ระนอง - คณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎรลงพื้นที่ระนองติดตามปัญหาการต่ออายุหนังสืออนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติของ อบจ.ระนอง
นายวิรัช ร่มเย็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระนอง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค.) เวลา 09.00 น.คณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น เดินทางมาศึกษาดูงานและประชุมรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับเรื่ององค์การบริหารส่วนจังหวัดระนองขอต่ออายุหนังสือสัญญาเช่าอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย จังหวัดระนอง ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่โรงแรมทินิดีระนอง
ประธานคณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า เดิมกรมป่าไม้ ได้ให้อบจ.ระนองทำสัญญาเช่าพื้นที่ จากนั้น อบจ.ก็ได้ไปจัดสรรให้เอกชนได้เช่าต่อซึ่งปัจจุบันไม่มีป่าไม้หลงเหลืออยู่แล้ว มีการสร้างตึกแถวที่อยู่อาศัยและแพปลา แต่เมื่อครบสัญญาเช่าทางกรมป่าไม้ก็ไม่ต่อสัญญาให้ อบจ.อีก ซึ่งเวลาล่วงเลยมานานแล้ว โดยอ้างว่าขัดมติคณะรัฐมนตรี ทำให้อบจ.ระนองไม่สามารถเข้าไปจัดเก็บรายได้และพัฒนาพื้นที่ได้
ขณะที่ผู้ครอบครองก็อยู่ฟรีแต่ก็ไม่สามารถนำไปเป็นหลักทรัพย์ในการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินได้ ตนในฐานะประธานกรรมาธิการในฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งมีพันธกิจรับผิดชอบดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำเป็นต้องนำข้อมูลต่างๆ ที่ได้ไปเสนอรัฐบาลเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป
นายวิรัช ร่มเย็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระนอง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค.) เวลา 09.00 น.คณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น เดินทางมาศึกษาดูงานและประชุมรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับเรื่ององค์การบริหารส่วนจังหวัดระนองขอต่ออายุหนังสือสัญญาเช่าอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย จังหวัดระนอง ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่โรงแรมทินิดีระนอง
ประธานคณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า เดิมกรมป่าไม้ ได้ให้อบจ.ระนองทำสัญญาเช่าพื้นที่ จากนั้น อบจ.ก็ได้ไปจัดสรรให้เอกชนได้เช่าต่อซึ่งปัจจุบันไม่มีป่าไม้หลงเหลืออยู่แล้ว มีการสร้างตึกแถวที่อยู่อาศัยและแพปลา แต่เมื่อครบสัญญาเช่าทางกรมป่าไม้ก็ไม่ต่อสัญญาให้ อบจ.อีก ซึ่งเวลาล่วงเลยมานานแล้ว โดยอ้างว่าขัดมติคณะรัฐมนตรี ทำให้อบจ.ระนองไม่สามารถเข้าไปจัดเก็บรายได้และพัฒนาพื้นที่ได้
ขณะที่ผู้ครอบครองก็อยู่ฟรีแต่ก็ไม่สามารถนำไปเป็นหลักทรัพย์ในการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินได้ ตนในฐานะประธานกรรมาธิการในฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งมีพันธกิจรับผิดชอบดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำเป็นต้องนำข้อมูลต่างๆ ที่ได้ไปเสนอรัฐบาลเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป