กระบี่ - ผู้ประกอบการท่องเที่ยว อ้อนสถาบันการเงินอุ้มก่อนพัง เหตุ นักท่องเที่ยวเข้าพักน้อย ไม่คุ้มทุน
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว บ.เกาะพีพีทัวร์ กล่าวถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภายในจังหวัดกระบี่ ที่มีจำนวนลดลง ว่า เหตุการณ์นี้เป็นผลพวงมาจากภาวการณ์ของการเมืองที่อ่อนแอ และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งได้ส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมถึงจังหวัดกระบี่ เนื่องจากธุริกจท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่อ่อนไหวง่าย ทั้งที่สินค้าท่องเที่ยวยังดีเหมือนเดิม ทะเลสวยเหมือนเดิม แต่นักท่องเที่ยวขาดความเชื่อมั่นที่จะเดินทางเข้ามา จึงก่อให้เกิดผลกระทบที่รุนแรง ยิ่งกว่าสึนามิ และโรคซาร์ส ที่เคยเกิดมาแล้วเมื่อหลายปีที่ผ่านมา
ผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวกระบี่น้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงหน้าไฮซีซัน จากจำนวนห้องพักที่มีอยู่ประมาณ 1,5000 ห้อง ปกติต่ำสุดในช่วงหน้าไฮซีซัน ระหว่างเดือน พ.ย.-พ.ค.ของทุกปี อัตราเฉลี่ยการเข้าพักของนักท่องเที่ยว อยู่ที่ประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 25,500คนต่อวัน แต่ ณ วันนี้ เฉลี่ยนักท่องเที่ยวเข้าพักเหลืออยู่ประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ เฉลี่ยเหลือ 4,500 ห้อง หรือวันละ 9,000 คน จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าพักมีจำนวนน้อย อาจจะทำให้โรงแรมที่เปิดใหม่อาจจะล้มได้ เพราะไม่คุ้มทุนในการดำเนินธุรกิจ
นายชำนาญ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ภาครัฐจะต้องช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยในส่วนของท้องถิ่น อบต.เทศบาล หรือ อบจ.อาจจะลดภาษีโรงเรือน หรือโรงแรมต่างๆ ลง ซึ่งเป็นอำนาจของท้องถิ่นที่สามารถตัดสินใจได้ทันที ส่วนในระดับชาติ อาจจะลดภาษีแวต หรือไม่ ต้องใช้เวลานาน แต่หากมัวรีรอนานไปอาจจะช่วยผู้ประกอบการไม่ทัน
ในส่วนภาครัฐ ที่เกี่ยวข้องกับข้องกับท่องเที่ยว อย่าง ททท.ก็ควรจะช่วยเหลือในเรื่องของตลาด โดยหนุนคนไทยเที่ยวไทย เหมือนที่เคยทำไว้ในช่วงวิกฤตที่ผ่านมา เพื่อให้คนไทยเที่ยวไทยก่อนที่จะออกไปเที่ยวต่างประเทศ จัดโรดโชว์ระหว่างภูมิภาค ใต้เที่ยวอีสาน หรืออีสานเที่ยวใต้ ซึ่งจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง
“สำหรับในส่วนของสถานบันการเงินก็ควรจะพักเงินต้น โดยผ่อนเฉพาะดอกเบี้ยออกไปก่อน ประมาณ สัก 1 ปี เพื่อพยุงสถานประกอบการให้ประกอบกิจการต่อไปได้ เพราะไม่อย่างนั้นทางสถานประกอบการต้องเลย์ออฟพนักงานอย่างแน่นอน เพราะไม่สามารถทนแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาได้ และเมื่อมีคนตกงาน ปัญหาสังคมและปัญหาอื่นๆก็จะตามมาอีกมาก ลูกค้าเอ็นพีแอล จากภาคท่องเที่ยวมีน้อยมาก ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบไปทั่วโลก ประกอบกับเหตุการณ์ภายในประเทศซ้ำเติมอีก มันแย่ เหมือนปรมาณูตกใส่ หากธนาคารเข้ามาช่วยเหลือตรงนี้ก็จะช่วยทุเลาไปได้บ้าง จะไม่มีภาวะลูกจ้างตกงานเกิดขึ้น”
ในฐานะทำธุรกิจท่องเที่ยวที่กระบี่ ในภาวะเช่นนี้รู้ดีว่าจะต้องช่วยเหลือตัวเอง โดยในช่วงนี้สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวได้ร่วมกับสมาคมรงแรม จัดโปรโมชันราคาพิเศษ กระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในจังหวัด ไทยช่วยไทยจัดแพกเกจราคาพิเศษถูกสุดๆ มาเที่ยวช่วงหน้าไฮซีซัน เหมือนเที่ยวช่วงหน้าโลว์ ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาช่วงหน้าไฮซีซัน ราคาจะที่พักจะสูงขึ้นตามสถานะของโรงแรม เมื่อเกิดภาวะวิกฤตขึ้นก็เป็นโอกาสดีของนักท่องเที่ยวไทยจะได้เข้าพักในราคาพิเศษ เพราะช่วงหน้าไฮซีซันเป็นช่วงที่น่าเที่ยวที่สุดๆ ทะเลสวย คลื่นลมสงบ กิจกรรมดำน้ำทำได้สะดวก แต่จ่ายเหมือนช่วงหน้าโลว์ซีซัน
