ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้อำนวยการสำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 9 เตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคกระบือให้นำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอบวม หลังจากพบโรคระบาดดังกล่าวในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก
จากกรณีเกิดโรคเฮโมรายิกเซพติซีเมีย หรือโรคคอบวมระบาด ทำให้โคและกระบือ ในพื้นที่ 6 หมู่บ้าน ใน ต.ปูโยะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ที่เจ้าของเลี้ยงแบบปล่อยทุ่งในป่าพรุโต๊ะแดง ที่มีพื้นที่กว้างกว่า 1 แสนไร่ เกิดอาการป่วยและล้มตายลงอย่างต่อเนื่องจำนวน 127 ตัว และทางจังหวัดนราธิวาสได้ประกาศให้พื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เป็นเขตภัยพิบัติของโรคคอบวมของโคและกระบือระบาด
สัตวแพทย์หญิงโศภิษฐ์ ธัญลักษณากุล ผู้อำนวยการสำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 9 ซึ่งควบคุมรับผิดชอบในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง กล่าวว่า จากการที่ได้มีการเกิดโรคคอบวมหรือโรคเฮโมรายิกเซพติซีเมีย ระบาดในโค-กระบือ ที่อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ทางสำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 9 ร่วมกับปศุสัตว์จังหวัดนราธิวาส ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปควบคุมโรค โดยรณรงค์ฉีดวัคซีนโรคคอบวม
ซึ่งเกษตรกรส่วนหนึ่งได้ให้ความร่วมมือดี แต่ในกรณีที่เป็นโคกระบือที่ปล่อยทุ่งเลี้ยงแบบไม่มีคอกสัตว์ เป็นปัญหาในการควบคุมโรค อย่างไรก็ตาม จากการที่เกษตรกรมีความตื่นตัวนำโคกระบือมาฉีดวัคซีนการควบคุมโรคคงจะดำเนินการไปได้ อยากประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรได้นำโคกระบือมาฉีดวัคซีนทั้งที่ปศุสัตว์จังหวัดและปศุสัตว์อำเภอ
ในส่วนของพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ที่ยังไม่เกิดโรค ปกติจะมีการรณรงค์ฉีดวัคซีนประจำปีอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการระบาดของโรคขึ้นในบางจุด จะเน้นย้ำว่า บางพื้นที่ที่เกษตรกรยังไม่ได้นำโคกระบือมาฉีดวัคซีนก็ให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะลงไปดำเนินการให้ เพื่อเป็นการป้องกันโรคไว้ก่อน ขอขืนยันว่า ในขณะนี้ในจังหวัดอื่นยังไม่มีการแพร่ระบาดของโรคคอบวมแต่อย่างใด มีเฉพาะที่อำเภอสุไหงโก-ลกจุดเดียว
สำหรับการดูและโค-กระบือ เพื่อไม่ให้เกิดโรคคอบวม ต้องยอมรับว่า ในภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง ในช่วงที่มีฝนตกหรือน้ำท่วม ตรงนี้ขอให้ระมัดระวัง เนื่องจากในสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงสัตว์เลี้ยงอาจเกิดภาวะที่อ่อนแอ ทำให้มีปัญหาในเรื่องโรค อาจจะเกิดโรค เกิดปัญหาโรคระบาดการแพร่กระจายของโรคจะง่ายขึ้น บางช่วงโรคอาจจะมากับน้ำได้ ดังนั้นเกษตรกรที่เลี้ยงโค-กระบือ คงจะต้องนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนไว้ล่วงหน้า
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สามารถดำเนินการได้โดยใช้บริการจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดและปศุสัตว์อำเภอ ส่วนสัตว์เลี้ยงที่คิดว่าเคยฉีดวัคซีนแล้วและครบรอบในการป้องกันโรคสามารถที่จะติดต่อให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการฉีดวัคซีนให้ถ้าสามารถฉีดวัคซีนได้ทุกตัวก็จะเป็นการดีมาก เพราะสามารถป้องกันโรคได้ 100%
