ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานภูเก็ตระบุปัญหาสถานการณ์เอดส์ยังน่าห่วง เผยปี52สถานประกอบการในภูเก็ตผ่านมาตรฐานด้านเอดส์และวัณโรคจำนวน 49 แห่ง
วันนี้ (17 ธ.ค.) นายกิตติพงษ์ เหล่านิพนธ์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังพิธีมอบใบรับรองมาตรฐานการบริหารจัดการด้านเอดส์ในสถานประกอบกิจการและใบรับรองมาตรฐานการบริหารจัดการด้านเอดส์และวัณโรคในสถานประกอบกิจการ โดยมีนายตรี อัครเดชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานว่า สถานการณ์เอดส์ยังคงเป็นปัญหาระดับประเทศที่เกี่ยวข้องกับคนทุกคนในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประชากรวัยทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบ ไม่เพียงแต่ด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อปัญหาการจ้างงาน ซึ่งผู้ป่วยถูกรังเกียจและไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมรอบด้าน
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการขาดความรู้ความเข้าใจของคนในสังคม จากสถิติการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในจังหวัดภูเก็ต กลุ่มอายุผู้ป่วยที่พบมาก เป็นกลุ่มวัยทำงานที่มีอายุระหว่าง 25-39 ปี โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้าง รองลงมางานบ้าน ว่างงาน ค้าขาย พนักงานลูกจ้าง กรรมกรผู้ใช้แรงงาน และประมง
ซึ่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้มอบหมายให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภูเก็ต จัดกิจกรรมส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการดำเนินงานตามประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง แนวปฎิบัติการป้องกันและจัดการด้านเอดส์ในสถานประกอบที่ประกาศเมื่อปี 2548 และต่อมาในปี 2551 ได้มีการดำเนินงานส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการมีการบริหารจัดการด้านเอดส์และวัณโรคควบคู่กันไปอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยกำหนดมาตรฐานในการดำเนินการ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการด้านสวัสดิการของลุกจ้างในสถานประกอบกิจการ และแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ประกอบด้วย การมีนโยบายให้ความรู้ในการป้องกันการแพร่ระบาด มีนโยบายไม่เลือกปฎิบัติ ไม่กีดกันผู้ติดเชื้อเอช ไอวี ในการทำงาน และช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอช ไอ วี ผู้ป่วยเอดส์และวัณโรคให้เข้าถึงระบบการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสมาคมแนวร่วมธุรกิจไทยต้านภัยเอดส์ หน่วยงานภาครัฐ เอกชนและองค์กรต่างๆ จนสามารถดำเนินงานได้ลุล่วงอย่างเป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ตามสำหรับการจัดกิจกรรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้น ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มรุ้งอันดามันภูเก็ตเป็นผู้ดำเนินการจัดทำโครงการมาตั้งแค่ปี 2549 ซึ่งมีสถานประกอบกิจการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานแล้ว 74 แห่ง ส่วนในปี 2552 มีสถานประกอบกิจการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการบริหารจัดการด้านเอดส์ (ASO-Thailand) จำนวน 20 แห่ง และมาตรฐานการบริหารจัดการด้านเอดส์และวัณโรค (ASO-T Thailand) จำนวน 29แห่ง
วันนี้ (17 ธ.ค.) นายกิตติพงษ์ เหล่านิพนธ์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังพิธีมอบใบรับรองมาตรฐานการบริหารจัดการด้านเอดส์ในสถานประกอบกิจการและใบรับรองมาตรฐานการบริหารจัดการด้านเอดส์และวัณโรคในสถานประกอบกิจการ โดยมีนายตรี อัครเดชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานว่า สถานการณ์เอดส์ยังคงเป็นปัญหาระดับประเทศที่เกี่ยวข้องกับคนทุกคนในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประชากรวัยทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบ ไม่เพียงแต่ด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อปัญหาการจ้างงาน ซึ่งผู้ป่วยถูกรังเกียจและไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมรอบด้าน
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการขาดความรู้ความเข้าใจของคนในสังคม จากสถิติการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในจังหวัดภูเก็ต กลุ่มอายุผู้ป่วยที่พบมาก เป็นกลุ่มวัยทำงานที่มีอายุระหว่าง 25-39 ปี โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้าง รองลงมางานบ้าน ว่างงาน ค้าขาย พนักงานลูกจ้าง กรรมกรผู้ใช้แรงงาน และประมง
ซึ่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้มอบหมายให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภูเก็ต จัดกิจกรรมส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการดำเนินงานตามประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง แนวปฎิบัติการป้องกันและจัดการด้านเอดส์ในสถานประกอบที่ประกาศเมื่อปี 2548 และต่อมาในปี 2551 ได้มีการดำเนินงานส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการมีการบริหารจัดการด้านเอดส์และวัณโรคควบคู่กันไปอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยกำหนดมาตรฐานในการดำเนินการ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการด้านสวัสดิการของลุกจ้างในสถานประกอบกิจการ และแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ประกอบด้วย การมีนโยบายให้ความรู้ในการป้องกันการแพร่ระบาด มีนโยบายไม่เลือกปฎิบัติ ไม่กีดกันผู้ติดเชื้อเอช ไอวี ในการทำงาน และช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอช ไอ วี ผู้ป่วยเอดส์และวัณโรคให้เข้าถึงระบบการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสมาคมแนวร่วมธุรกิจไทยต้านภัยเอดส์ หน่วยงานภาครัฐ เอกชนและองค์กรต่างๆ จนสามารถดำเนินงานได้ลุล่วงอย่างเป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ตามสำหรับการจัดกิจกรรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้น ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มรุ้งอันดามันภูเก็ตเป็นผู้ดำเนินการจัดทำโครงการมาตั้งแค่ปี 2549 ซึ่งมีสถานประกอบกิจการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานแล้ว 74 แห่ง ส่วนในปี 2552 มีสถานประกอบกิจการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการบริหารจัดการด้านเอดส์ (ASO-Thailand) จำนวน 20 แห่ง และมาตรฐานการบริหารจัดการด้านเอดส์และวัณโรค (ASO-T Thailand) จำนวน 29แห่ง
