นครศรีธรรมราช - "วิทยา แก้วภราดัย" รมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่นครศรีธรรมราช เตรียมหาช่องบรรจุพยาบาลลูกจ้างกว่า 8 พันตำแหน่ง ประกาศสางปัญหา ร.พ.แออัดทั่วประเทศ-เร่งขยาย ร.พ.อำเภอเกิดใหม่ 66 อำเภอบริการประชาชน โดยอำเภอแรกจะสร้างโรงพยาบาลประจำอำเภอให้เสร็จภายในปี 2552
วานนี้ (27 ธ.ค.) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปที่ จ.นครศรีธรรมราช และได้กล่าวถึงแนวนโยบายในกระทรวงสาธารณสุขในส่วนของภาคใต้ว่า ต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนที่เร่งด่วนคือเรื่องของการขาดแคลนแพทย์และพยาบาลที่เป็นปัญหาใหญ่ และแพทย์พยาบาลใน 3 จังหวัดใต้ที่อยู่ระหว่างการศึกษาเป็นปีที่ 2 แล้วอีก 2-3 ปีบุคลากรเหล่านี้จบการศึกษากลับไปทำงานที่บ้าน ส่วนจังหวัดอื่นการขาดแคลนแพทย์พยาบาลอยู่ในอัตราสูง พยายามหารือแก้ปัญหาในภาพรวมคือแพทย์ที่ไหลออกไปจากชนบท แล้วเข้าไปอยู่ในเมืองในกรุงเทพ ซึ่งได้พูดคุยเบื้องต้นนั้นอยู่ในระดับน่าพอใจในการสมัครใจอยู่ในชนบทต่อ ส่วนพยาบาลต้องพูดคุยกันในเรื่องค่าตอบแทนที่ต้องเพิ่มขึ้น รวมทั้งจบหลักสูตรพยาบาลแล้วไม่สามารถบรรจุเข้ารับราชการได้เพราะไปติดแผนกรอบคุมอัตรากำลัง มีลูกจ้างพยาบาลอยู่ราว 8 พันคนทั่วประเทศ และกำลังหารือเพื่อเปิดกรอบบรรจุพยาบาลลุกจ้างทั้งหมดนี้เป็นข้าราชการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุขกล่าวต่อว่าอีกส่วนคือเรื่องของการฟ้องร้องแพทย์นั้น ได้มีการดำเนินการแก้ปัญหาไปมากเช่นการยกร่าง พ.ร.บ.เพื่อการประณีประนอมการจัดตั้งกองทุนขึ้นเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกรณีเช่นนี้ชดเชยให้กับประชาชน ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นที่น่าพอใจของตัวแทนผู้ป่วย พ.ร.บ.ตัวนี้อยู่ในกฤษฎีกา จะต้องเร่งตามและจะออกให้ทันในสมัยประชุมหน้า
"อีกส่วนที่ต้องดำเนินการคือเรื่องซีแอลยา ซึ่งแนวคิดนั้นคือประชาชนต้องเข้าถึงยา ที่มีคุณภาพและราคาถูกส่วนจะทำซีแอลยาตัวใดบ้างนั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนต้องมีการหารือกับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงต่างประเทศเพราะอาจกระทบเรื่องความสัมพันธ์ต่างๆ ด้วย"
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุขกล่าวต่อว่า สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการคือเรื่องของความแออัดยัดเยียดในโรงพยาบาลโดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ๆนั้น วันนี้จะเริ่มไล่ดูแลเริ่มแรกโดยจะเริ่มที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เนื่องจากมีข้อร้องเรียนในเรื่องนี้จำนวนมาก และจะตระเวนไปทุกที่ที่มีปัญหาเรื่องความแออัดในทั่วประเทศ และมีอำเภอเกิดใหม่ราว 66 อำเภอ 40 อำเภอแรกจะสร้างโรงพยาบาลประจำอำเภอให้เสร็จภายในปี 2552 นครศรีธรรมราช จะมี 4 อำเภอคือ ช้างกลาง นบพิตำ เฉลิมพระเกียรติ พระพรหม เป็นเป้าหมายที่จะต้องทำให้สำเร็จภายใน 1-2 ปีนี้
