xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.ปกครองลงพื้นที่ระนองแก้ปัญหาต่ออายุทำประโยชน์ที่ป่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ระนอง - คณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ระนองเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาการต่ออายุหนังสืออนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติของ อบจ.ระนอง จำนวน 242 ไร่

วันนี้ (8 ม.ค.) นายวิรัช ร่มเย็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระนองในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎรพร้อมด้วยคณะกรรมาธิการได้ประชุมรับฟังบรรยายสรุปและความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาเรื่ององค์การบริหารส่วนจังหวัดระนองขอต่ออายุหนังสือสัญญาเช่าอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย

โดยมี นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง นายนภา นทีทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้แทนภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมที่โรงแรมทินิดีระนอง

นายนภา นทีทอง นายก อบจ.ระนอง กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้อนุมัติเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2525 ให้ อบจ.ระนอง เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย เนื้อที่ 242 ไร่ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมืองแร่ดีบุกมาก่อน เพื่อจัดสรรที่ดินให้ราษฎรเข้าอยู่อาศัยและจัดเป็นย่านการค้าและอุตสาหกรรม มีกำหนดระยะเวลา 15 ปี พร้อมกับใช้งบประมาณพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานทั้งถนน ระบบระบายน้ำไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์นับร้อยล้านบาทแต่ก่อนที่จะครบสัญญาคณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2534 ให้ระงับการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนโดยเด็ดขาด ส่งผลให้อบจ.ไม่สามารถขอต่ออายุสัญญาเช่าได้อีกนับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบันกว่า10 ปีแล้ว แม้ว่าจะมีความพยายามแก้ไขปัญหามาตลอดก็ตาม

นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ถ้าดูเฉพาะข้อกฎหมาย หรือตัวหนังสือ หรือมติคณะรัฐมนตรีก็น่าจะเป็นอย่างนั้นไม่ควรให้ใครเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนอย่างเด็ดขาดแต่สภาพข้อเท็จจริงไม่มีสภาพป่าแล้ว และมีการใช้ประโยชน์มาก่อนแล้วแต่จะทำให้ถูกต้องจะต้องนำเข้ามติ ครม.เพื่อขอยกเว้นการปฏิบัติ

นายวิรัช ร่มเย็น ประธานคณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวไม่มีป่าไม้ชายเลนหลงเหลืออยู่แล้วมีการสร้างตึกแถว โรงงานอุตสาหกรรม ที่อยู่อาศัยและแพปลามีผู้ครอบครองพื้นที่ 250 รายแต่เมื่อครบสัญญาเช่าทางกรมป่าไม้ก็ไม่ต่อสัญญาให้ อบจ.อีกซึ่งเวลาล่วงเลยมานานแล้ว

โดยอ้างว่า ขัดมติคณะรัฐมนตรี ทำให้ อบจ.ระนอง ไม่สามารถเข้าไปจัดเก็บรายได้และพัฒนาพื้นที่ได้ขณะที่ผู้ครอบครองก็อยู่ฟรีแต่ก็ไม่สามารถนำไปเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินเพื่อขยายกิจการได้ตนในฐานะประธานกรรมาธิการในฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งมีภาระรับผิดชอบดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำเป็นต้องลงพื้นที่ดูสภาพข้อเท็จจริงเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่ได้ไปเสนอรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น