“รองนายกฯสุเทพ” พบปะกรรมการอิสลาม-ปวงสัปบุรุษคนนราฯ ให้คำมั่นจะไม่ละเมิดสิทธิเสรี ลั่นต้องไม่มีการอุ้มฆ่า บอกให้คนผิดรอดดีว่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ถูกฆ่า ยาหอมโปรยงบ 63,000 ล้านบาท ลงให้พี่น้อง 3 จว.ชายแดนใต้
วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.00 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้คณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิด และปวงสัปบุรุษ จ.นราธิวาส เข้าเยี่ยมคารวะ ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล โดย นายสงัด สง่าบ้านโคก ประธานชมรมผู้สูงอายุประจำมัสยิด จ.นราธิวาส ได้กล่าวกับนายสุเทพ ว่า 1.ปรากฏการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น มีมานาน เพราะมาจากข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนขัดแย้งและเข้าใจต่างกันมาตลอด รวมทั้งจะเป็นแบบนี้ต่อไป 2.จ.นราธิวาส อยู่ติดชายแดนมาเลเซีย ประชาชนนับถือศาสนาอิสลามจำนวนมาก มีภาษาและวัฒนธรรม โดยมีการไปมาหาสู่กันและกันกับมาเลเซีย จนโดยมองว่าอาจไม่ใช่คนไทย 3.ผลการวิจัยทางสังคมชิ้นหนึ่ง ระบุว่า ประชาชน จ.นราธิวาส จะพัฒนาช้ากว่าจังหวัดอื่นๆ แต่ประชาชนให้ความเคารพผู้นำศาสนาที่จบการศึกษาจากต่างประเทศ ที่จะเข้าไปเป็นกรรมการมัสยิดต่างๆ ในจังหวัด 600 แห่ง ฉะนั้นควรให้บุคคลเหล่านี้เสนอโครงการพัฒนาพื้นที่ต่อ ศอ.บต.และควรที่จะให้ไปพบกับกรรมการมัสยิดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นซึ่งกันและกันด้วย
จากนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อ นายอภิสิทธิ์ ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ตั้งปณิธานแน่วแน่ว่าจะแก้ไขปัญหาภาคใต้ให้ได้ นายกฯได้ตั้ง ครม.พิเศษขึ้นมาแก้ไขปัญหาภาคใต้โดยเฉพาะ และยืนยันว่า จะไม่ยอมให้มีการล่วงล้ำสิทธิเสรีภาพของพี่น้อง ไม่ให้มีการปฏิบัตินอกเหนือกฎหมาย และจะไม่ให้มีการอุ้มฆ่า สังหารพี่น้องประชาชนเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้
“ยอมให้คนผิดรอดดีกว่าที่จะยอมให้คนบริสุทธิ์ถูกทำร้าย และได้กำชับข้าราชการ ว่า หากพบว่าใครทำจะลงโทษขั้นรุนแรง และรัฐบาลจะไม่ใช่ว่าจะเอาคนที่มี่ความคิดเห็นแตกต่างไปฆ่า แต่จะทำการเปลี่ยนแปลงความคิดเสียใหม่ ยังมีพี่น้องคนไทยอีกมากที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม แต่เป็นคนเชื้อชาติเดียวกัน แต่สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสันติสุข และยืนยันว่า จะเอาคนผิดที่ยิงถล่มในมัสยิดมาลงโทษให้ได้ เนื่องจากนายกฯเองก็จี้ถามผมมาทุกวัน ว่า จับคนร้ายได้หรือยัง” นายสุเทพ กล่าว
รองนายกฯ กล่าวต่อว่า สิ่งที่รัฐบาลตั้งใจ คือ การพัฒนายึดแนวทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา จะไม่ท่องเป็นนกแก้ว นกขุนทอง ใน 3 ปีนี้ รัฐบาลได้ทุ่มงบในพื้นที่ถึง 63,000 ล้านบาท โดยในปีแรกจะลงไปทันทีในปีนี้ 18,000 ล้านบาท และตนจะเป็นคนคุม และตามการใช้งบตัวนี้ด้วยตัวเองทุกรายการ และงบนี้จะลงไปถึงครอบครัวของพี่น้องประชาชนก่อนอันดับแรก ใครอยากทำนา ทำสวนปาล์ม สามารถขอดำเนินการได้เลย และจะช่วยเหลือครอบครัวที่ยากจนที่สุดในหมู่บ้านโดยเรียงมาตามลำดับความยากจน และสามารถของบประมาณในการซ่อมแซมบ้านได้อีกด้วย หรือจะให้ปลูกบ้านก็ได้ โดยรัฐบาลจะให้ถึง 150,000 บาท ส่วนทหารที่อยู่ในพื้นที่ก็จะมีหน้าที่ดูแลให้ความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนควบคู่กับการพัฒนา นายสุเทพ กล่าวต่อว่า รัฐบาลจะปกป้องงบเหล่านี้ให้ถึงมือประชาชน รวมไปถึงโรงเรียน หรือศาสนสถาน และไม่ว่าลูกเมียไหนรัฐบาลก็ให้เรียนฟรีทุกคน ซึ่งตนจะลงไปในพื้นที่เดือนละหนหรือมากกว่านั้น ส่วนนายกฯ ก็จะลงไปเดือนหน้า ยืนยันว่า รมต.รัฐบาลชุดนี้ที่เกี่ยวข้องจะลงไปในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งต่างกับรัฐบาลที่ผ่านมาที่นายกฯหรือรัฐมนตรีไม่ลงไปในพื้นที่เลย
ทั้งนี้ นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ภายหลังถึงความมั่นใจที่ประกาศกับประชาชน จ.นราธิวาส ว่า อีก3 ปีปัญหาความไม่สงบจะยุติ ว่า เกิดจากการที่รัฐบาลเข้าไปพัฒนาทำให้ประช่าชนอยู่ในพื้นที่ ส่วนคนที่หลงผิดอาจกลับตัวกลับใจได้ เมื่อถามว่า มั่นใจเพียงใดว่านโยบายจะเห็นผล นายสุเทพ กล่าวว่า 3 ปีนี้ ตนจะทำให้เห็นหน้าเห็นหลัง ปีนี้ก็คอยดูเเล้วกัน เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ยอมให้มีการเสียดินแดนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายสุเทพ กล่าวว่า ยืนยันได้ เพราะตนไม่ยอมให้มีการเจรจา