ชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าคดีการหายตัวไปของนายทานาฮาชิ ทาคาฮิเดะ นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น โดยระบุว่า ศพนิรนามที่ทางขึ้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา คือ นายทานาฮาชิ เนื่องจากการตรวจสอบทรัพย์สินที่พบ ถูกทิ้งไว้ระหว่างทางจากที่พักในกรุงเทพ และบริเวณที่พบศพ พิสูจน์ได้ว่าเป็นของผู้ตายกว่าร้อยละ 90 ขณะนี้รอเพียงผลเปรียบเทียบดีเอ็นเอ กับแม่ของผู้ตายเท่านั้น
พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า มีภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว เชื่อว่า คนร้ายน่าจะเป็นชาวญี่ปุ่น และมีไม่ต่ำวก่า 2 คน แต่จะมีคนไทยร่วมด้วยหรือไม่นั้นต้องรอผลการตรวจพิสูจน์อีกครั้ง ส่วนสาเหตุการสังหาร น่าจะเป็นการประสงค์ต่อทรัพย์
ล่าสุด ตำรวจพบคนร้ายนำบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายไปกดเงินทั้งในประเทศไทย และประเทศญี่ปุ่น ขณะนี้ตำรวจได้ประสานข้อมูลกับตำรวจ และเจ้าหน้าที่สถานทูตของประเทศญี่ปุ่น เพื่อติดตามจับคนร้ายแล้ว
นายทานาฮาชิ เดินทางเข้าออกประเทศไทยเป็นประจำ โดยใช้วีซ่า นักท่องเที่ยวจากกล้องวงจรปิดในที่พักก็พบว่า ก่อนหายไปผู้ตายได้เดินออกจากห้องด้วยความรีบร้อน จากนั้นก็มีชายต้องสงสัยอีกคน สวมถุงมือเข้าไปอยู่ในห้องประมาณ 10 นาที แล้วกลับออกมาพร้อมกระเป๋าเป้ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 2 เครื่อง ที่หายไปอาจจะมีข้อมูลสำคัญที่แสดงว่าคนร้ายกับผู้ชายรู้จักกันดี เช่นข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินร่วมกันเป็นต้น
พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า มีภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว เชื่อว่า คนร้ายน่าจะเป็นชาวญี่ปุ่น และมีไม่ต่ำวก่า 2 คน แต่จะมีคนไทยร่วมด้วยหรือไม่นั้นต้องรอผลการตรวจพิสูจน์อีกครั้ง ส่วนสาเหตุการสังหาร น่าจะเป็นการประสงค์ต่อทรัพย์
ล่าสุด ตำรวจพบคนร้ายนำบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายไปกดเงินทั้งในประเทศไทย และประเทศญี่ปุ่น ขณะนี้ตำรวจได้ประสานข้อมูลกับตำรวจ และเจ้าหน้าที่สถานทูตของประเทศญี่ปุ่น เพื่อติดตามจับคนร้ายแล้ว
นายทานาฮาชิ เดินทางเข้าออกประเทศไทยเป็นประจำ โดยใช้วีซ่า นักท่องเที่ยวจากกล้องวงจรปิดในที่พักก็พบว่า ก่อนหายไปผู้ตายได้เดินออกจากห้องด้วยความรีบร้อน จากนั้นก็มีชายต้องสงสัยอีกคน สวมถุงมือเข้าไปอยู่ในห้องประมาณ 10 นาที แล้วกลับออกมาพร้อมกระเป๋าเป้ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 2 เครื่อง ที่หายไปอาจจะมีข้อมูลสำคัญที่แสดงว่าคนร้ายกับผู้ชายรู้จักกันดี เช่นข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินร่วมกันเป็นต้น