ระนองเข้มโรงฮิงญาหนีเข้าเมือง

ระนอง-จังหวัดระนองออกมาตรการเข้ม ป้องกันและแก้ไขปัญหาการหลบหนีเข้าเมืองของชนกลุ่มน้อยโรฮิงญา จากประเทศพม่า

นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ ผอ.รมน.จังหวัดระนอง เปิดเผยว่า จังหวัดระนอง ร่วมกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนแยก 1, กองเรือภาคที่ 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้กำหนดแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการหลบหนีเข้าเมืองของชาวโรฮิงญา จากประเทศพม่า ที่มักจะลักลอบอพยพเข้ามาในน่านน้ำของจังหวัดระนอง หลังจากหมดฤดูมรสุมไว้ 4 มาตรการหลัก

คือ 1. การสกัดกั้น แบ่งเป็น 3 ชั้น คือ การสกัดกั้นบริเวณเขตน่านน้ำ ให้ทหารเรือจากกองเรือภาคที่ 3 เป็นหน่วยปฏิบัติ การสกัดกั้นในเขตน่านน้ำตอนใน ให้ตำรวจน้ำและกำลังในพื้นที่ลาดตระเวนเฝ้าระวัง และ การสกัดกั้นตามแนวชายฝั่งและเกาะแก่ง ใช้กองกำลังประจำถิ่น กองกำลังประชาชนที่ผ่านการอบรมเฝ้าระวังและแจ้งข้อมูลข่าวสาร

2. การปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย เมื่อมีการจับกุมกลุ่มชาวโรฮิงญาให้สืบสวน ซักถาม รวบรวมข้อมูลเพื่อขยายผลสู่กลุ่มขบวนการ เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้นำพา

3. การผลักดัน เมื่อพบเรือของกลุ่มโรฮิงญาจะผลักดันออกนอกน่านน้ำไทยทันที หากเล็ดลอดขึ้นฝั่งมาได้ก็จะจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย และผลักดันออกนอกประเทศตามขั้นตอนของการตรวจคนเข้าเมือง

4. การประชาสัมพันธ์รณรงค์ปลุกจิตสำนึกของประชาชนในพื้นที่ ให้ตระหนักถึงภัยคุกคามและผลกระทบจากการหลบหนีเข้าเมือง และประสานกลุ่มเครือข่ายชาวประมงให้เฝ้าระวังและแจ้งข้อมูลข่าวสารให้แก่ทางราชการด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ผอ.รมน.จังหวัดระนอง กล่าวว่า ในปีนี้มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาในการปฏิบัติงานเหมือนกับปีที่ผ่านมาเพราะ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนแยก 1 รับเป็นเจ้าภาพหลัก ทำให้การประสานการปฏิบัติมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับปีงบประมาณ 2551 ที่ผ่านมามีชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญาอพยพเข้ามายังจังหวัดระนองและถูกจับกุม จำนวน 4,886 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่ถูกจับกุมจำนวน 2,763 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 77

สำหรับในปีงบประมาณ 2552 แม้ว่าจะยังไม่มีการอพยพเข้ามา แต่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมที่ประประสานการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสด้วย