สตูล - สายตรวจกรมป่าไม้ภาคใต้พบไม้อายุกว่า 100 ปี ถูกขบวนการลักลอบตัดเตรียมแปรรูปออกขายจนกลายเป็นเขาหัวโล้น มูลค่าความเสียหายกว่า 1.5 ล้านบาท โดยในระยะนี้มีการกระทำผิดมาก แต่มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลใหญ่ในพื้นที่ เคลียร์เส้นทางในการลำเลียงไม้ออกมาได้ ทำให้ยากต่อการจับกุมของเจ้าหน้าที่
วันนี้ (25 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธเนศ อัครบวร สายตรวจสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 18 (สงขลา) ร่วมกับสายตรวจกรมป่าไม้ภาคใต้ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สต.1 ทุ่งนุ้ย และตำรวจทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม 15 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าบุกรุกแผ้วถาง บริเวณป่าต้นน้ำ เขตอุทยานแห่งชาติป่าเขาแดง ป่าเขาค้อมและป่าเขาใหญ่ บ้านน้ำหรา หมู่ 6 ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล หลังสายข่าวแจ้งว่า มีกลุ่มคนเข้าลักลอบตัดไม้บริเวณดังกล่าว
จากการนำกำลังเข้าตรวจสอบ พบร่องรอยทางเท้าและรถยนต์ที่มีการลำเลียงไม้ออกจากพื้นที่ โดยทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่ากลุ่มคนลักลอบตัดไม้เพิ่งหลบหนีไปไม่นาน นอกจากนี้ยังพบไม้ท่อนที่เตรียมจะแปรรูปถูกตัดทิ้งกระจัดกระจายในพื้นที่กว่า 10 ไร่ โดยต้นไม้ที่ถูกโค่นล้มส่วนใหญ่เป็นเนื้อแข็งอย่างไม้กระบาก ขนาดเส้นรอบผ่าศูนย์กลาง 300 ซม. หรือขนาด 2 คนโอบ ซึ่งแต่ละต้นมีอายุไม่น้อยกว่า 100 ปีโดยคิดเป็นมูลค่าความเสียหายด้านป่าไม้ 1,500,000 บาท
ในทางการข่าวยังพบว่า ขบวนการมอดไม้จะลักลอบตัดไม้พร้อมการแปรรูปตามใบสั่งของนายทุนเท่านั้น โดยในระยะนี้มีการลักลอบตัดไม้กันอย่างโจ๋งครึ่ม แต่ยากต่อการจับกุมของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากกลุ่มคนดังกล่าว มีความชำนาญพื้นที่ต่อการหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ทำได้เพียงการยึดพื้นที่แผ้วถางพร้อมของกลางไม้ โดยปราศจากคนกระทำผิด ทำให้กลุ่มคนกระทำผิดฮึกเหิมและกลับมากระทำผิดอีกครั้ง
ทั้งนี้ การว่าจ้างการแปรรูปไม้แผ่นนั้นมีราคาสูงถึงแผ่นละ 250 บาท ซึ่งการลำเลียงแต่ครั้งนั้นไม่น้อยกว่า 200 แผ่น จึงเป็นแรงจูงใจให้มีการกระทำผิด นอกจากนี้ยังพบว่า มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลใหญ่ในพื้นที่เคลียร์เส้นทางในการลำเลียงไม้ออกมาได้ จึงทำให้ขบวนการมอดไม้ในเขตป่าสงวนฯ ของป่าต้นน้ำในพื้นที่ อ.ควนกาหลง ยังมีอยู่ ทำให้พบเห็นป่าไม้ถูกโค่นล้มตัดไม้แปรรูปขายและแผ้วถางทำสวนยางพาราจนเป็นเขาหัวโล้นเป็นจำนวนมาก