ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จากสถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้ กรมปศุสัตว์ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ให้การสนับสนุนเสบียงอาหารสัตว์ลงในพื้นที่ที่สัตว์เลี้ยงได้รับผลกระทบ เกษตรกรจึงควรเฝ้าระวังและดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงอย่างใกล้ชิด รวมทั้งการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก ที่ทำให้สัตว์ปีกตายผิดปกติ หากพบให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทันที
สัตวแพทย์หญิง โศภิษฐ์ ธัญลักษณากุล ผู้อำนวยการสำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 9 กล่าวว่า ปศุสัตว์จังหวัดในพื้นที่ที่ประกาศภัยพิบัติได้รายงานผลกระทบที่เกิดกับสัตว์เลี้ยง จนถึงขณะนี้ว่า พื้นที่แปลงหญ้าและทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ถูกน้ำท่วมขังหลายอำเภอทำให้ โค กระบือ ได้รับผลกระทบแล้ว มากกว่า 1 แสนตัว โดยเฉพาะพื้นที่ จ.พัทลุง และ จ.สงขลา ได้รับผลกระทบมาก เพราะมีพื้นที่อยู่รอบทะเลสาบ ซึ่งเป็นที่รับน้ำและระบายน้ำได้ช้า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร กรมปศุสัตว์ได้สนับสนุนหญ้าแห้งให้เกษตรกรในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างไปแล้วกว่า 300 ตัน
โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์นราธิวาส และสถานีพัฒนาอาหารสัตว์สตูล,ตรัง, พัทลุง ซึ่งรับผิดชอบเป็นผู้ดำเนินการสำรองเสบียงสัตว์ไว้ช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงเกิดภัยพิบัติ นอกจากนี้ หน่วยงานดังกล่าวยังให้การสนับสนุนหญ้าสดจากแปลงหญ้าของสถานีฯ ไปแล้วไม่น้อยกว่า 200 ตัน ซึ่งเกษตรกรสามารถไปติดต่อขอตัดหญ้าสดได้ ไม่เว้นวันหยุดราชการ
นอกจากเสบียงสัตว์ที่ได้รับการสนับสนุนให้เกษตรกรแล้ว กรมปศุสัตว์ ยังได้สำรองเวชภัณฑ์ให้กับจังหวัดต่างๆ เพื่อไว้บริการรักษาสัตว์ป่วย เพราะในช่วงน้ำท่วมอาจพบปัญหาโรคระบาดใน โค – กระบือ เกษตรกรจึงควรเฝ้าระวังและดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงอย่างใกล้ชิด รวมทั้งการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก ที่ทำให้สัตว์ปีกตายผิดปกติ หากพบให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทันที
สัตวแพทย์หญิง โศภิษฐ์ ธัญลักษณากุล ผู้อำนวยการสำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 9 กล่าวว่า ปศุสัตว์จังหวัดในพื้นที่ที่ประกาศภัยพิบัติได้รายงานผลกระทบที่เกิดกับสัตว์เลี้ยง จนถึงขณะนี้ว่า พื้นที่แปลงหญ้าและทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ถูกน้ำท่วมขังหลายอำเภอทำให้ โค กระบือ ได้รับผลกระทบแล้ว มากกว่า 1 แสนตัว โดยเฉพาะพื้นที่ จ.พัทลุง และ จ.สงขลา ได้รับผลกระทบมาก เพราะมีพื้นที่อยู่รอบทะเลสาบ ซึ่งเป็นที่รับน้ำและระบายน้ำได้ช้า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร กรมปศุสัตว์ได้สนับสนุนหญ้าแห้งให้เกษตรกรในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างไปแล้วกว่า 300 ตัน
โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์นราธิวาส และสถานีพัฒนาอาหารสัตว์สตูล,ตรัง, พัทลุง ซึ่งรับผิดชอบเป็นผู้ดำเนินการสำรองเสบียงสัตว์ไว้ช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงเกิดภัยพิบัติ นอกจากนี้ หน่วยงานดังกล่าวยังให้การสนับสนุนหญ้าสดจากแปลงหญ้าของสถานีฯ ไปแล้วไม่น้อยกว่า 200 ตัน ซึ่งเกษตรกรสามารถไปติดต่อขอตัดหญ้าสดได้ ไม่เว้นวันหยุดราชการ
นอกจากเสบียงสัตว์ที่ได้รับการสนับสนุนให้เกษตรกรแล้ว กรมปศุสัตว์ ยังได้สำรองเวชภัณฑ์ให้กับจังหวัดต่างๆ เพื่อไว้บริการรักษาสัตว์ป่วย เพราะในช่วงน้ำท่วมอาจพบปัญหาโรคระบาดใน โค – กระบือ เกษตรกรจึงควรเฝ้าระวังและดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงอย่างใกล้ชิด รวมทั้งการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก ที่ทำให้สัตว์ปีกตายผิดปกติ หากพบให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทันที
