7 หมู่ 3 ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต เดินเวียนอยู่บริเวณป่าละเมาะใกล้จุดเกิดเหตุ โดยมีคราบเลือดเปื้อนอยู่ตามเสื้อผ้าจึงนำตัวไปสอบปากคำ แต่นายวินัยอยู่ในสภาพเมาสุราพูดจาสับสน
สอบถามสาเหตุการตายนายสมชายว่าทราบเรื่องหรือไม่ แต่นายวินัยกลับนิ่งเฉย ไม่ยอมพูดจา จึงควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ที่ สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมกับมอบศพนายสมชายให้มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต นำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ให้แพทย์หาสาเหตุการตายที่แน่ชัด
ทั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่าหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสถานที่โดยรอบ เบื้องต้นคาดว่า เป็นการทะเลาะวิวาทกันเองภายในวงเหล้า เนื่องจากพบพยานบุคคล ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้ร่วมวงกินเหล้ากับนายสมชาย นายวินัย และเพื่อนอีก 2 คน แต่พยานได้ขอตัวไปส่งเพื่อนในตัวเมืองภูเก็ต โดยก่อนไปได้พูดตักเตือนนายสมชายว่าอย่าก่อเหตุ หรือพูดจาหาเรื่องกับเพื่อนในวงเหล้าเป็นอันขาด เนื่องจากนายสมชาย มีนิสัยเมื่อกินเหล้าแล้ว มักจะหาเรื่อง หรือพูดจาไม่ค่อยเข้าหูใคร โดยนายสมชายมีนิสัยชอบไม้ปากเดียวกัน จากนั้นไม่ถึง 1 ชั่วโมง พยานได้กลับมายังวงเหล้าพบนายสมชายนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นแล้ว
ส่วนนายวินัย และเพื่อนอีก 2 คน ได้หายตัวไป จึงคาดว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุตีนายสมชายจนเสียชีวิต น่าจะเป็นนายวินัย และเพื่อน หรือไม่นายวินัยต้องรู้ว่าใครเป็นคนลงมือฆ่านายสมชาย จนกระทั่งพบนายวินัย เดินโซซัดโซเซอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งจากพยานหลักฐานพบคราบเลือดเปื้อนอยู่ตามเสื้อผ้าของนายวินัยจึงได้ควบคุมตัวไปสอบปากคำ เบื้องต้นนายวินัยยังไม่ได้รับสารภาพ หรือปฏิเสธเกี่ยวกับการฆ่านายสมชายแต่อย่างใด
ขณะนี้ได้รวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายจับเพื่อนนายวินัยอีก 2 คน ที่หลบหนีแล้ว ส่วนสาเหตุคาดว่า อาจเกิดจากนายสมชายที่เวลาเมามักจะพูดจาไม่ค่อยเข้าหูใคร ทำให้นายวินัยหรือเพื่อนอีก 2 คน ทนพฤติกรรมไม่ไหว จึงใช้ไม้ที่หาได้ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุกระหน่ำตีนายสมชายจนตาย ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมคนร้ายที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป