พัทลุง – นายอำเภอพร้อมด้วยชาวบ้านลงพื้นที่ตรวจสอบ ร้องบ่อขยะเทศบาลปล่อยน้ำเสียลงทะเลสงขลา วอนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามระเบียบของกระทรวงวิทยาศาสตร์ เนื่องจากที่ผ่านมาบ่อขยะไม่ได้รับการดูแลเลย
วันนี้ (18 พ.ย.) นายนิพนธ์ สกลวารี นายอำเภอเมืองพัทลุง นายวาทิตย์ ไพศาลศิลป์ รองนายกเทศมนตรีเมืองพัทลุง พร้อมชาวบ้าน ม.6, 9 และ 10 ต.ลำปำอ.เมืองพัทลุง จำนวนหนึ่ง ลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อขยะเทศบาลเมืองพัทลุง ตามเรื่องร้องเรียนของชาวบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการล่ารายชื่อชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจำนวนกว่า 300 ราย โดยได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามระเบียบของกระทรวงวิทยาศาสตร์ คือ ต้องมีการคัดแยกขยะ แล้วทำการฝังกลบ สุดท้ายต้องมีการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยสู่ลำคลอง
นอกจากนี้ จะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่เดือนละ 1 ครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาบ่อขยะไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร แม้จะมีชาวบ้านร้องเรียนบ่อยๆ ก็ตาม จนทนไม่ไหวออกมาร้องเรียนดังกล่าว
นายจิตร เคลือบเพชร อายุ 56 ปี แกนนำ อยู่บ้านเลขที่ 43 ม.6 ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ขยะของเทศบาลเมืองพัทลุงกำลังล้นคันบ่อ และการฝังกลบไม่ดีเมื่อยามฝนตกทำให้เกิดการชะล้างสิ่งปฏิกูลไหลมาตามสายน้ำลงสู่ลำคลองและลงสู่ทะเลสาบสงขลา โดยไม่ได้ผ่านการบำบัดตามระเบียบของกระทรวงวิทยาศาสตร์ ซึ่งขณะนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบนิเวศในทะเลสาบลำปำ ฝูงปลาลดจำนวนลง ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่มีปลาให้จับขายจนไม่มีรายได้
นายจิตร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ปริมาณขยะของอำเภอเมืองก็มีมากพออยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องรับขยะเพิ่มจากอำเภออื่นในบริเวณรอบนอกอีก โดยให้ทางอำเภอหรือท้องถิ่นนั้นๆ บริหารจัดการขยะกันเอง และที่สำคัญบ่อสุดท้ายก่อนปล่อยน้ำทิ้งลงสู่ลำคลองต้องเลี้ยงปลาได้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามที่ชาวบ้านร้องขอ
วันนี้ (18 พ.ย.) นายนิพนธ์ สกลวารี นายอำเภอเมืองพัทลุง นายวาทิตย์ ไพศาลศิลป์ รองนายกเทศมนตรีเมืองพัทลุง พร้อมชาวบ้าน ม.6, 9 และ 10 ต.ลำปำอ.เมืองพัทลุง จำนวนหนึ่ง ลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อขยะเทศบาลเมืองพัทลุง ตามเรื่องร้องเรียนของชาวบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการล่ารายชื่อชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจำนวนกว่า 300 ราย โดยได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามระเบียบของกระทรวงวิทยาศาสตร์ คือ ต้องมีการคัดแยกขยะ แล้วทำการฝังกลบ สุดท้ายต้องมีการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยสู่ลำคลอง
นอกจากนี้ จะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่เดือนละ 1 ครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาบ่อขยะไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร แม้จะมีชาวบ้านร้องเรียนบ่อยๆ ก็ตาม จนทนไม่ไหวออกมาร้องเรียนดังกล่าว
นายจิตร เคลือบเพชร อายุ 56 ปี แกนนำ อยู่บ้านเลขที่ 43 ม.6 ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ขยะของเทศบาลเมืองพัทลุงกำลังล้นคันบ่อ และการฝังกลบไม่ดีเมื่อยามฝนตกทำให้เกิดการชะล้างสิ่งปฏิกูลไหลมาตามสายน้ำลงสู่ลำคลองและลงสู่ทะเลสาบสงขลา โดยไม่ได้ผ่านการบำบัดตามระเบียบของกระทรวงวิทยาศาสตร์ ซึ่งขณะนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบนิเวศในทะเลสาบลำปำ ฝูงปลาลดจำนวนลง ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่มีปลาให้จับขายจนไม่มีรายได้
นายจิตร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ปริมาณขยะของอำเภอเมืองก็มีมากพออยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องรับขยะเพิ่มจากอำเภออื่นในบริเวณรอบนอกอีก โดยให้ทางอำเภอหรือท้องถิ่นนั้นๆ บริหารจัดการขยะกันเอง และที่สำคัญบ่อสุดท้ายก่อนปล่อยน้ำทิ้งลงสู่ลำคลองต้องเลี้ยงปลาได้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามที่ชาวบ้านร้องขอ
