ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – หอการค้าไทยประกาศเดินหน้า จัดงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 26 ซึ่งเปลี่ยนกำหนดการณ์กะทันหันเหลือเพียงการประชุมภายในราว 500 คน ซึ่งจะทยอยเดินทางด้วยรถไฟและรถบัสก่อนเข้าร่วมสัมมนาในวันที่ 29 พ.ย.นี้รวดเดียวจบ โดยไม่มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และคณะรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ เดินทางมาเป็นแขก ด้านคณะผู้จัดงานเผยไม่เสียใจและท้อแท้แต่จะเดินหน้าทำในสิ่งที่ควรทำ และแสดงความเข้มแข็งไม่ว่ารัฐบาลจะอยู่ในภาวะใดก็ตาม
การสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 26 ซึ่ง จ.สงขลา เป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 28-30 พ.ย.นี้ ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ไม่สมหวังอย่างที่คาด ล่าสุดประกาศเลื่อนการประชุมเหลือเพียงแค่วันที่ 29 พ.ย. เท่านั้น เพื่อให้งานทั้งหมดสามารถเดินหน้าต่อไป
วันนี้ (27 พ.ย.) นายสมพร สิริโปราณานนท์ รองประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา และประธานดูแลรับผิดชอบฝ่ายต้อนรับการสัมมนาครั้งนี้ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลประสบปัญหารอบด้าน และส่งผลกระทบต่อการเป็นแขกร่วมงานในครั้งนี้ ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศก่อนเริ่มงานเพียง 1 วันในที่สุด โดยผู้เข้าร่วมงานจะทยอยเดินทางมาตลอดในวันที่ 28 พ.ย. ทั้งทางรถไฟและรถบัส และเนื่องจากไม่สามารถโดยสารเครื่องบินได้
ทั้งนี้ หอการค้าจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำงานเป็นเจ้าภาพดังกล่าวได้มีประชุมด่วนแต่ละฝ่ายตลอดทั้งวัน และเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงกำหนด ซึ่งได้ลดไซส์การจัดงานเหลือเพียงการประชุมภายในเท่านั้น ทำให้ผู้ร่วมงานครั้งนี้เหลือเพียงระดับหัวกระทิที่จะประชุมเท่านั้นราว 500 คน ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด, รองผู้ว่าราชการจังหวัด, ประธานหอการค้าจังหวัด เป็นต้น จากเดิมที่รวมผู้ติดตามมีจำนวน 2,400 คน โดยการสัมมนาจะเริ่มตลอดทั้งวันของวันที่ 29 พ.ย. พร้อมงานเลี้ยงในช่วงค่ำ และประกาศแถลงการณ์จุดยืนของหอการค้าไทย ซึ่งจะเป็นฟันเฟืองสำคัญของภาคเอกชนที่จะขับเคลื่อนธุรกิจ ก่อนจะทำพิธีปิดในที่สุด
“ในชั่วโมงนี้ค่อนข้างจะหนักใจกับการเดินทางของผู้เข้าร่วม ทำให้ต้องเลื่อนการประชุมและเปลี่ยนแปลงกำหนดการในที่สุด แต่ส่วนของการเป็นเจ้าภาพ ทุกๆ ฝ่ายรวมทั้งฝ่ายต้อนรับก็จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเช่นเดิม ทั้งการสร้างความประทับใจและการดูแล จัดให้แขกได้ร่วมท่องเที่ยวภายในประเทศตามเดิมที่เตรียมกันไว้ แต่จำนวนผู้เข้าร่วมจะลดน้อยลงด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่เป็นใจ” นายสมพร กล่าวต่อและว่า
แม้ว่า จ.สงขลา จะใช้เวลาเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงานใหญ่ระดับประเทศครั้งนี้นานกว่า 1 ปี ทั้งผู้รับผิดชอบฝ่ายต่างๆ รวมถึงหน่วยงานความมั่นคงมีการประชุมเตรียมการอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เช่นกัน ที่มีการเปลี่ยนแปลงแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ซึ่งในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะการทำงานก็ไม่รู้สึกเสียใจ และไม่ย่อท้อในสิ่งที่ควรจะทำแต่อย่างใด
“แม้ว่าการประชุมในครั้งนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการณ์ เพราะผลกระทบปัญหาทางการเมือง ซึ่งเราไม่สามารถกำหนดได้ แต่มติของหอการค้าไทยก็เห็นควรแล้วว่าต้องเดินหน้าต่อไป และทำในสิ่งที่ควรทำ ดังนั้น ภาคเอกชนต้องแสดงความเข้มแข็งไม่ว่ารัฐบาลจะอยู่ในภาวะใดก็ตาม” นายสมพรกล่าวทิ้งท้าย
ด้านแหล่งข่าวในหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงกำหนดการงานสัมมนาซึ่งมีพิธีเปิดและปิดในวันที่ 29 พ.ย. เท่านั้น แต่ยังคงมีหัวข้อการสัมมนาเดิมทั้งหมด รวมทั้งปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ความร่วมมือภาครัฐและภาคเอกชนในการจัดทำแผนการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ” แต่เปลี่ยนจาก พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย
ส่วนภายหลังจากการประชุมเสร็จ ตามประเพณีจะยื่นข้อสรุปการประชุมทำเป็นสมุดปกขาวเพื่อยื่นให้กับรัฐบาลเพื่อให้นำไปปรับแก้ไขปัญหา แต่การประชุมครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีตัวนายกรัฐมนตรีเหมือนทุกปีเท่านั้นเอง เพราะการเมืองปัจจุบันไม่สามารถทำได้
