ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ประกอบการเรือประมง แพปลาและอุตสาหกรรมจับมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาราคาสินค้าสัตว์น้ำตกต่ำ โดยผู้แทนกรมประมงรับปากจะนำปัญหาที่ชาวประมงเดือดร้อนเสนอรัฐบาลแก้ไขเป็นการเร่งด่วน โดยเฉพาะในเรื่องเงินกองทุน คชก.เพื่อนำมาแก้ปัญหาในการประกันราคาสินค้าสัตว์น้ำ รวมทั้งหาพื้นที่ทำการประมงในน่านน้ำประเทศอินโดนีเซีย โดยคณะทำงานของกรมประมงจะเดินทางไปหารือนอกรอบ ที่อินโดนีเซียในเร็วๆ นี้
วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมองค์การสะพานปลา ท่าเทียบเรือประมงสงขลา เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายพานิชย์ สังข์เกษม ผู้ตรวจราชการกรมประมง นายประพร เอกอุรุ นายกสมาคมประมง จ.สงขลา และนางยุคนธร พงศ์ศุภผลกิจ พาณิชย์จังหวัดสงขลา ได้เชิญผู้ประกอบการเรือประมง แพปลาและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการประมง เพื่อร่วมแก้ปัญหาราคาสินค้าสัตว์น้ำตกต่ำ โดยเฉพาะปลาโรงงาน 4 ตัวหลัก ที่นับวันราคายิ่งตกต่ำลงจนชาวประมงเกือบจะอยู่ไม่ได้ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันจะลดลงแล้วก็ตาม แต่ราคาปลาที่ทางโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำมีความต้องการมากกลับราคาดิ่งลงมา
หลังจากที่กลุ่มชาวประมงสงขลาได้ชุมนุมประท้วงเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2551 เรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาราคาสินค้าสัตว์น้ำตกต่ำ เนื่องจากที่ผ่านมาภาครัฐไม่ได้ให้ความสำคัญกับราคาสัตว์น้ำ ซึ่งตกต่ำสวนทางกับต้นทุนการผลิต ผู้ประกอบการเรือประมงต้องแบกรับภาระและหาทางแก้ปัญหากันเองเพื่อความอยู่รอด
ทั้งนี้ ได้ขอให้พาณิชย์จังหวัดสงขลาทำเรื่องเสนอ เพื่อประกันราคาสินค้าสัตว์น้ำโดยใช้เงิน คชก.เพื่อให้ชาวประมงสามารถทำการประมงต่อไปได้โดยไม่ขาดทุน รวมทั้งกรมประมงจะได้จัดหาพื้นที่ทำการประมงในน่านน้ำประเทศอินโดนีเซีย โดยคณะทำงานของกรมประมงจะเดินทางไปหารือนอกรอบที่อินโดนีเซียในเร็วๆ นี้ เพื่อนำข้อเสนอของอินโดนีเซียมาพิจารณานำเสนอรัฐบาล ในการที่จะมีการประชุมร่วมไทย-อินโดนีเซีย ระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล
นายประพร เอกอุรุ นายกสมาคมประมง จ.สงขลา กล่าวว่า ในขณะนี้ราคาสินค้าสัตว์น้ำที่ชาวประมงจับมาได้ก็มีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปลาโรงงาน 4 ตัวหลักที่ทางโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำมีความต้องการมากคือ ปลาแดงเล็ก เหลือ กก.ละ 14.00 บาท ปลาแดงใหญ่ เหลือ กก.ละ 21.50 บาท, ปลาตาหวาน เหลือ กก.ละ 11.50 บาท และปลาเหรน เหลือ กก.ละ 12.50 บาท ซึ่งปลาโรงงานทั้ง 4 ตัว ราคาลดลงทุกตัว กว่า 50% และยังมีลดราคาลงอีกทุกชนิดอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้มีการเสนอแนะหาทางออกเพื่อให้ชาวประมงอยู่รอดซึ่งก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล หรืออาจจะรอดูท่าทีการเมืองเพื่อรอรัฐบาลใหม่ แต่ขอให้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะแก้ปัญหาให้กับชาวประมง โดยที่ชาวประมงจะไม่ต้องลุกขึ้นมารวมตัวกัน ชุมนุมประท้วงรัฐบาลอีกรอบ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาดูแลและช่วยเหลือชาวประมง ในการควบคุมราคาสินค้าสัตว์น้ำให้มีความยุติธรรม
วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมองค์การสะพานปลา ท่าเทียบเรือประมงสงขลา เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายพานิชย์ สังข์เกษม ผู้ตรวจราชการกรมประมง นายประพร เอกอุรุ นายกสมาคมประมง จ.สงขลา และนางยุคนธร พงศ์ศุภผลกิจ พาณิชย์จังหวัดสงขลา ได้เชิญผู้ประกอบการเรือประมง แพปลาและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการประมง เพื่อร่วมแก้ปัญหาราคาสินค้าสัตว์น้ำตกต่ำ โดยเฉพาะปลาโรงงาน 4 ตัวหลัก ที่นับวันราคายิ่งตกต่ำลงจนชาวประมงเกือบจะอยู่ไม่ได้ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันจะลดลงแล้วก็ตาม แต่ราคาปลาที่ทางโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำมีความต้องการมากกลับราคาดิ่งลงมา
หลังจากที่กลุ่มชาวประมงสงขลาได้ชุมนุมประท้วงเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2551 เรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาราคาสินค้าสัตว์น้ำตกต่ำ เนื่องจากที่ผ่านมาภาครัฐไม่ได้ให้ความสำคัญกับราคาสัตว์น้ำ ซึ่งตกต่ำสวนทางกับต้นทุนการผลิต ผู้ประกอบการเรือประมงต้องแบกรับภาระและหาทางแก้ปัญหากันเองเพื่อความอยู่รอด
ทั้งนี้ ได้ขอให้พาณิชย์จังหวัดสงขลาทำเรื่องเสนอ เพื่อประกันราคาสินค้าสัตว์น้ำโดยใช้เงิน คชก.เพื่อให้ชาวประมงสามารถทำการประมงต่อไปได้โดยไม่ขาดทุน รวมทั้งกรมประมงจะได้จัดหาพื้นที่ทำการประมงในน่านน้ำประเทศอินโดนีเซีย โดยคณะทำงานของกรมประมงจะเดินทางไปหารือนอกรอบที่อินโดนีเซียในเร็วๆ นี้ เพื่อนำข้อเสนอของอินโดนีเซียมาพิจารณานำเสนอรัฐบาล ในการที่จะมีการประชุมร่วมไทย-อินโดนีเซีย ระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล
นายประพร เอกอุรุ นายกสมาคมประมง จ.สงขลา กล่าวว่า ในขณะนี้ราคาสินค้าสัตว์น้ำที่ชาวประมงจับมาได้ก็มีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปลาโรงงาน 4 ตัวหลักที่ทางโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำมีความต้องการมากคือ ปลาแดงเล็ก เหลือ กก.ละ 14.00 บาท ปลาแดงใหญ่ เหลือ กก.ละ 21.50 บาท, ปลาตาหวาน เหลือ กก.ละ 11.50 บาท และปลาเหรน เหลือ กก.ละ 12.50 บาท ซึ่งปลาโรงงานทั้ง 4 ตัว ราคาลดลงทุกตัว กว่า 50% และยังมีลดราคาลงอีกทุกชนิดอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้มีการเสนอแนะหาทางออกเพื่อให้ชาวประมงอยู่รอดซึ่งก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล หรืออาจจะรอดูท่าทีการเมืองเพื่อรอรัฐบาลใหม่ แต่ขอให้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะแก้ปัญหาให้กับชาวประมง โดยที่ชาวประมงจะไม่ต้องลุกขึ้นมารวมตัวกัน ชุมนุมประท้วงรัฐบาลอีกรอบ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาดูแลและช่วยเหลือชาวประมง ในการควบคุมราคาสินค้าสัตว์น้ำให้มีความยุติธรรม