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว บ.เกาะพีพีทัวร์ กล่าวถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภายในจังหวัดกระบี่ ที่มีจำนวนลดลง ว่า เหตุการณ์นี้เป็นผลพวงมาจากภาวการณ์ของการเมืองที่อ่อนแอ และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งได้ส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมถึงจังหวัดกระบี่ เนื่องจากธุริกจท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่อ่อนไหวง่าย ทั้งที่สินค้าท่องเที่ยวยังดีเหมือนเดิม ทะเลสวยเหมือนเดิม แต่นักท่องเที่ยวขาดความเชื่อมั่นที่จะเดินทางเข้ามา จึงก่อให้เกิดผลกระทบที่รุนแรง ยิ่งกว่าสึนามิ และโรคซาร์ส ที่เคยเกิดมาแล้วเมื่อหลายปีที่ผ่านมา
ผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวกระบี่น้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงหน้าไฮซีซัน จากจำนวนห้องพักที่มีอยู่ประมาณ 1,5000 ห้อง ปกติต่ำสุดในช่วงหน้าไฮซีซัน ระหว่างเดือน พ.ย.-พ.ค.ของทุกปี อัตราเฉลี่ยการเข้าพักของนักท่องเที่ยว อยู่ที่ประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 25,500คนต่อวัน แต่ ณ วันนี้ เฉลี่ยนักท่องเที่ยวเข้าพักเหลืออยู่ประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ เฉลี่ยเหลือ 4,500 ห้อง หรือวันละ 9,000 คน จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าพักมีจำนวนน้อย อาจจะทำให้โรงแรมที่เปิดใหม่อาจจะล้มได้ เพราะไม่คุ้มทุนในการดำเนินธุรกิจ
นายชำนาญ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ภาครัฐจะต้องช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยในส่วนของท้องถิ่น อบต.เทศบาล หรือ อบจ.อาจจะลดภาษีโรงเรือน หรือโรงแรมต่างๆ ลง ซึ่งเป็นอำนาจของท้องถิ่นที่สามารถตัดสินใจได้ทันที ส่วนในระดับชาติ อาจจะลดภาษีแวต หรือไม่ ต้องใช้เวลานาน แต่หากมัวรีรอนานไปอาจจะช่วยผู้ประกอบการไม่ทัน
ในส่วนภาครัฐ ที่เกี่ยวข้องกับข้องกับท่องเที่ยว อย่าง ททท.ก็ควรจะช่วยเหลือในเรื่องของตลาด โดยหนุนคนไทยเที่ยวไทย เหมือนที่เคยทำไว้ในช่วงวิกฤตที่ผ่านมา เพื่อให้คนไทยเที่ยวไทยก่อนที่จะออกไปเที่ยวต่างประเทศ จัดโรดโชว์ระหว่างภูมิภาค ใต้เที่ยวอีสาน หรืออีสานเที่ยวใต้ ซึ่งจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง
“สำหรับในส่วนของสถานบันการเงินก็ควรจะพักเงินต้น โดยผ่อนเฉพาะดอกเบี้ยออกไปก่อน ประมาณ สัก 1 ปี เพื่อพยุงสถานประกอบการให้ประกอบกิจการต่อไปได้ เพราะไม่อย่างนั้นทางสถานประกอบการต้องเลย์ออฟพนักงานอย่างแน่นอน เพราะไม่สามารถทนแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาได้ และเมื่อมีคนตกงาน ปัญหาสังคมและปัญหาอื่นๆก็จะตามมาอีกมาก ลูกค้าเอ็นพีแอล จากภาคท่องเที่ยวมีน้อยมาก ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบไปทั่วโลก ประกอบกับเหตุการณ์ภายในประเทศซ้ำเติมอีก มันแย่ เหมือนปรมาณูตกใส่ หากธนาคารเข้ามาช่วยเหลือตรงนี้ก็จะช่วยทุเลาไปได้บ้าง จะไม่มีภาวะลูกจ้างตกงานเกิดขึ้น”
ในฐานะทำธุรกิจท่องเที่ยวที่กระบี่ ในภาวะเช่นนี้รู้ดีว่าจะต้องช่วยเหลือตัวเอง โดยในช่วงนี้สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวได้ร่วมกับสมาคมรงแรม จัดโปรโมชันราคาพิเศษ กระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในจังหวัด ไทยช่วยไทยจัดแพกเกจราคาพิเศษถูกสุดๆ มาเที่ยวช่วงหน้าไฮซีซัน เหมือนเที่ยวช่วงหน้าโลว์ ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาช่วงหน้าไฮซีซัน ราคาจะที่พักจะสูงขึ้นตามสถานะของโรงแรม เมื่อเกิดภาวะวิกฤตขึ้นก็เป็นโอกาสดีของนักท่องเที่ยวไทยจะได้เข้าพักในราคาพิเศษ เพราะช่วงหน้าไฮซีซันเป็นช่วงที่น่าเที่ยวที่สุดๆ ทะเลสวย คลื่นลมสงบ กิจกรรมดำน้ำทำได้สะดวก แต่จ่ายเหมือนช่วงหน้าโลว์ซีซัน