“เป็นที่ทราบว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง หอการค้าไทยจึงต้องข้อเสนอที่เตรียมไว้คุยกับรัฐบาลในโอกาสต่อไป โดยไม่เน้นว่าจะเป็นรัฐบาลนี้หรือรัฐบาลไหน แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องเศรษฐกิจที่รัฐบาลต้องเร่งรัดแก้ไข เมื่อมาทำหน้าที่ก็ต้องแก้ปัญหาให้เอกชน” แหล่งข่าวคนเดิมกล่าวทิ้งท้าย
การสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 26 ซึ่ง จ.สงขลา เป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 28-30 พ.ย.นี้ ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ไม่สมหวังอย่างที่คาด ล่าสุดประกาศเลื่อนการประชุมเหลือเพียงแค่วันที่ 29 พ.ย. เท่านั้น เพื่อให้งานทั้งหมดสามารถเดินหน้าต่อไป
วันนี้ (27 พ.ย.) นายสมพร สิริโปราณานนท์ รองประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา และประธานดูแลรับผิดชอบฝ่ายต้อนรับการสัมมนาครั้งนี้ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลประสบปัญหารอบด้าน และส่งผลกระทบต่อการเป็นแขกร่วมงานในครั้งนี้ ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศก่อนเริ่มงานเพียง 1 วันในที่สุด โดยผู้เข้าร่วมงานจะทยอยเดินทางมาตลอดในวันที่ 28 พ.ย. ทั้งทางรถไฟและรถบัส และเนื่องจากไม่สามารถโดยสารเครื่องบินได้
ทั้งนี้ หอการค้าจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำงานเป็นเจ้าภาพดังกล่าวได้มีประชุมด่วนแต่ละฝ่ายตลอดทั้งวัน และเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงกำหนด ซึ่งได้ลดไซส์การจัดงานเหลือเพียงการประชุมภายในเท่านั้น ทำให้ผู้ร่วมงานครั้งนี้เหลือเพียงระดับหัวกระทิที่จะประชุมเท่านั้นราว 500 คน ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด, รองผู้ว่าราชการจังหวัด, ประธานหอการค้าจังหวัด เป็นต้น จากเดิมที่รวมผู้ติดตามมีจำนวน 2,400 คน โดยการสัมมนาจะเริ่มตลอดทั้งวันของวันที่ 29 พ.ย. พร้อมงานเลี้ยงในช่วงค่ำ และประกาศแถลงการณ์จุดยืนของหอการค้าไทย ซึ่งจะเป็นฟันเฟืองสำคัญของภาคเอกชนที่จะขับเคลื่อนธุรกิจ ก่อนจะทำพิธีปิดในที่สุด
“ในชั่วโมงนี้ค่อนข้างจะหนักใจกับการเดินทางของผู้เข้าร่วม ทำให้ต้องเลื่อนการประชุมและเปลี่ยนแปลงกำหนดการในที่สุด แต่ส่วนของการเป็นเจ้าภาพ ทุกๆ ฝ่ายรวมทั้งฝ่ายต้อนรับก็จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเช่นเดิม ทั้งการสร้างความประทับใจและการดูแล จัดให้แขกได้ร่วมท่องเที่ยวภายในประเทศตามเดิมที่เตรียมกันไว้ แต่จำนวนผู้เข้าร่วมจะลดน้อยลงด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่เป็นใจ” นายสมพร กล่าวต่อและว่า
แม้ว่า จ.สงขลา จะใช้เวลาเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงานใหญ่ระดับประเทศครั้งนี้นานกว่า 1 ปี ทั้งผู้รับผิดชอบฝ่ายต่างๆ รวมถึงหน่วยงานความมั่นคงมีการประชุมเตรียมการอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เช่นกัน ที่มีการเปลี่ยนแปลงแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ซึ่งในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะการทำงานก็ไม่รู้สึกเสียใจ และไม่ย่อท้อในสิ่งที่ควรจะทำแต่อย่างใด
“แม้ว่าการประชุมในครั้งนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการณ์ เพราะผลกระทบปัญหาทางการเมือง ซึ่งเราไม่สามารถกำหนดได้ แต่มติของหอการค้าไทยก็เห็นควรแล้วว่าต้องเดินหน้าต่อไป และทำในสิ่งที่ควรทำ ดังนั้น ภาคเอกชนต้องแสดงความเข้มแข็งไม่ว่ารัฐบาลจะอยู่ในภาวะใดก็ตาม” นายสมพรกล่าวทิ้งท้าย
ด้านแหล่งข่าวในหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงกำหนดการงานสัมมนาซึ่งมีพิธีเปิดและปิดในวันที่ 29 พ.ย. เท่านั้น แต่ยังคงมีหัวข้อการสัมมนาเดิมทั้งหมด รวมทั้งปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ความร่วมมือภาครัฐและภาคเอกชนในการจัดทำแผนการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ” แต่เปลี่ยนจาก พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย
ส่วนภายหลังจากการประชุมเสร็จ ตามประเพณีจะยื่นข้อสรุปการประชุมทำเป็นสมุดปกขาวเพื่อยื่นให้กับรัฐบาลเพื่อให้นำไปปรับแก้ไขปัญหา แต่การประชุมครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีตัวนายกรัฐมนตรีเหมือนทุกปีเท่านั้นเอง เพราะการเมืองปัจจุบันไม่สามารถทำได้
“เป็นที่ทราบว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง หอการค้าไทยจึงต้องข้อเสนอที่เตรียมไว้คุยกับรัฐบาลในโอกาสต่อไป โดยไม่เน้นว่าจะเป็นรัฐบาลนี้หรือรัฐบาลไหน แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องเศรษฐกิจที่รัฐบาลต้องเร่งรัดแก้ไข เมื่อมาทำหน้าที่ก็ต้องแก้ปัญหาให้เอกชน” แหล่งข่าวคนเดิมกล่าวทิ้งท้าย