ตรัง - เตรียมเป็นเจ้าภาพสำหรับการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 38 "ตรังเกมส์" ส.ส.ปชป.วอนทุกหน่วยช่วยกันส่งเสริมพัฒนานักกีฬา ให้ตรังกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง พร้อมเร่งพัฒนาสนามแข่งขัน
วันนี้ (13 ม.ค.) นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ และอุปนายกสมาคมกีฬาจังหวัดตรัง กล่าวถึงการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 37 "พิษณุโลกเกมส์" ที่ปิดฉากไปเมื่อเร็วๆ นี้ และ จ.ตรัง ได้เตรียมเป็นเจ้าภาพสำหรับการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 38 "ตรังเกมส์" ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงระหว่าง 5-15 กันยายน 2552 นี้ว่า แม้ผลงานครั้งล่าสุด จ.ตรังจะทำได้เพียง 5 เหรียญเงิน และ 11 เหรียญทองแดง แต่ก็แสดงออกถึงพลัง และความสามารถของนักกีฬาอย่างเต็มที่แล้ว
"จากนี้ไปคงเป็นภาระหน้าที่ของทุกหน่วยงาน ที่จะต้องหันกลับมาใส่ใจ และพัฒนาวงการกีฬาให้มากขึ้น เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ เพราะหากเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านๆ มาถือว่า ปีนี้วงการกีฬาใน จ.ตรังเริ่มถดถอยลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่ในอดีต จ.ตรังเคยประสบความสำเร็จสูงสุด ถึงขั้นได้แชมป์กีฬาในหลายชนิด และมีนักกีฬาติดทีมชาติหลายคน"
นายสมบูรณ์ กล่าวอีกว่า สมัยครูหลวยเป็นโค้ช มีนักกีฬาบ้านเราติดทีมชาติกันเยอะแยะ เคยเป็นถึงแชมป์ฟุตบอลกีฬาแห่งชาติก็มี อย่างกรีฑาก็เช่น วิสุทธิ์ วัฒนสิน, สุทัศน์ ศรีแก้วเขียว มีนักตะกร้อ เทควันโด้ แต่ช่วงหลังๆ กีฬา จ.ตรังกลับทรงกับทรุด ทั้งที่เรามีสถาบันการพลศึกษา (วิทยาลัยพลศึกษาเดิม) ซึ่งตนก็ได้มีส่วนผลักดันจนมีโรงเรียนกีฬา จ.ตรังขึ้น และมีสมาคมกีฬา จ.ตรังที่มีหน้าที่ดูแลกีฬาโดยตรง แต่ผลที่ออกมากลับผิดคาด และคงต้องปรับปรุงกันบางเรื่อง เพื่อให้กีฬาของ จ.ตรังกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง แม้เริ่มวันนี้จะถือว่าช้าไป แต่เราก็ต้องเริ่มทำกันอย่างทันที
"สำหรับการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ที่ จ.ตรังเป็นเจ้าภาพ หากมีการปรับและเตรียมการที่ดี ทั้งด้านการบริหารสมาคม เชื่อมั่นว่าศักยภาพของเยาวชนตรัง และโค้ชกีฬาจากวิทยาลัยพลศึกษา โรงเรียนกีฬา รวมถึงชมรมต่างๆ จะทำให้ จ.ตรังกลับมาโดดเด่นด้านกีฬาอีกครั้ง โดยประเภทกีฬาที่ จ.ตรังมี โอกาสลุ้นเหรียญทองมากที่สุดคือ กรีฑา เทควันโด้ ปัญจักสีลัต มวยปล้ำ ยกน้ำหนัก และอีกหลายประเภท"
นายสมบูรณ์ กล่าวด้วยว่า ผลสำเร็จทั้งหมดจะเป็นจริงได้ หากทุกๆ สมาคมและทุกหน่วยงาน จริงจังกับกีฬาจังหวัดตรัง โดยเฉพาะการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จะต้องมีนโยบายชัดเจน และสอดคล้องกับการพัฒนาการการกีฬาชาติ ส่วนสมาคมกีฬา จ.ตรังก็จะต้องเริ่มทำงานตามแผน ทั้งการคัดสรรบุคลากร การประชาสัมพันธ์ และการตั้งงบประมาณที่ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้อย่างชัดเจน ส่วนนักกีฬาก็ต้องมีระเบียบวินัย และทุ่งมั่นฝึกซ้อมเพื่อความมีประสิทธิภาพ
"ที่สำคัญก็คือ ต้องไม่มีเรื่องการทำสนาม หรืออุปกรณ์กีฬา แล้วหักให้ผู้ใหญ่ 30 % หรือการปรับปรุงซ่อมแซมสนามแข่งขันล่าช้า จนส่งมอบก่อนการแข่งขัน 1 วัน หรือการอิดออดของบางสมาคมฯ ในการตรวจรับ เพราะไม่อยากเห็นปลิงในกีฬาที่เป็นศักดิ์ศรีของชาวตรัง ฉะนั้น ทุกหน่วยงาน ทุกอำเภอในจังหวัด ตลอดจนชาวตรัง จะต้องร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี"