กระบี่ -ชาวบ้านเขาล่อมบุกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จี้ผอ.เขตฯแจงกรณีย้ายผู้บริหารโรงเรียน ทั้งที่เป็นคนดี
วันนี้ ( 27 พ.ย. 2551) ชาวบ้าน ต.เขาใหญ่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ จำนวน กว่า 70 คน นำโดยนายสงบ สำแดงพันธ์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านเขาล่อม ต.เขาใหญ่ และนายปฐมชัย รอบคอบ สมาชิกสภาอบจ.กระบี่ เขตอ่าวลึก ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายเชียร ศรีเรือง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากระบี่ กรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากระบี่ ได้มีคำสั่งย้ายนาย พิชิต สมสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเขาล่อม ไปดำรงตำแหน่ง ที่โรงเรียนชุมชนบ้านนาเหนือ ทั้งที่นายพิชิต ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีเสมอมา ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ และต้องการทราบสาเหตุการโยกย้าย
นายปฐมชัย รอบคอบ ส.อบจ.กระบี่ เขตอ่าวลึก กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวบ้านเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานั้น สืบเนื่องจากทางชาวบ้านเขาล่อม ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งย้ายนายพิชิต สมสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเขาล่อม
ทั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่า นายพิชิต ซึ่งมารับตำแหน่งที่โรงเรียนบ้านเขาล่อม ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 โดยปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และพัฒนาโรงเรียนบ้านเขาล้อมในด้านต่างๆ ทั้งด้านบุคลากร ครู นักเรียน จนเป็นที่พอใจของชาวบ้านในพื้นที่ และเข้ากับชาวบ้านได้เป็นอย่างดี เป็นที่ยอมรับของส่วนราชการต่างๆ ในอำเภอ จึงได้ทำหนังสือพร้อมรายชื่อชาวบ้าน ไม่เห็นด้วยคำสั่งย้ายในครั้งนี้ยื่นต่อสพทกระบี่.ทบทวนคำสั่ง
ต่อมา นายประจักษ์ ช่างเรือ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากระบี่ ได้เชิญชาวบ้านพร้อมด้วย แกนนำ เข้าร่วมประชุมเพื่อหาข้อยุติในเรื่องดังกล่าว ที่ห้องประชุมเหลืองกระบี่ ชั้น 3 สนง.เขตพื้นที่การศึกษากระบี่
นายประจักษ์ ได้กล่าวชี้แจงว่า คำสั่งโยกย้ายนายพิชิต เป็นไปตามปกติ ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด ทั้งนี้เนื่องจากเห็นว่า นายพิชิต เป็นผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถ และเป็นนักพัฒนา จึงต้องการที่จะให้นายพิชิต ได้ย้ายดำรงตำแหน่งไปพัฒนาโรงเรียนชุมชนวัดนาเหนือ เพราะเป็นโรงเรียนที่ใหญ่กว่า จึงเห็นว่าควรที่จะย้ายไปดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนดังกล่าว
นายประจักษ์ กล่าวอีกว่า การที่นายพิชิต จะย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านนาเหนือหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของนายพิชิตเอง ไม่ได้เป็นการบังคับแต่อย่างใด การประชุมใช้เวลาประมาณ 30 นาที หลังจากชาวบ้านได้ฟังคำชี้แจงแล้ว ทั้งหมดต่างก็พอใจ และแยกย้ายกันกลับภูมิลำเนา
วันนี้ ( 27 พ.ย. 2551) ชาวบ้าน ต.เขาใหญ่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ จำนวน กว่า 70 คน นำโดยนายสงบ สำแดงพันธ์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านเขาล่อม ต.เขาใหญ่ และนายปฐมชัย รอบคอบ สมาชิกสภาอบจ.กระบี่ เขตอ่าวลึก ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายเชียร ศรีเรือง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากระบี่ กรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากระบี่ ได้มีคำสั่งย้ายนาย พิชิต สมสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเขาล่อม ไปดำรงตำแหน่ง ที่โรงเรียนชุมชนบ้านนาเหนือ ทั้งที่นายพิชิต ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีเสมอมา ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ และต้องการทราบสาเหตุการโยกย้าย
นายปฐมชัย รอบคอบ ส.อบจ.กระบี่ เขตอ่าวลึก กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวบ้านเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานั้น สืบเนื่องจากทางชาวบ้านเขาล่อม ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งย้ายนายพิชิต สมสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเขาล่อม
ทั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่า นายพิชิต ซึ่งมารับตำแหน่งที่โรงเรียนบ้านเขาล่อม ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 โดยปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และพัฒนาโรงเรียนบ้านเขาล้อมในด้านต่างๆ ทั้งด้านบุคลากร ครู นักเรียน จนเป็นที่พอใจของชาวบ้านในพื้นที่ และเข้ากับชาวบ้านได้เป็นอย่างดี เป็นที่ยอมรับของส่วนราชการต่างๆ ในอำเภอ จึงได้ทำหนังสือพร้อมรายชื่อชาวบ้าน ไม่เห็นด้วยคำสั่งย้ายในครั้งนี้ยื่นต่อสพทกระบี่.ทบทวนคำสั่ง
ต่อมา นายประจักษ์ ช่างเรือ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากระบี่ ได้เชิญชาวบ้านพร้อมด้วย แกนนำ เข้าร่วมประชุมเพื่อหาข้อยุติในเรื่องดังกล่าว ที่ห้องประชุมเหลืองกระบี่ ชั้น 3 สนง.เขตพื้นที่การศึกษากระบี่
นายประจักษ์ ได้กล่าวชี้แจงว่า คำสั่งโยกย้ายนายพิชิต เป็นไปตามปกติ ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด ทั้งนี้เนื่องจากเห็นว่า นายพิชิต เป็นผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถ และเป็นนักพัฒนา จึงต้องการที่จะให้นายพิชิต ได้ย้ายดำรงตำแหน่งไปพัฒนาโรงเรียนชุมชนวัดนาเหนือ เพราะเป็นโรงเรียนที่ใหญ่กว่า จึงเห็นว่าควรที่จะย้ายไปดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนดังกล่าว
นายประจักษ์ กล่าวอีกว่า การที่นายพิชิต จะย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านนาเหนือหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของนายพิชิตเอง ไม่ได้เป็นการบังคับแต่อย่างใด การประชุมใช้เวลาประมาณ 30 นาที หลังจากชาวบ้านได้ฟังคำชี้แจงแล้ว ทั้งหมดต่างก็พอใจ และแยกย้ายกันกลับภูมิลำเนา
