พัทลุง - อนุกรรมการฝ่ายรับเรื่องรองทุกข์ คณะกรรมาธิการตำรวจสภาผู้แทนราษฎร ระบุรังนกนางแอ่นพัทลุงวิกฤตหนัก เกิดสุญญากาศระยาว อาจจะสูญพันธุ์ เร่งหาทางแก้ปัญหา
วันนี้ (22 ม.ค.) นายสมพร หนูนุ่ม อดีตสมาชิกสภาจังหวัดพัทลุง (ส.จ.) และอดีตคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกนางแอ่นจังหวัดพัทลุง ในฐานะอนุกรรมการฝ่ายรับเรื่องรองทุกข์ คณะกรรมาธิการตำรวจสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในช่วงระยะนี้คือฤดูกาลเก็บเกี่ยงรังนกนางแอ่นขาว โดยเริ่มมาตั้งเดือนธันวาคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์
โดยรังนกนางแอ่นขาว มีราคาประมาณ 500,000 บาท/กก. แต่ขณะนี้ได้เกิดสุญญากาศคดีอยู่ระหว่างศาลปกครอง จนรังนกนางแอ่นก็ถูกโจรกรรมไปจนเกลี้ยงเกาะ รังนกนางแอ่นพัทลุง มีคุณภาพอันดับต้นๆ ของโลก แต่ก็ไม่มีใครออกมาปกป้อง มีแต่กลุ่มจะโจรกรรม ตอนนี้เป็นเวลา 4 เดือนแล้ว หากยังเป็นอยู่ เช่นเพียงประมาณ 1 ปี รังนกนางแอ่นจะต้องสูญสิ้นลง และเท่าสภาพที่เป็นอยู่ในขณะนี้ก็จะต้องหันไปฟื้นฟูกันอีกประมาณ 2 ปี ถึงจะอุดมสมบูรณ์กลับคืนมา
นายสมพร ยังกล่าวอีกว่า แนวทางออกวิกฤติรังนกอีแอ่น ประการสำคัญคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอารังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง ควรจะพิจารณาแก้ไขอำนาจของตนเอง ควรต่อสู้เพื่อชาวพัทลุง และพร้อมกับบรรดาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งจังหวัด โดยเฉพาะเทศบาลตำบลเกาะหมาก ต้องออกมาเป็นแนวหน้า
เช่น ทางออกคือเลิกสัญญาฉบับที่เป็นคดีอยู่ในขณะนี้ แล้วร่างสัญญาใหม่ หรือไม่ให้ใช้สัญญาปี 2547 จะเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและอีกทางออกหนึ่ง คือทางจังหวัดควรทำหนังถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้กรมป่าไม้สั่งปิดเกาะสี่ เกาะห้า ที่เป็นเกาะรังนกอีแอ่นทั้งหมด เพื่อบำรุงพันธุ์ในขณะนี้
เวลาเดียวกันเกาะรังนกอีแอ่นเกิดวิกฤติเลวร้ายที่สุด ทรัพยากรอันล้ำค้าเกิดความเสียหายร้ายแรง รายได้รังนกอีแอ่นในอายุสัมปทานคราวละ 5 ปี มีรายได้ถึง 1,000 ล้านบาทกับบริษัทผู้ประกอบการ ปัญหาเกาะรังนกอีแอ่น มีการขัดแย้งทางด้านผลประโยชน์ จนเกิดการฆ่ากันตายมาตั้งแต่ปี 2547 จนถึงขณะนี้ประมาณ 50 ศพแล้ว
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการพิจารณารังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการฯ กำลังหาทางออก ในการแก้ไขปัญหา เพราะหากปล่อยไว้เช่นนี้ จะเกิดความเสียหายอย่างมากต่อชาวพัทลุง แต่จะได้ผลประโยชน์อย่างมหาศาลกับบุคคลบางกลุ่มที่เอื้อประโยชน์กันระหว่างกลุ่มโจรกรรมรังนกอีแอ่น
วันนี้ (22 ม.ค.) นายสมพร หนูนุ่ม อดีตสมาชิกสภาจังหวัดพัทลุง (ส.จ.) และอดีตคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกนางแอ่นจังหวัดพัทลุง ในฐานะอนุกรรมการฝ่ายรับเรื่องรองทุกข์ คณะกรรมาธิการตำรวจสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในช่วงระยะนี้คือฤดูกาลเก็บเกี่ยงรังนกนางแอ่นขาว โดยเริ่มมาตั้งเดือนธันวาคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์
โดยรังนกนางแอ่นขาว มีราคาประมาณ 500,000 บาท/กก. แต่ขณะนี้ได้เกิดสุญญากาศคดีอยู่ระหว่างศาลปกครอง จนรังนกนางแอ่นก็ถูกโจรกรรมไปจนเกลี้ยงเกาะ รังนกนางแอ่นพัทลุง มีคุณภาพอันดับต้นๆ ของโลก แต่ก็ไม่มีใครออกมาปกป้อง มีแต่กลุ่มจะโจรกรรม ตอนนี้เป็นเวลา 4 เดือนแล้ว หากยังเป็นอยู่ เช่นเพียงประมาณ 1 ปี รังนกนางแอ่นจะต้องสูญสิ้นลง และเท่าสภาพที่เป็นอยู่ในขณะนี้ก็จะต้องหันไปฟื้นฟูกันอีกประมาณ 2 ปี ถึงจะอุดมสมบูรณ์กลับคืนมา
นายสมพร ยังกล่าวอีกว่า แนวทางออกวิกฤติรังนกอีแอ่น ประการสำคัญคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอารังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง ควรจะพิจารณาแก้ไขอำนาจของตนเอง ควรต่อสู้เพื่อชาวพัทลุง และพร้อมกับบรรดาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งจังหวัด โดยเฉพาะเทศบาลตำบลเกาะหมาก ต้องออกมาเป็นแนวหน้า
เช่น ทางออกคือเลิกสัญญาฉบับที่เป็นคดีอยู่ในขณะนี้ แล้วร่างสัญญาใหม่ หรือไม่ให้ใช้สัญญาปี 2547 จะเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและอีกทางออกหนึ่ง คือทางจังหวัดควรทำหนังถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้กรมป่าไม้สั่งปิดเกาะสี่ เกาะห้า ที่เป็นเกาะรังนกอีแอ่นทั้งหมด เพื่อบำรุงพันธุ์ในขณะนี้
เวลาเดียวกันเกาะรังนกอีแอ่นเกิดวิกฤติเลวร้ายที่สุด ทรัพยากรอันล้ำค้าเกิดความเสียหายร้ายแรง รายได้รังนกอีแอ่นในอายุสัมปทานคราวละ 5 ปี มีรายได้ถึง 1,000 ล้านบาทกับบริษัทผู้ประกอบการ ปัญหาเกาะรังนกอีแอ่น มีการขัดแย้งทางด้านผลประโยชน์ จนเกิดการฆ่ากันตายมาตั้งแต่ปี 2547 จนถึงขณะนี้ประมาณ 50 ศพแล้ว
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการพิจารณารังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการฯ กำลังหาทางออก ในการแก้ไขปัญหา เพราะหากปล่อยไว้เช่นนี้ จะเกิดความเสียหายอย่างมากต่อชาวพัทลุง แต่จะได้ผลประโยชน์อย่างมหาศาลกับบุคคลบางกลุ่มที่เอื้อประโยชน์กันระหว่างกลุ่มโจรกรรมรังนกอีแอ่น
