พัทลุง – ปศุสัตว์จังหวัดพัทลุง หวั่นโรคปาก-เท้าเปื่อย ระบาดจังหวัดใกล้เคียง วอนผู้ว่าฯพัทลุง ปิดสนามชนโคป้องกัน
วันนี้ (12 ธ.ค.) นายไพโรจน์ อินทรศรี ปศุสัตว์จังหวัดพัทลุง กล่าวว่า จากการที่เกิดฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมขังติดต่อกันหลายวัน จนทำให้โคเนื้อ โคนม และโคพื้นเมือง เป็นโรคปากและเท้าเปื่อยในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.กงหรา อ.เมืองพัทลุง และอำเภอเขาชัยสน ประมาณเกือบ 200 ตัว และตายไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลัง เร่งควบคุมการระบาดของโรค
อย่างไรก็ตาม การป่วยของโคในพื้นที่ ต.ท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง โดยเฉพาะในโคชนของชาวบ้าน ซี่งอยู่ใกล้กับสนามชนโคบ้านท่ามิหรำนั้น จัดเป็นจุดเสี่ยงที่จะมีการแพร่เชื้อของโรคปากและเท้าเปื่อยไปยังต่างจังหวัดได้ เนื่องจากสนามชนโคเป็นบ่อนชนโคที่มีชื่อเสียงของภาคใต้ และมีโคจากต่างจังหวัดนำมาชนหลายตัว โคชนแต่ละตัวเจ้าของไม่นิยมการฉีควัคชีน และมีการเคลื่อนย้ายสัตว์บ่อยครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ควบการแพร่ระบาดของโรคได้ยาก
นายไพโรจน์ กล่าวอีกว่า ตนเกรงว่าการชนโคในสนามชนโคบ้านท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง ที่จะมีการชนกันในระหว่างวันที่ 18-19 ธันวาคม นี้ จะเป็นการแพร่ระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยไปยังต่างจังหวัดใกล้เคียง ส่งผลให้โคที่เป็นโรคดังกล่าวมีสูงขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้ทำหนังสือเรียน นายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ระงับการชนโคในวันดังกล่าว เพื่อป้องกันการลุกลามของโรคปาก-เท้าเปื่อย ไปสู่จังหวัดใกล้เคียง
แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบรับจากผู้ว่าราชการจังหวัดแต่อย่างใด
วันนี้ (12 ธ.ค.) นายไพโรจน์ อินทรศรี ปศุสัตว์จังหวัดพัทลุง กล่าวว่า จากการที่เกิดฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมขังติดต่อกันหลายวัน จนทำให้โคเนื้อ โคนม และโคพื้นเมือง เป็นโรคปากและเท้าเปื่อยในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.กงหรา อ.เมืองพัทลุง และอำเภอเขาชัยสน ประมาณเกือบ 200 ตัว และตายไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลัง เร่งควบคุมการระบาดของโรค
อย่างไรก็ตาม การป่วยของโคในพื้นที่ ต.ท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง โดยเฉพาะในโคชนของชาวบ้าน ซี่งอยู่ใกล้กับสนามชนโคบ้านท่ามิหรำนั้น จัดเป็นจุดเสี่ยงที่จะมีการแพร่เชื้อของโรคปากและเท้าเปื่อยไปยังต่างจังหวัดได้ เนื่องจากสนามชนโคเป็นบ่อนชนโคที่มีชื่อเสียงของภาคใต้ และมีโคจากต่างจังหวัดนำมาชนหลายตัว โคชนแต่ละตัวเจ้าของไม่นิยมการฉีควัคชีน และมีการเคลื่อนย้ายสัตว์บ่อยครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ควบการแพร่ระบาดของโรคได้ยาก
นายไพโรจน์ กล่าวอีกว่า ตนเกรงว่าการชนโคในสนามชนโคบ้านท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง ที่จะมีการชนกันในระหว่างวันที่ 18-19 ธันวาคม นี้ จะเป็นการแพร่ระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยไปยังต่างจังหวัดใกล้เคียง ส่งผลให้โคที่เป็นโรคดังกล่าวมีสูงขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้ทำหนังสือเรียน นายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ระงับการชนโคในวันดังกล่าว เพื่อป้องกันการลุกลามของโรคปาก-เท้าเปื่อย ไปสู่จังหวัดใกล้เคียง
แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบรับจากผู้ว่าราชการจังหวัดแต่อย่างใด
