ศูนย์ข่าวศรีราชา - กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี เร่งก่อสร้างเขื่อนกันทรายและคลื่น บริเวณอ่าวอ่างศิลา มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ให้เรือประมงเทียบท่า พร้อมจัดทำประชาสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากส่วนราชการในท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่
วันนี้ (11 พ.ย.) ที่บริเวณศาลาอเนกประสงค์เทศบาลตำบลอ่างศิลา โดยนายธานี สามารถกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี และชาวบ้านบริเวณอ่างศิลา ได้มาร่วมรับฟังโครงการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
นายธานี กล่าวว่า ตำบลอ่างศิลาเป็นพื้นที่ชายฝั่งทะเลในเขตอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ประกอบอาชีพประมงและเพาะเลี้ยงน้ำ โดยเรือประมงส่วนใหญ่จะเข้าจอดเทียบเรือบริเวณท่าเทียบเรืออ่างศิลามากกว่า 100 ลำ และเนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้เป็นทะเลเปิดไม่มีเกาะกำบังคลื่นลมในช่วงฤดูมรสุม จึงเกิดลมแรง และคลื่นจัด ทำให้เรือที่เทียบท่าอยู่ถูกคลื่นลมซัดกระแทกเข้ากับท่าเทียบเรือจนเกิดความเสียหายไปหลายลำแล้ว
โครงการดังกล่าวได้มีแผนงานมาตั้งแต่ในปี 2545 และได้รับอนุมัติงบประมาณในการดำเนินการก่อสร้างในช่วงนี้ โดยกรมฯได้ว่าจ้างบริษัท บริษัท ยู.ซี.ดี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มาดำเนินการก่อสร้าง โดยเริ่มต้นสัญญาเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2551 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 15 มกราคม 2553 มีมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 113,800,000 บาท ประกอบด้วยเขื่อนกันคลื่น 3 ตัววาง สลับกัน ซึ่งเมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วจะช่วยให้สามารถป้องกันคลื่นได้ ส่งผลให้พื้นที่ด้านหลังเขื่อนจะมีคลื่นสงบ ทำให้มีเสถียรภาพและความปลอดภัยของการจอดเรือ และเป็นพื้นที่จอดเรือหลบคลื่นลมในฤดูมรสุมได้เป็นอย่างดี
นายธานี กล่าวต่อไปว่า โครงการนี้ทางกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาของพี่น้องชาวประมงในพื้นที่ตำบลอ่างศิลา โดยได้จัดสรรงบประมาณมาดำเนินการก่อสร้างเขื่อนกันทรายและคลื่น เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะพี่น้องที่ประกอบอาชีพด้านประมง ซึ่งถือเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนชาวอ่างศิลาและจังหวัดชลบุรี
ด้าน นายวิเชียร ประดิษฐ์ ชาวประมงอ่างศิลา กล่าวถึงโครงการก่อสร้างเขื่อนกันทรายและคลื่นอ่างศิลานั้นเป็นสิ่งที่ดีต่อชาวประมง เพราะที่ผ่านมาเมื่อถึงหน้าลมตะวันออก ซึ่งตรงในช่วงเดือนนี้คลื่นลมจะแรงมาก โดยเรือไม่สามารถจอดทอดสมอบริเวณดังกล่าวได้ สร้างความเดือดร้อนต่อชาวประมงเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากมีโครงการนี้ ปัญหาดังกล่าวจะหมดไป และในอนาคตบริเวณหลังเขื่อนกันคลื่นก็จะเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
การดำเนินโครงการนี้ ขอให้เร่งดำเนินการโดยเร็ว และให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ชาวบ้านก็คงไม่คัดค้านอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม หลังโครงการนี้เสร็จเรียบร้อยก็ต้องป้องกันไม่ให้ใครไปครอบครองหรือใช้พื้นที่บริเวณนั้นอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต