ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ประธานชมรมธนาคารจังหวัดภูเก็ต ยังเชื่อมั่นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในปีหน้าจะส่งผลกระทบต่อภูเก็ตแต่ไม่มากนัก ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองมีความเห็นสอดคล้องภาคเอกชนองค์กรใหญ่ของประเทศ ทั้งหอการค้าไทย และสภาอุตสาหกรรมไทย เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคการเมืองควรมีการเปลี่ยนขั้วเพื่อบ้านเมืองจะได้เดินหน้า
นายพูนสิน สินธนภัทร ประธานชมรมธนาคารจังหวัดภูเก็ต และผู้อำนวยการธนาคารธนชาตภูเก็ต กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคการเมืองแกนนำรัฐบาลชุดก่อนว่า การเมืองควรจะต้องมีการเปลี่ยนขั้วแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากจะลดความวุ่นวายทางการเมืองเพราะถ้าหากรัฐบาลจากพรรคพลังประชาชนเดิมกลับมาจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง กลุ่มพันธมิตรฯ จะกลับมาชุมนุมประท้วงอีก ส่วนรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาต้องสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น โดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมกับเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นต่อต่างชาติ
ประธานชมรมธนาคารจังหวัดภูเก็ต ยังกล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตและฝั่งอันดามัน จากผลกระทบความวุ่นวายทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจโลกว่า เหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองของไทย ซึ่งส่งผลให้มีการยกเลิกการเดินทางเข้าพื้นที่ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ นั้น คาดว่าในช่วงไฮซีซันปีนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางประมาณ 20% เท่านั้น
สิ่งที่ส่งผลกระทบมากกว่านั้น คือ ปัญหาสภาวะเศรษฐกิจโลก ที่ทำให้ชาวยุโรปและสหรัฐฯชะลอการเดินทางมาท่องเที่ยว ทั้งนี้ผลกระทบที่เกิดในปีนี้ที่เห็นได้ชัด คือยอดการเช่าซื้อรถยนต์ในฝั่งอันดามันในเดือนตุลาคม พฤศจิกายนที่ผ่านมาลงลด 20% จากเดือนละประมาณ 1,000 คัน เหลือเพียงเดือนละ 700 คัน
ส่วนสถานการณ์ด้านการลงทุนของต่างชาติในพื้นที่ มองว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงน้อยถ้าเปรียบเทียบกับปี 50 เนื่องจากในปี 50 นักลงทุนต่างชาติบางส่วนได้มีการยกเลิกการลงทุนไปบ้างภายหลังเกิดการรัฐประหารเมื่อปี 25549 ทำให้ช่วงภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซาจึงไม่เห็นการไหลออกของทุนต่างชาติจากจังหวัดภูเก็ตมากนัก เช่นเดียวกับการเข้ามาลงทุนเชื่อว่ามีไม่มากเช่นกัน
ทั้งนี้ ปัญหาภาวะเศรษฐกิจภาคเอกชนต้องมีการปรับตัวช่วยเหลือตัวเองมากขึ้น ที่สำคัญรัฐบาลต้องอัดฉีดโครงการเมกะโปรเจกต์ ก่อให้เกิดการลงทุนในพื้นที่ และต้องทำให้ต่างชาติเกิดความเชื่อมั่นโดยเร็ว ซึ่งจะทำให้การลงทุนและการท่องเที่ยวกลับคืนมา และเชื่อว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีความเข้มแข็งสามารถรวมตัวกันเอาตัวรอดฝ่าวิกฤตไปได้
นายพูนสิน สินธนภัทร ประธานชมรมธนาคารจังหวัดภูเก็ต และผู้อำนวยการธนาคารธนชาตภูเก็ต กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคการเมืองแกนนำรัฐบาลชุดก่อนว่า การเมืองควรจะต้องมีการเปลี่ยนขั้วแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากจะลดความวุ่นวายทางการเมืองเพราะถ้าหากรัฐบาลจากพรรคพลังประชาชนเดิมกลับมาจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง กลุ่มพันธมิตรฯ จะกลับมาชุมนุมประท้วงอีก ส่วนรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาต้องสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น โดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมกับเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นต่อต่างชาติ
ประธานชมรมธนาคารจังหวัดภูเก็ต ยังกล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตและฝั่งอันดามัน จากผลกระทบความวุ่นวายทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจโลกว่า เหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองของไทย ซึ่งส่งผลให้มีการยกเลิกการเดินทางเข้าพื้นที่ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ นั้น คาดว่าในช่วงไฮซีซันปีนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางประมาณ 20% เท่านั้น
สิ่งที่ส่งผลกระทบมากกว่านั้น คือ ปัญหาสภาวะเศรษฐกิจโลก ที่ทำให้ชาวยุโรปและสหรัฐฯชะลอการเดินทางมาท่องเที่ยว ทั้งนี้ผลกระทบที่เกิดในปีนี้ที่เห็นได้ชัด คือยอดการเช่าซื้อรถยนต์ในฝั่งอันดามันในเดือนตุลาคม พฤศจิกายนที่ผ่านมาลงลด 20% จากเดือนละประมาณ 1,000 คัน เหลือเพียงเดือนละ 700 คัน
ส่วนสถานการณ์ด้านการลงทุนของต่างชาติในพื้นที่ มองว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงน้อยถ้าเปรียบเทียบกับปี 50 เนื่องจากในปี 50 นักลงทุนต่างชาติบางส่วนได้มีการยกเลิกการลงทุนไปบ้างภายหลังเกิดการรัฐประหารเมื่อปี 25549 ทำให้ช่วงภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซาจึงไม่เห็นการไหลออกของทุนต่างชาติจากจังหวัดภูเก็ตมากนัก เช่นเดียวกับการเข้ามาลงทุนเชื่อว่ามีไม่มากเช่นกัน
ทั้งนี้ ปัญหาภาวะเศรษฐกิจภาคเอกชนต้องมีการปรับตัวช่วยเหลือตัวเองมากขึ้น ที่สำคัญรัฐบาลต้องอัดฉีดโครงการเมกะโปรเจกต์ ก่อให้เกิดการลงทุนในพื้นที่ และต้องทำให้ต่างชาติเกิดความเชื่อมั่นโดยเร็ว ซึ่งจะทำให้การลงทุนและการท่องเที่ยวกลับคืนมา และเชื่อว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีความเข้มแข็งสามารถรวมตัวกันเอาตัวรอดฝ่าวิกฤตไปได้