กระบี่ -ประธานหอการค้ากระบี่ ระบุปิดสนามบินสุวรรณภูมิชาติสูญเสียรายได้มหาศาล รวมทั้งสูญเสียภาพลักษณ์ในทางลบ ชี้ภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวกระบี่จะสูญเสียรายได้ 4-5 พันล้านในช่วงไฮซีซันระหว่างเดือนธันวาคม – มกราคม นี้
นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรบุกยึดท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ล่าสุด ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสั่งปิดสนามบินโดยสิ้นเชิงนั้นจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยทรุดหนักลงมากยิ่งขึ้น
ในส่วนภาคเอกชนมองเห็นผลกระทบอย่างร้ายแรง เพราะว่าสนามบินสุวรรณภูมิเป็นช่องทางที่จะนำนักท่องเที่ยวหรือนักธุรกิจเข้ามาในประเทศไทย เป็นช่องทางที่จะนำเม็ดเงินสกุลต่างๆจากนักท่องเที่ยว นักธุรกิจในเชิงการลงทุน วันนี้ข่าวแพร่กระจ่ายออกไปทั่วโลก ทำให้ต่างประเทศมีความกังวล มีความรู้สึกว่าความรุนแรงเกิดขึ้นทั่วประเทศไทย แต่ในความเป็นจริงแล้ว เกิดขึ้นเฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิและบางพื้นที่ในกรุงเทพเท่านั้น
จากภาพข่าวดังกล่าวที่ออกไปทางสำนักข่าว CNN หรือสำนักข่าวอื่นๆทั้งหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์นั้น ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างร้ายแรง เพราะว่าวันนี้ทุกภาคส่วน กำลังเจอปัญหาวิกฤตด้านการเงินทั่วโลกอยู่แล้ว ภาคเอกชนกำลังประคองตัวในการทำธุรกิจเพื่อที่จะส่งออก หรือว่าการเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้หันมาเที่ยวในเมืองไทย ตรงนี้ก็จะเป็นตัวหนึ่งที่จะมองให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศชะงักโดยสิ้นเชิง
นักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าออกได้ทั้งในและนอกประเทศได้ เป็นสิ่งที่ชาวต่างชาติถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งเลยทีเดียว ในเรื่องของความปลอดภัย เรื่องที่สองการเดินทางเข้ามาแล้วไม่สามารถออกนอกประเทศได้ หรือไม่สามารถต่อสายการบินต่างๆจากกรุงเทพฯไปยังประเทศต่างๆได้ จะส่งผลกระทบอย่างแรงต่อภาคเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวจะโดนเป็นอันดับแรก
ประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวต่อไปอีกว่า จังหวัดกระบี่ได้มีการประชุมในส่วนของภาคเอกชน ผู้ประกอบการ และหน่วยงานที่เกี่ยว และได้ประเมินสถานการณ์ว่าถ้าเกิดความรุนแรงและมีความยืดเยื้อ เป็นเวลานาน ความเสียหายจะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงมากทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ทุกกลุ่มชน ทุกสาขาอาชีพ ทุกวันนี้เกิดความบอบช้ำเหลือเกินแล้ว อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทุกภาคส่วนยุติในการกระทำดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนก็ตามที คงไม่ต้องบอกว่ากลุ่มไหนผิดหรือถูก แต่วันนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นรุนแรงและบานปลายมากเกินไปแล้ว ทุกคนต้องช่วยกันรับผิดชอบ และรับภาระกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมีความรับผิดชอบร่วมกัน
ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าภาครัฐหรือกลุ่มต่างๆที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกันให้ยุติการบุกยึดสนามบิน ซึ่งเป็นตัวเงินที่จะเข้ามาในประเทศไทยเป็นอันดับแรง ซึ่งถ้านักท่องเที่ยวเข้าประเทศไม่ได้จะก่อให้เกิดความเสียหายอันใหญ่หลวง และเกิดผลกระทบเป็นวงกว้างในอนาคตทุกๆด้าน
ประธานหอการค้ากระบี่ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้จังหวัดกระบี่สุญเสียรายได้อย่างมหาศาลเช่นกัน เพราะช่วงนี้เป็นช่วงของไฮซีซัน ของจังหวัดกระบี่ จากข้อมูลในขณะนี้ ไฟลท์บินปลายเดือนพฤศจิกายน – เดือนมกราคม 2552นี้ ไฟลท์บินกระบี่เต็ม ไม่ว่าจะเป็นแอร์เอเชีย การบินไทย ก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีถึงแม้สถานการณ์ทางการเงินของโลก จะมีผลทำให้นักท่องเที่ยวชะงักก็ตาม จากการจองโรงแรม แม้จะไม่ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ เท่ากับปีที่แล้ว แต่อยู่ที่ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ไฟลต์บินก็เต็ม
หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว มีนักท่องเที่ยวบางส่วนยกเลิกในการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยและจังหวัดกระบี่ เพราะไม่สามารถเดินทางได้ เนื่องจากเกรงความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้ต้องยกเลิกการเดินทางมายังประเทศไทยและจังหวัดกระบี่ ช่วงเดือนธันวาคม – มกราคม เป็นช่วงพีทของกระบี่(ช่วงท่องเที่ยวคึกคัก) ความเสียหายที่เกิดขึ้นในส่วนของจังหวัดกระบี่ คิดเป็นตัวเงินนับพันล้านบาทเลยทีเดียว เพราะช่วง 2 เดือนนี้เท่ากับ 4 เดือน ของช่วงโลว์ซีซัน
สำหรับรายได้จากภาคการท่องเที่ยว ปี 50 กระบี่มีรายได้ 24,000 ล้านบาท ในช่วงธันวาคม – มกราคมอยู่ที่ 4 – 5 พันล้านบาท เพราะฉะนั้นในสองเดือนนี้ คือธันวาคม - เดือนมกราคม จังหวัดกระบี่จะได้สูญเสียรายได้ประมาณ 4-5 พันล้านบาท เปรียบเทียบรายได้กับปีที่ผ่านมา
นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรบุกยึดท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ล่าสุด ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสั่งปิดสนามบินโดยสิ้นเชิงนั้นจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยทรุดหนักลงมากยิ่งขึ้น
ในส่วนภาคเอกชนมองเห็นผลกระทบอย่างร้ายแรง เพราะว่าสนามบินสุวรรณภูมิเป็นช่องทางที่จะนำนักท่องเที่ยวหรือนักธุรกิจเข้ามาในประเทศไทย เป็นช่องทางที่จะนำเม็ดเงินสกุลต่างๆจากนักท่องเที่ยว นักธุรกิจในเชิงการลงทุน วันนี้ข่าวแพร่กระจ่ายออกไปทั่วโลก ทำให้ต่างประเทศมีความกังวล มีความรู้สึกว่าความรุนแรงเกิดขึ้นทั่วประเทศไทย แต่ในความเป็นจริงแล้ว เกิดขึ้นเฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิและบางพื้นที่ในกรุงเทพเท่านั้น
จากภาพข่าวดังกล่าวที่ออกไปทางสำนักข่าว CNN หรือสำนักข่าวอื่นๆทั้งหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์นั้น ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างร้ายแรง เพราะว่าวันนี้ทุกภาคส่วน กำลังเจอปัญหาวิกฤตด้านการเงินทั่วโลกอยู่แล้ว ภาคเอกชนกำลังประคองตัวในการทำธุรกิจเพื่อที่จะส่งออก หรือว่าการเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้หันมาเที่ยวในเมืองไทย ตรงนี้ก็จะเป็นตัวหนึ่งที่จะมองให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศชะงักโดยสิ้นเชิง
นักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าออกได้ทั้งในและนอกประเทศได้ เป็นสิ่งที่ชาวต่างชาติถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งเลยทีเดียว ในเรื่องของความปลอดภัย เรื่องที่สองการเดินทางเข้ามาแล้วไม่สามารถออกนอกประเทศได้ หรือไม่สามารถต่อสายการบินต่างๆจากกรุงเทพฯไปยังประเทศต่างๆได้ จะส่งผลกระทบอย่างแรงต่อภาคเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวจะโดนเป็นอันดับแรก
ประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวต่อไปอีกว่า จังหวัดกระบี่ได้มีการประชุมในส่วนของภาคเอกชน ผู้ประกอบการ และหน่วยงานที่เกี่ยว และได้ประเมินสถานการณ์ว่าถ้าเกิดความรุนแรงและมีความยืดเยื้อ เป็นเวลานาน ความเสียหายจะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงมากทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ทุกกลุ่มชน ทุกสาขาอาชีพ ทุกวันนี้เกิดความบอบช้ำเหลือเกินแล้ว อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทุกภาคส่วนยุติในการกระทำดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนก็ตามที คงไม่ต้องบอกว่ากลุ่มไหนผิดหรือถูก แต่วันนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นรุนแรงและบานปลายมากเกินไปแล้ว ทุกคนต้องช่วยกันรับผิดชอบ และรับภาระกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมีความรับผิดชอบร่วมกัน
ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าภาครัฐหรือกลุ่มต่างๆที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกันให้ยุติการบุกยึดสนามบิน ซึ่งเป็นตัวเงินที่จะเข้ามาในประเทศไทยเป็นอันดับแรง ซึ่งถ้านักท่องเที่ยวเข้าประเทศไม่ได้จะก่อให้เกิดความเสียหายอันใหญ่หลวง และเกิดผลกระทบเป็นวงกว้างในอนาคตทุกๆด้าน
ประธานหอการค้ากระบี่ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้จังหวัดกระบี่สุญเสียรายได้อย่างมหาศาลเช่นกัน เพราะช่วงนี้เป็นช่วงของไฮซีซัน ของจังหวัดกระบี่ จากข้อมูลในขณะนี้ ไฟลท์บินปลายเดือนพฤศจิกายน – เดือนมกราคม 2552นี้ ไฟลท์บินกระบี่เต็ม ไม่ว่าจะเป็นแอร์เอเชีย การบินไทย ก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีถึงแม้สถานการณ์ทางการเงินของโลก จะมีผลทำให้นักท่องเที่ยวชะงักก็ตาม จากการจองโรงแรม แม้จะไม่ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ เท่ากับปีที่แล้ว แต่อยู่ที่ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ไฟลต์บินก็เต็ม
หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว มีนักท่องเที่ยวบางส่วนยกเลิกในการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยและจังหวัดกระบี่ เพราะไม่สามารถเดินทางได้ เนื่องจากเกรงความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้ต้องยกเลิกการเดินทางมายังประเทศไทยและจังหวัดกระบี่ ช่วงเดือนธันวาคม – มกราคม เป็นช่วงพีทของกระบี่(ช่วงท่องเที่ยวคึกคัก) ความเสียหายที่เกิดขึ้นในส่วนของจังหวัดกระบี่ คิดเป็นตัวเงินนับพันล้านบาทเลยทีเดียว เพราะช่วง 2 เดือนนี้เท่ากับ 4 เดือน ของช่วงโลว์ซีซัน
สำหรับรายได้จากภาคการท่องเที่ยว ปี 50 กระบี่มีรายได้ 24,000 ล้านบาท ในช่วงธันวาคม – มกราคมอยู่ที่ 4 – 5 พันล้านบาท เพราะฉะนั้นในสองเดือนนี้ คือธันวาคม - เดือนมกราคม จังหวัดกระบี่จะได้สูญเสียรายได้ประมาณ 4-5 พันล้านบาท เปรียบเทียบรายได้กับปีที่ผ่านมา