นราธิวาส – ชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี ร่วมพิธีฉลองอายุวัฒนมงคล เจ้าอาวาสวัดปาดี ครบรอบ 71 ปี 50 พรรษา เชื่อมความสัมพันธ์ เชื่อสถานการณ์ใต้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการแบ่งแยกทางศาสนา
ที่วัดประชุมชลธารา อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสเป็นประธานในพิธีฉลองอายุวัฒนมงคล ครบรอบ 71 ปี 50 พรรษา พระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส ที่เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่งในวันที่ 7 มกราคม 2552
โดยบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างอบอุ่น เนื่องจากมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัด และพุทธศาสนิกชนในพื้นที่เข้าร่วมแสดงมุทิตาจิตกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีโต๊ะครู โต๊ะอิหม่าม และกลุ่มชาวบ้านที่เป็นชาวไทยมุสลิมเข้าร่วมภายในงานพร้อมรับประทานร่วมกันอย่างเป็นกันเอง ซึ่งสะท้อนภาพแห่งความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานของชาวไทยพุทธ และชาวไทยมุสลิมที่ยังคงฝังรากลึกและยากที่จะทำลายลงด้วยบุคคลบางกลุ่มที่ใช้ศาสนามาเป็นข้ออ้างในการแบ่งแยกระหว่างชาวไทยพุทธและมุสลิม
พระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ศาสนาเป็นลักษณะของการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ฝ่ายใดเดือดร้อนก็ต่างช่วยเหลือกัน และวัดประชุมชลธาราแห่งนี้ก็เปรียบเสมือนที่พึ่งพิงของชาวบ้านทุกคนที่นี่โดยไม่แบ่งแยกว่าเป็นคนในศาสนาใด และที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าการอยู่ร่วมกันอย่างพี่น้องของประชาชนทั้งสองศาสนาสร้างความสงบสุขให้กับพื้นที่เพียงใด
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เตรียมต่อยอดสานความสัมพันธ์พุทธ-มุสลิม โดยนำศาสนามาเป็นสื่อกลางในการตอกย้ำให้เห็นเป็นรูปธรรมว่าคนไทยทุกศาสนาในพื้นที่ยังคงเป็นพี่ เป็นน้องที่พร้อมใจจะอยู่ร่วมกันด้วยความรัก และความสามัคคี
ส่วน นายแวอาแว แวมามุ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ระบุสถานการณ์ใต้ไม่ได้เกิดจากการแบ่งแยกทางศาสนา เพราะศาสนาสอนให้รักสันติและไม่ได้มุ่งทำลายฝ่ายใดดังนั้นการกระทำของบุคคลบางกลุ่มจึงเป็นเพียงการมุ่งหวังผลประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้องไม่เกี่ยวกับชาวไทยมุสลิมส่วนใหญ่ที่ยังคงมุ่งหวังที่จะแสวงหาสันติให้กลับมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้