ชาวไทยมุสลิมบ้านปึก จ.สงขลา หวั่นกุโบร์ถูกคลื่นซัดหาย

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สุสาน (กุโบร์) ชาวไทยมุสลิมบ้านปึก อ.จะนะ จ.สงขลา ยังถูกคลื่นซัดกระหน่ำ ถึงแม้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำหินขนาดใหญ่มาช่วยกั้นคลื่น แต่ก็วางหินไม่ถูกจุดทำให้ คลื่นซัดยังเข้าไปกัดเซาะสุสานอยู่ตลอดเวลา ชาวบ้านหวั่นกลัวที่ฝังศพบรรพบุรุษจะถูกคลื่นซัดหายไป

วันนี้ (3 ธ.ค.) จากสภาพคลื่นลมแรงในอ่าวไทย ทำให้ชายฝั่งจังหวัดสงขลามีคลื่นลมแรง โดยเฉพาะพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมาก จะเป็นสุสานฝังศพของพี่น้องชาวไทยมุสลิม ที่บ้านปึก หมู่ที่ 10 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา ถึงแม้ว่าแนว ชายฝั่งจะมีการสร้างแนวกันคลื่นของกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่บริเวณสุสานด้านติดทะเลไม่มีการสร้างเขื่อนกั้นคลื่นที่ได้มาตรฐาน มีเพียงเขื่อนหินขนาดใหญ่ที่วางไว้เป็นแนวกันคลื่น

ส่วนทางด้านทิศใต้ของสุสานที่เป็นจุดที่มีหินน้อยและวางระเกะระกะไม่เป็นเขื่อนกันคลื่น ทำให้คลื่นสามารถซัดเข้ามากัดเซาะสุสานได้ อีกทั้งแนวเขื่อนกั้นคลื่นที่ต่อเชื่อมกับสุสานทำให้แรงกระแทกของคลื่นตีกลับ และซัดกลับเข้าฝั่งใหม่อีกครั้ง ส่งผลให้ความแรงของคลื่นที่ซัดเข้าหาสุสานมีความแรงเพิ่มขึ้น 2 เท่า ทำให้คลื่นซัดเข้าหาสุสานตลอดเวลาทางด้านทิศใต้

ทั้งนี้ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีได้นำก้อนหินไปเสริมบริเวณใกล้แนวเขื่อนที่ต่อเชื่อมกับสุสาน แต่ไม่ได้นำหินลงไปเสริมที่สุสานถูกกัดเซาะ ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงของสุสานที่อาจจะถูกคลื่นซัดที่ฝังศพพังลงมาได้ เป็นการถมหินที่ผิดจุด ชาวบ้านปึก หวั่นเกรงว่า หากคลื่นแรงขึ้นกว่านี้สุสานแห่งนี้ จะค่อยๆถูกคลื่นกัดเซาะทุกวันและทุกเวลา จะค่อยๆหายไปกับน้ำทะเล

นายหมกตาด โส๊ะเหล๊ะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 บ้านปึก ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา กล่าวว่า พี่น้องชาวไทยมุสลิมมีความเป็นห่วง หลังจากที่กุโบร์ถูกคลื่นซัดกระหน่ำอย่างหนักอยู่หลายวัน และหน่วยงานที่รับผิดชอบคือ กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ก็ได้เข้ามาดูแลพร้อมนำก้อนหินมาช่วยเสริมให้ตรงรอยต่อกับแนวเขื่อนหินที่ได้มาตรฐาน แต่ไม่ได้เสริมตรงจุดที่สุสานถูกคลื่นซัด ส่งผลให้คลื่นซัดเข้าไปกัดเซาะสุสานอยู่ตลอดเวลา ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขเป็นการด่วนด้วย ก่อนที่หลุมฝังศพจะถูกคลื่นซัดหายไปอีกเหมือนเช่นปี 2547