วานนี้ (27 ธ.ค.) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปที่ จ.นครศรีธรรมราช และได้กล่าวถึงแนวนโยบายในกระทรวงสาธารณสุขในส่วนของภาคใต้ว่า ต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนที่เร่งด่วนคือเรื่องของการขาดแคลนแพทย์และพยาบาลที่เป็นปัญหาใหญ่ และแพทย์พยาบาลใน 3 จังหวัดใต้ที่อยู่ระหว่างการศึกษาเป็นปีที่ 2 แล้วอีก 2-3 ปีบุคลากรเหล่านี้จบการศึกษากลับไปทำงานที่บ้าน ส่วนจังหวัดอื่นการขาดแคลนแพทย์พยาบาลอยู่ในอัตราสูง พยายามหารือแก้ปัญหาในภาพรวมคือแพทย์ที่ไหลออกไปจากชนบท แล้วเข้าไปอยู่ในเมืองในกรุงเทพ ซึ่งได้พูดคุยเบื้องต้นนั้นอยู่ในระดับน่าพอใจในการสมัครใจอยู่ในชนบทต่อ ส่วนพยาบาลต้องพูดคุยกันในเรื่องค่าตอบแทนที่ต้องเพิ่มขึ้น รวมทั้งจบหลักสูตรพยาบาลแล้วไม่สามารถบรรจุเข้ารับราชการได้เพราะไปติดแผนกรอบคุมอัตรากำลัง มีลูกจ้างพยาบาลอยู่ราว 8 พันคนทั่วประเทศ และกำลังหารือเพื่อเปิดกรอบบรรจุพยาบาลลุกจ้างทั้งหมดนี้เป็นข้าราชการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุขกล่าวต่อว่าอีกส่วนคือเรื่องของการฟ้องร้องแพทย์นั้น ได้มีการดำเนินการแก้ปัญหาไปมากเช่นการยกร่าง พ.ร.บ.เพื่อการประณีประนอมการจัดตั้งกองทุนขึ้นเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกรณีเช่นนี้ชดเชยให้กับประชาชน ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นที่น่าพอใจของตัวแทนผู้ป่วย พ.ร.บ.ตัวนี้อยู่ในกฤษฎีกา จะต้องเร่งตามและจะออกให้ทันในสมัยประชุมหน้า
"อีกส่วนที่ต้องดำเนินการคือเรื่องซีแอลยา ซึ่งแนวคิดนั้นคือประชาชนต้องเข้าถึงยา ที่มีคุณภาพและราคาถูกส่วนจะทำซีแอลยาตัวใดบ้างนั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนต้องมีการหารือกับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงต่างประเทศเพราะอาจกระทบเรื่องความสัมพันธ์ต่างๆ ด้วย"
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุขกล่าวต่อว่า สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการคือเรื่องของความแออัดยัดเยียดในโรงพยาบาลโดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ๆนั้น วันนี้จะเริ่มไล่ดูแลเริ่มแรกโดยจะเริ่มที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เนื่องจากมีข้อร้องเรียนในเรื่องนี้จำนวนมาก และจะตระเวนไปทุกที่ที่มีปัญหาเรื่องความแออัดในทั่วประเทศ และมีอำเภอเกิดใหม่ราว 66 อำเภอ 40 อำเภอแรกจะสร้างโรงพยาบาลประจำอำเภอให้เสร็จภายในปี 2552 นครศรีธรรมราช จะมี 4 อำเภอคือ ช้างกลาง นบพิตำ เฉลิมพระเกียรติ พระพรหม เป็นเป้าหมายที่จะต้องทำให้สำเร็จภายใน 1-2 ปีนี้