จากกรณีเกิดโรคเฮโมรายิกเซพติซีเมีย หรือโรคคอบวมระบาด ทำให้โคและกระบือ ในพื้นที่ 6 หมู่บ้าน ใน ต.ปูโยะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ที่เจ้าของเลี้ยงแบบปล่อยทุ่งในป่าพรุโต๊ะแดง ที่มีพื้นที่กว้างกว่า 1 แสนไร่ เกิดอาการป่วยและล้มตายลงอย่างต่อเนื่องจำนวน 127 ตัว และทางจังหวัดนราธิวาสได้ประกาศให้พื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เป็นเขตภัยพิบัติของโรคคอบวมของโคและกระบือระบาด
สัตวแพทย์หญิงโศภิษฐ์ ธัญลักษณากุล ผู้อำนวยการสำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 9 ซึ่งควบคุมรับผิดชอบในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง กล่าวว่า จากการที่ได้มีการเกิดโรคคอบวมหรือโรคเฮโมรายิกเซพติซีเมีย ระบาดในโค-กระบือ ที่อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ทางสำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยที่ 9 ร่วมกับปศุสัตว์จังหวัดนราธิวาส ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปควบคุมโรค โดยรณรงค์ฉีดวัคซีนโรคคอบวม
ซึ่งเกษตรกรส่วนหนึ่งได้ให้ความร่วมมือดี แต่ในกรณีที่เป็นโคกระบือที่ปล่อยทุ่งเลี้ยงแบบไม่มีคอกสัตว์ เป็นปัญหาในการควบคุมโรค อย่างไรก็ตาม จากการที่เกษตรกรมีความตื่นตัวนำโคกระบือมาฉีดวัคซีนการควบคุมโรคคงจะดำเนินการไปได้ อยากประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรได้นำโคกระบือมาฉีดวัคซีนทั้งที่ปศุสัตว์จังหวัดและปศุสัตว์อำเภอ
ในส่วนของพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ที่ยังไม่เกิดโรค ปกติจะมีการรณรงค์ฉีดวัคซีนประจำปีอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการระบาดของโรคขึ้นในบางจุด จะเน้นย้ำว่า บางพื้นที่ที่เกษตรกรยังไม่ได้นำโคกระบือมาฉีดวัคซีนก็ให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะลงไปดำเนินการให้ เพื่อเป็นการป้องกันโรคไว้ก่อน ขอขืนยันว่า ในขณะนี้ในจังหวัดอื่นยังไม่มีการแพร่ระบาดของโรคคอบวมแต่อย่างใด มีเฉพาะที่อำเภอสุไหงโก-ลกจุดเดียว
สำหรับการดูและโค-กระบือ เพื่อไม่ให้เกิดโรคคอบวม ต้องยอมรับว่า ในภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง ในช่วงที่มีฝนตกหรือน้ำท่วม ตรงนี้ขอให้ระมัดระวัง เนื่องจากในสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงสัตว์เลี้ยงอาจเกิดภาวะที่อ่อนแอ ทำให้มีปัญหาในเรื่องโรค อาจจะเกิดโรค เกิดปัญหาโรคระบาดการแพร่กระจายของโรคจะง่ายขึ้น บางช่วงโรคอาจจะมากับน้ำได้ ดังนั้นเกษตรกรที่เลี้ยงโค-กระบือ คงจะต้องนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนไว้ล่วงหน้า
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สามารถดำเนินการได้โดยใช้บริการจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดและปศุสัตว์อำเภอ ส่วนสัตว์เลี้ยงที่คิดว่าเคยฉีดวัคซีนแล้วและครบรอบในการป้องกันโรคสามารถที่จะติดต่อให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการฉีดวัคซีนให้ถ้าสามารถฉีดวัคซีนได้ทุกตัวก็จะเป็นการดีมาก เพราะสามารถป้องกันโรคได้ 100%
